หนังคนละม้วน!! ความจริงปรากฏหลังดูวงจรปิด..เด็กแสบโกหก จงใจปล่อยหมา
เจ้าของน้องหมาไซบีเรียนสุดช้ำใจ หัวใจแทบสลาย เมื่อเด็กแสบตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ หลังจากที่ได้เปิดกล้องวงจรปิดดู ถึงได้รู้ความจริง ที่แท้ก็กลายเป็นหนังคนละม้วนเลย
เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2566 ที่ผ่านมา ทางเพจเฟซบุ๊คที่ชื่อว่า Maneewan Sandee ซึ่งเธอเป็นเจ้าของสุนัขไซบีเรียนที่ตกเป็นข่าว ได้ทำการเปิดกล้องวงจรปิดดู จนความจริงได้ปรากฏ ที่แท้เด็กเหล่านั้นไม่ได้เข้ามาเพื่อที่จะเก็บลูกบอลตามที่ได้อ้างแต่อย่างใด แต่กลับพูดจาโกหกทั้งหมด โดยภาพจากกล้องก็ยืนยันได้ชัดเจนเลยว่า เด็กมีความจงใจที่จะเข้ามาแหย่และจะแกล้งสุนัข โดยโพสต์ได้ระบุว่า #เรื่องเจ็บใจ #เด็กโกหก
โดยก่อนที่จะเปิดกล้องวงจรปิดดู ก็มีคุณลุงเพื่อนบ้านท่านหนึ่งได้แจ้งว่า เห็นเด็กมาเปิดรั้ว และเด็กก็ยอมรับสารภาพว่า ได้เปิดจริงเพราะว่าจะเข้ามาเก็บลูกบอลภายในบ้าน โดยนั่งร้องไห้ที่หน้าบ้านเรา รู้สึกเสียใจที่ได้ทำหมาหลุดไป ถ้ากลับบ้านไปแล้ว พ่อแม่ก็คงต้องตีผมแน่ๆ ทางคุณลุงก็ปลอบใจไปว่า ถ้าไม่ได้ตั้งใจ ก็ไม่ต้องเสียใจนะ แล้วก็บอกให้กลับบ้านไปก่อน
หลังจากนั้น พอเราได้ไปรับศพน้องหมามาถึงยังที่บ้าน คุณลุงก็ได้บอกให้เราไปตามผู้ปกครองของเด็กทั้ง 2 คนมาคุยกัน พอเราไปถึงบ้าน เด็กเหล่านั้นก็ได้ยกมือไหว้ บอกขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจครับ แล้วก็ร้องไห้เสียใจ แสดงสีหน้าออกมาว่าสำนึกผิด เราก็ยอมใจอ่อน ก็เลยเรียกผู้ปกครองของเด็กมาคุย เพื่อรับรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ได้ตักเตือน และแจ้งด้วยว่า เราก็ต้องซ่อมรถให้กับคนที่หมาตัดหน้ารถเขาด้วย แล้วเราก็ขอตัวเพื่อไปทำศพน้องหมาก่อน หลังจากนั้นจึงแยกย้ายกลับบ้าน
พอตกดึกนั้น เราก็ได้กลับมาดูรายละเอียดต่างๆ ทางกล้องวงจรปิด
เอ้า!!! นี่เด็กมาแกล้งหมา มาแหย่หมา เอาไม้แบดมาตี แล้วก็ยังปากุญแจเข้ามาในบ้าน และทำการเปิดรั้วบ้าน วิ่งหนีล่อหมาให้วิ่งตาม ต่างสนุกสนาน เสียงดังกันใหญ่ (ไหนวะ!!! บอกมาเก็บบอล)
พอรุ่งเช้าของวันจันทร์ที่ 27 พ.ย.2566 ที่ผ่านมา ก็มีบรรดาเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ที่ได้เคยเจอเด็กพวกนี้มาบุกรุกบ้าน ก็ได้ทักมาบอก อีกทั้งยังมาคุยถึงหน้าบ้าน โดยบอกว่าบ้านเขาเองก็โดน เด็กเหล่านี้แอบเข้ามาในบ้าน ไปหยิบของบ้าง ปีนเข้ามาบ้านบ้าง ปล่อยหมา แหย่หมา บลาๆ คือ มันไม่ใช่บ้านเราบ้านแรกที่เจอน่ะ แต่บ้านคนอื่นๆ ก็เจอเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้มีการสูญเสียถึงชีวิต แค่ทรัพย์สินเสียหายเท่านั้น เด็กก็เลยใช้มุกเดิมๆ บอกว่า ผมเข้าไปเก็บบอล และขอโทษ จบ!!! คนอื่นก็เลยไม่ได้ให้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร * มีมากกว่า 5 หลังแล้วที่ต้องโดนแบบนี้
คิดว่าเด็กคงจะโกหกจนเคยตัว แก้ตัวแล้วก็พ้นผิดจนติดมากลายเป็นนิสัย ตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ ไม่เคยได้รับบทเรียน ไม่จำ ไม่เคยได้สำนึกผิดจริงๆ ทำแล้วทำอีก นี่เด็กอายุแปดเก้าขวบเอง ไม่คิดเลยว่าจะร้ายได้ขนาดนี้ ทั้งปั้นสีหน้า ทั้งคำพูด หลอกให้เราใจอ่อน เด็กสมัยนี้มันร้ายกาจกว่าที่เราคิดกันอีก เรียนโรงเรียนดี พ่อแม่ก็ทำงานมีฐานะมั่นคง อยู่บ้านหลังใหญ่โต ไม่ได้แปลว่าเด็กจะนิสัยดี มันเกินเด็ก มันคือ ภัยสังคม นี่แค่ยังเด็กน่ะ ไม่อยากจะนึกถึงตอนมันโตเลย...
ที่เลือกซื้อหมู่บ้านนี้ ก็เพราะหวังว่าจะได้เจอกับสภาพแวดล้อม สังคม ผู้คนที่ดี ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอเรื่องเลวร้าย และเด็กร้ายๆ แบบนี้เลย