นักวิชาการกฎหมาย ชี้ แม้เด็กอายุ 13 ไม่ต้องการเบิกความเท็จเพราะไร้เดียงสา แต่อาจเป็นช่องทางที่ถูกผู้ใหญ่ชักจูงได้
""_____ #พยานเด็ก เป็นพยานบุคคลทำนองเดียวกับพยานบุคคลทั่วๆไป เพียงแต่เด็กอาจจะมีประสบการณ์น้อยหรือไม่มีคติส่วนตัว แต่ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยวางหลักเกี่ยวกับพยานเด็กเอาไว้ในทำนองว่า #แม้เด็กจะไม่มีความต้องการส่วนตัวที่จะเบิกความเท็จหรือให้การเท็จปรักปรำผู้ใดก็ตาม เพราะยังไร้เดียงสา
แต่ด้วยความไร้เดียงสา #ก็เป็นช่องทางให้ถูกผู้ใหญ่ชักจูงได้ง่าย และมักจะทำตามผู้ใหญ่ที่ชักจูงเช่นกัน โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่เด็กกลัวหรือให้ความเคารพนับถือ เช่น พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เป็นต้น
ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 440/2539 วินิจฉัยว่า
"".....ประจักษ์พยานโจทก์เป็นเด็กอายุ 7 ปี #มีโอกาสถูกเสี้ยมสอนให้บิดเบือนข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่น แม้จะให้การชั้นสอบสวนว่าขณะเกิดเหตุพยานวิ่งตามผู้ตายไปในสวน เห็นจำเลยใช้มีดพร้าฟันผู้ตายจึงวิ่งมาบอกมารดาพยาน และมารดามาดูพบว่าผู้ตายถูกฟันถึงแก่ความตายและพบจำเลยกำลังล้างมืออยู่ที่บ่อน้ำใกล้ที่เกิดเหตุ ก็เป็นพยานชั้นสองทั้งมิได้ให้การในระยะกระชั้นชิดกับเวลาเกิดเหตุ และได้ความจากเจ้าพนักงานตำรวจผู้ร่วมสอบสวนคดีซึ่งเป็นพยานโจทก์อีกปากหนึ่งว่า #พยานไม่ได้ยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายขณะที่เจ้าพนักงานจัดให้พยานชี้ตัวคนร้ายอีกด้วย ดังนั้น เมื่อพยานมาเบิกความในชั้นพิจารณาย่อมเป็น พยานชั้นหนึ่ง ชอบที่ศาลจะรับฟังคำเบิกความในชั้นพิจารณาเป็นสำคัญ ส่วนพยานที่เหลืออยู่อีกล้วนแต่เป็นพยานบอกเล่า #ทั้งไม่มีพยานพฤติเหตุแวดล้อมอื่นใดที่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์อีก พยานหลักฐานโจทก์จึงรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง .....""
ดังนั้น พยานเด็ก จะมีน้ำหนักน่าเชื่อถือหรือไม่ #จะถือเอาคำพูดอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องดูพยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีด้วย และจะต้องไม่ขัดกับพยานอื่นๆที่น่าเชื่อถือด้วยเช่นกัน
คดีของน้าเดช คนขับรถตู้ ปรากฏว่ามีผู้โดยสารที่นั่งมากับรถตู้ดังกล่าวมายืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์ข่มขืนเกิดขึ้นและเด็กถูกส่งลงจากรถไปจริงๆและเด็กไม่ได้ลงเป็นคนสุดท้าย ก็ถือว่า #ถ้อยคำของเด็กขัดกับพยานคนกลางอื่นๆ หากคดีอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ก็จะต้องทำการสอบสวนว่าเหตุการณ์ไหนจริงกันแน่ ระหว่าง ถ้อยคำของเด็ก กับถ้อยคำของผู้โดยสารคนอื่นๆ หากคดีอยู่ในชั้นศาลก็เป็นหน้าที่จำเลยจะต้องไปแสวงหาพยานหลักฐานมาสนับสนุนข้ออ้างของพยานที่เป็นผู้โดยสาร
ซึ่ง ณ ปัจจุับน #ศาลไม่ได้เชื่อถือถ้อยคำของพยานเด็กเพียงฝ่ายเดียวเสมอไปแล้ว เพราะศาลมีประสบการณ์และความคิดเช่นกันว่า แม้พยานจะเป็นเด็ก ก็อาจจะเบิกความหรือให้การเท็จได้ แต่ศาลจะดูพยานแวดล้อมหรือพฤติเหตุแวดล้อมอื่นๆประกอบด้วย #ถ้าพยานทุกอย่างลงตัว สอดคล้องต้องกัน ไม่มีพิรุธ จึงจะถือว่าคำให้การหรือคำเบิกความของพยานเด็กมีน้ำหนักน่าเชื่อถือได้ _____""
#คดีโลกคดีธรรม
อ้างอิงจาก: fb กลุ่ม คดีโลก คดีธรรม