กู้ชีพเกือบตาย! เมื่อคนไข้กลายเป็น "เจสัน วอร์ฮีส์" ..เลื่อยรถเละทั้งคัน
หน่วยกู้ชีพเกือบเอาชีวิตไปทิ้งซ่ะแล้ว เมื่อต้องไปรับตัวคนไข้คลั่งยาเสพติด ซึ่งทางบรรดาญาติๆ ก็พยายามที่จะปกปิดข้อมูลบางอย่าง แต่แล้วจู่ๆ ก็ต้องเจอกับเหตุการณ์สุดระทึก เมื่อคนไข้ได้กลายเป็น “เจสัน วอร์ฮีส์” ซ่ะงั้น ใช้เลื่อยไฟฟ้าพังรถจนเละทั้งคัน ไม่มีใครช่วยได้เลย แต่ต้องขอชื่นชมพี่ พขร.ใจเด็ดมาก พากันรอดตายทั้งคัน
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ได้มีบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ “โจโจ้ คนชิคชิค” ซึ่งก็เป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ได้ออกมาโพสต์แชร์เล่าเรื่องราวนาทีชีวิตไปรับตัวคนป่วย แต่เกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะญาติปกปิดข้อมูลบางอย่าง โดยระบุว่า
30/11/66 #บันทึกไว้ว่านี่คือเหตุการณ์ระทึกขวัญที่สุด
19.45 น. รับเเจ้งจาก1669 ชายไทยกินยาเบื่อหนู มีอาการปวดท้อง ให้กู้ชีพออกรับที่บ้าน ญาติเร่งให้รถออกรับโดยเร็ว บอกผู้ป่วยปวดท้องมาก
19.46น.ซักถามอาการทางโทรศัพท์ ปฏิเสธการใช้substance และพยายามบอกให้ทีมไปให้เร็ว
19.47น. ทีมออกรับ โดยมีพยาบาล1คน AEMT1 คน EMT-B 1 คนและพขร.1 คน
20.15น.ถึง scene บ้านผู้ป่วยต้องเข้าไปสุดซอย และเป็นซอยตัน มีชาวบ้านใกล้เคียงออกมาดูที่หน้าบ้านของตัวเองมากมาย บางคนออกมาเดินที่ถนนภายในซอยโดยมีทีท่าเเตกตื่น
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ก็ได้มีสุนัข 3 ตัว เห่า เเละพยายามที่จะวิ่งตามรถกู้ชีพ ซึ่งก็ได้ขัดขวางต่อการปฏิบัติงาน จนทำให้ทางทีมไม่สามารถที่จะออกไปประเมินคนไข้ได้ เพราะ scene ไม่ safe และในระหว่างนั้น ก็ได้ยินเสียงดังตุ๊บ?! ที่บนหลังคารถ เหมือนกับมีของเเข็งมากระทบที่บนหลังคา แต่ก็มองไม่เห็นว่ามันเป็นอะไร เพราะบริเวณรอบๆ นั้นเป็นป่ามืดสนิท ไม่มีแสงสว่างอื่นใดนอกจากเเสงจากตัวรถ และชาวบ้านก็เริ่มที่จะเเตกตื่น
ต่อมา ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเลื่อยไฟฟ้าเริ่มดังขึ้น…หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงชาวบ้านต่างพากันตะโกนว่ าอย่าทำเขา ในวินาทีนั้นเองสถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดี จึงทำให้คนขับรถทำการล็อคประตู และก็รีบถอยรถออกจาก scene ซึ่ง scene นั้น มันเป็นซอยตัน เเละเเคบมากต้องเข้า-ออกเพียงทางเดียวเท่านั้น
ทันใดนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงดังมาจากท้ายรถ พขร.ได้มองจากกระจกมองข้าง ก็เห็นว่าคนไข้ได้ใช้เลื่อยไฟฟ้าเข้ามาเฉือนกระจกประตูท้ายรถตู้ ซึ่งมี EMT-B อยู่ท้ายรถตู้ ซึ่งก็หลบได้ทัน ไม่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นทางคนไข้ก็ใช้เลื่อยไฟฟ้ามาเฉือนกระจกด้านข้างซ้ำ บริเวณใกล้เคียงกับบริเวณส่วนหน้ารถตู้ที่มีเจ้าหน้าที่โดยสารอยู่ ขณะนั้นทุกคนในรถต่างก็พยายามหลบเข้าไปใต้ท้องรถ เพื่อที่จะป้องกันอันตราย เเละร้องไห้กันด้วยความหวาดกลัว เหมือนกำลังเผชิญกับความอันตราย/ความตาย
ทุกคนต่างเพ่งมองไปที่รอบๆ ตัวรถว่า ใครคือคนทำ เเละคนทำอยู่ทิศทางไหนของรถ แต่มองไม่เห็นเลย เพราะว่ารอบข้างนั้นมืดมาก เหมือนเราตกเป็นเป้า! เราก็ได้ร้องขอความช่วยเหลือให้หยุด แต่ไม่มีใครสามารถช่วยเราได้ นอกจากพวกเราจะต้องรีบออกจากจุดนี้โดยเร็วที่สุด
ท้ายที่สุด พขร.ก็ทำหน้าที่ได้ดีมากๆ เขาพยายามกลับรถในช่องทางแคบโดยเร็ว และพาทุกคนออกจากพื้นที่อันตรายนั้นมาได้โดยปลอดภัย สรุปก็คือคนไข้คลุ้มคลั่งยาเสพติด แต่ญาติปกปิดข้อมูล ไม่ยอมบอกความจริง ขอบคุณบรรดาสุนัข 3 ตัว ที่เห่าไม่ยอมให้ลงจากรถ วินาทีนั้นคือ หวาดกลัวสุดๆ แต่พอรอดออกมาได้ ทุกคนต่างก็กอดให้กำลังกัน เเละพากันโล่งใจในที่สุด
ตอนนี้ ทุกคนก็มีกำลังใจที่ดีแล้ว ไม่ได้ panic หรือ PTSD แต่อย่างใด ขอบคุณทุกพลังของ ERTream ที่ได้คลี่คลายวิกฤตนี้ไปได้ด้วยดี ทางหน่วย 1669 ก็ยังคงทำงานอย่างหนัก เบอร์โทร 1669 โทรได้กรณีอุบัติเหตุ และเจ็บป่วยฉุกเฉินเท่านั้น! และขอความกรุณาทุกท่านหากพบว่ามีคนคลุ้มคลั่งให้เเจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ใช่ให้รถพยาบาลออกมารับ ขอความกรุณาอย่าปกปิด บิดเบือนความจริง ความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ทุกเวลา เเละทุกวินาที ทุกคนที่ทำงาน EMS โปรดศึกษาจากเคสนี้ด้วยนะ ทีมก็ยังคงทำงานได้ปกติดี เพราะมีพลังใจที่แข็งแรงและเข้มเเข็ง