ปังชาราคาร้อยล้าน! เจ้าของร้านปังชาเชียงรายโอดหลังได้รับโนติสจากแบรนด์ใหญ่ เรียก 102 ล้าน เพราะละเมิดเครื่องหมายการค้า 'ปังชา'

ดราม่า ปังชา ร้อยล้าน จากข่าวดัง ที่ร้านขนมหวาน ระดับมิชลิน ยื่นโนติสร้านเล็กจนเกิดกระแสดราม่าไปทั่วโซเชียล

สืบเนื่องจากร้านอาหารลูกไก่ทอง และ ร้านปังชา ได้ประกาศว่า ทางร้านได้จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ในชื่อแบรนด์ 'ปังชา' และจดเครื่องหมายการค้าเอาไว้แล้ว ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ตามกฎหมายคุ้มครองเครื่องหมายการค้า ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเครื่องหมายการค้า ห้ามทำซ้ำดัดแปลง แก้ไข สงสยสิทธิ์การนำชื่อแบรนด์ปังชา ไปใช้เป็นชื่อร้านหรือจำหน่าย

จึงเกิดการเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ละเมิด นั่นก็คือเจ้าของร้าน ปังชา ที่เชียงราย โดยการที่ร้านดังส่งทนายยื่นโนติสจากร้านเล็ก เรียกค่าเสียหายถึง 102 ล้านบาท ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยร้านที่เชียงรายมีใช้ชื่อร้านว่า "ปังชา" ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธ์

ซึ่งหากไม่จ่ายค่าเสียหายจำนวนนี้ จะมีค่าปรับวันละ 1 หมื่นบาท ต่อ 1 ร้าน หากไม่เปลี่ยนชื่อภายใน 7 วัน

ด้วยความตกใจ เจ้าของร้านจึงรีบเปลี่ยนชื่อใหม่ แต่ยังข้องใจเรื่องกฎหมายว่าคำว่า "ปังชา" จะละเมิดลิขสิทธิ์ได้ยังไง ตนเองยังได้นำข้อมูลโลโก้ร้านไปตรวจสอบทางเว็บไซต์ก็ไม่เหมือนใคร อีกทั้งเมนูนี้คนอื่นเขาก็ทำขายกันทั้งบ้านทั้งเมือง ตนเองก็ขายเพียงขนมปังชาเย็น ไม่ต่างจากร้านค้าทั่ว ๆ ที่มีขายกันมากมาย

เจ้าของร้าน ปังชา เชียงราย ได้ชี้แจงว่า ตัวเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะลอกเลียนแบบใด ๆ ทั้งโลโก้และรูปแบบเครื่องหมายการค้าไม่เหมือนกันกับร้านดัง แม้แต่น้อย  เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะถูกฟ้องจึงได้ไปปรึกษาเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา แต่กลับไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัด เพราะเจ้าหน้าที่กลับไม่ได้ให้คำตอบที่ถูกต้องตรงกัน จึงทำให้ตนเกิดความเครียด จึงร้องสื่อขอความช่วยเหลือ อยากปรึกษาคนที่เก่งด้านกฎหมาย เพราะเขาเป็นเพียงร้านเล็ก ๆ จะเอาเงินร้อยล้านที่ไหนมาจ่ายค่าเสียหาย

เมื่อข่าวแพร่ออกไป ในเวลาต่อมา กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ออกมาชี้แจง ว่า "ปังชา" แค่จดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ ดังนั้น เมนูปังชา ซึ่งเป็นน้ำแข็งไส ราดด้วยน้ำชาไทย ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถขายได้ เพียงแต่อย่านำลวดลาย หรือ แบบภาชนะ ที่จดลิขสิทธ์ไปใช้ก็เท่านั้นเอง

จากนั้นกระแสโซเชียลก็ตีกลับไปที่ร้าน ปังชา เจ้าดังทันที ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า เจ้าของแบรนด์เห็นแก่ตัว และรังแกร้านตัวเล็ก ๆ ไม่มีทางสู้ ส่งผลให้เกิดกระแส ไม่สนับสนุนร้าน ปังชา ซึ่งเป็นร้านระดับบน ได้รับมิชลินไกด์ถึง 4 ปี ซ้อน เพราะเมนู ปังชา เมนูดังซึ่งขายราคาแพง จึงเกิดกระแสนิยมมาอย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้ให้เจ้าของร้านเดือนละ 15 ล้านบาท โดยตอนนี้มีถึง 10 สาขา ซึ่งเมนูปังชาในร้านขายราคา 300+ 

ในขณะที่ร้าน ปังชา เชียงราย เป็นร้านแบบชาวบ้านจับต้องได้ ขายในราคาถูกเริ่มต้นขนมปังปิ้งในราคาเพียง 15 บาทเท่านั้น

ในเวลาต่อมา เจ้าของร้านได้ออกมาประกาศในเพจ Lukkaithong - ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant ว่า ไม่ได้มีเจตนาฟ้องร้องค่าเสียหายใครจริง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นการสื่อสารที่เข้าใจผิด ทั้งนี้ทางร้านขออภัย และพร้อมที่จะปรับปรุงพัฒนาต่อไป

ทว่าเมื่อประกาศออกมา กลับได้รับคอมเม้นท์ที่เป็นลบจำนวนมาก ซึ่งคอมเม้นท์ส่วนใหญ่ ล้วนเป็นในทิศทางเดียวกัน คือจะไม่สนับสนุนแบรนด์นี้อีกต่อไป  ได้แก่

"ขอบาย"

"ไม่สนับสนุน"

"ใจแคบ"

เป็นต้น

ซึ่งนับว่าในเวลานี้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ ปังชา อันเกิดจากเรื่องนี้ได้รับผลกระทบในเชิงลบเป็นอย่างมาก แล้วท่านผู้อ่านล่ะ คิดอย่างไรกับเรื่องนี้คะ ยังจะสนับสนุนร้านหรู มิชลิน 4 ปีซ้อน แบรนด์ปังชา ต่อไปหรือไม่?

โดยส่วนตัว จขกท. ไม่ค่ะ... (ไม่เคยกินเพราะสู้ราคาไม่ไหว) ดังนั้นจึงขอสนับสนุนร้านขนมปังน้ำแข็งไสราดน้ำแดงฉ่ำ ๆ  ของป้าสายหน้าโรงเรียนลูกต่อไปค่ะ ขอบพระคุณ