เดือด! "จุรินทร์" สั่ง 16 สส.มาชี้แจงในที่ประชุมหลังโหวตเห็นชอบให้ "เศรษฐา" ลั่น ประชาธิปัตย์ไม่ใช่อะไหล่ของใคร
นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี 16 สส.ประชาธิปัตย์ โหวตเห็นชอบให้นายเศรษฐา สวนมติพรรคที่จะต้องงดออกเสียง โดยระบุว่า ตนได้สั่งให้ชี้แจงในที่ประชุมพรรคครั้งหน้า และถ้ามีสมาชิกลงชื่อร้องให้ตรวจสอบหรือสอบสวนตามข้อบังคับพรรค ก็จะดำเนินการส่วนจะถึงขั้นขับ 16 สส. เหล่านี้ออกจากพรรคหรือไม่ เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้ว ตามข้อบังคับพรรคถึงแม้ว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะเป็นเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ แต่ข้อบังคับพรรคมีอยู่ ตนไม่ขอตอบล่วงหน้า แต่หากมีสมาชิกยื่นมาก็จะดำเนินการ สำหรับกรณีของนายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาประธาน ที่โหวตไม่เห็นชอบนั้น ท่านได้ขออนุญาตต่อที่ประชุมแล้วว่าจะขอโหวตไม่รับและไม่เห็นชอบ ซึ่งที่ประชุมไม่มีใครขัดข้อง
นาย จุรินทร์ ยังกล่าวว่า 16 ส.ส. ไม่ได้มีการแจ้งเหตุผลในการโหวตสวน และตนก็ไม่ทราบ ตนในฐานะรักษาการหัวหน้าปชป. ยืนยันคำเดิมว่า ไม่เคยมอบหมายให้ใครไปคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลทั้งสิ้นและเมื่อถามว่า 16 สส.ที่ยกมือโหวตให้ต้องการเข้าร่วมรัฐบาล หรือแค่ต้องการโหวตนายก นายจุรินทร์ บอกว่า ต้องไปถามคนที่โหวต และเขาก็ต้องไปชี้แจงในที่ประชุมด้วย สิ่งหนึ่งที่ตนขอเรียนคือ “ประชาธิปัตย์มีศักดิ์ศรี เราเคยเป็นทั้งรัฐบาลและเป็นทั้งฝ่ายค้าน สามารถทำหน้าที่ได้หมดไม่มีปัญหา แต่เราไม่เคยเป็นพรรคอะไหล่ และเราต้องชัดเจนในเรื่องนี้”
ส่วนกรณีที่ พรรคก้าวไกล ประกาศอาจจะไม่รับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านและส่งต่อมาให้พรรคประชาธิปัตย์นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับของสภา ว่าผู้นำฝ่ายค้านต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ซึ่งต้องเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ที่มีเสียงมากที่สุด เป็นหัวหน้าฝ่ายค้าน และต้องไม่มีสมาชิกไปดำรงตำแหน่งเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านจะมีโอกาสหล่นมาที่พรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ตนตอบไม่ได้ แต่ตอนนี้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่มี สส.มากที่สุด ซึ่งซีกนี้หากมีการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ ก็หมายถึงเป็นซีกฝ่ายค้าน
ขณะที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการตั้งกรรมการไปเจรจาในการจัดตั้งรัฐบาล ใครที่เป็น สส. หรือรักษาการตำแหน่งที่ไม่ใช่ตำแหน่งโดยตรง และไม่ได้รับมอบหมายจากกรรมการบริหารพรรค ถ้าไปปฏิบัติในสิ่งที่เกินอำนาจหน้าที่ หรือปฏิบัติแล้วทำให้พรรคมีความเสื่อมเสีย เพราะขณะนี้โดยระบบแล้ว ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านไปแล้ว และรัฐบาลก็จัดตั้งรัฐบาล 11 พรรคไปแล้วดังนั้นพรรคก็ต้องจัดการภายในของพรรค






