"ปังชา" ออกแถลงการณ์ ขอโทษทุกฝ่าย ปมโลโก้ภาพหญิงชุดไทย ยันไม่มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์
จากกรณีดรามาปังชา ที่ลุกลามบานปลาย ร้านโดนย้อนตั้งคำถามกลับว่า โลโก้ร้านนั้นดูคล้ายกับภาพปฏิทินเหล้ายี่ห้อดัง ร้านได้แรงบันดาลใจจากที่ไหน ใครเป็นผู้ออกแบบ
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก Pang Cha – ปังชา World Class Thai Tea ได้ออกมาชี้แจงถึงโลโกหญิงใส่ชุดไทยดังกล่าวว่า“สืบเนื่องจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จากกรณีภาพวาดลายเส้นผู้หญิงไทย ที่พิมพ์อยู่บนฉลากของบรรจุภัณฑ์ที่ใช้อยู่ภายในร้านลูกไก่ทองและร้านปังชา ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันหลายจุดกับภาพปฏิทินเหล้ายี่ห้อหนึ่ง ปี 2550 ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของคุณพีรมณฑ์ ชมธวัช (ครูบิ๊ก)
ทางร้านได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ในฐานะของผู้บริหารร้านลูกไก่ทองและร้านปังชา กราบขออภัยในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบต่อทุกฝ่ายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทางบริษัทดังกล่าว และคุณพีรมณฑ์ ชมธวัช พร้อมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ทางร้านลูกไก่ทองและร้านปังชา ไม่มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์ อันเป็นผลงานของคุณพีรมณฑ์ ชมธวัช และไม่มีเจตนาสร้างความเสียหายให้เกิดกับคุณพีรมณฑ์ ชมธวัช ทั้งสิ้น
ทางผู้บริหารร้านปังชารู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้รีบทำการติดต่อไปยังคุณพีรมณฑ์โดยตรง เพื่อขอชี้แจงเจตนารมณ์การใช้ภาพเพื่อแรงบันดาลใจในการออกแบบซึ่งทางร้านปังชาใคร่ขอขอบพระคุณคุณพีรมณฑ์เป็นอย่างมาก ที่ให้ความกรุณาและคำชี้แนะ รวมถึงให้แนวทางเรื่องภาพต่อทางร้านปังชาอย่างดี ทั้งนี้ ใคร่ขอโทษต่อคุณพีรมณฑ์อีกครั้ง เพื่อเป็นลายลักษณ์อักษรลงในเอกสารฉบับนี้ และกราบขออภัยเป็นอย่างสูงต่อบริษัทเหล้าดังกล่าว ทีมผู้บริหารร้านลูกไก่ทอง ร้านปังชา ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอันส่งผล กระทบกระเทือนต่อทุกฝ่ายในวงกว้าง และพร้อมยินดีแก้ไขในข้อบกพกพร่องดังกล่าวนี้ทุกทาง อย่างไรก็ตาม ภาพที่ปรากฏบนสื่อออนไลน์นั้นเป็นภาพเก่า ซึ่งขณะนี้เราได้ยกเลิกใช้ภาพวาดนี้ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2565
ทั้งนี้ ขอขอบคุณทุกท่านที่ชี้แนะแนวทางการทำงาน การบริหาร การจัดการของร้านปังชา เพื่อนำไปพัฒนา แก้ไข และปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และจากเหตุการณ์นี้ จะทำให้ทางร้านมีความระมัดระวัง และตรวจสอบให้ละเอียดมากขึ้น ก่อนกระทำสิ่งใดลงไป ทางร้านปังชา ปรารถนาในการสร้างความเข้าใจแก่สื่อและและสังคมตามถ้อยแถลงนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุน และโอกาสจากทุกท่านต่อไป”