"ป้ามล" ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกเด็กและเยาวชน ยื่นตรวจสอบ "เสรีพิศุทธ์" เหตุอาฆาตมาดร้าย "หยก" ถึงชีวิต
ป้ามล - ทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ยื่นหนังสือต่อรัฐสภา ตรวจสอบจริยธรรมเสรีพิศุทธ์ เหตุอาฆาตมาดร้ายหยกออกสื่อ ล่าสุด ร่อนหนังสือถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเพิ่ม โดยเสรีพิศุทธ์ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้กล่าวถึงหยกในการสัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมาไว้ว่า "บรรดาม็อบทั้งหลายจะทำอะไรต้องคิดให้เป็น เสร็จแล้วก็เดินสะบัดก้น ผมเห็นแล้วมันทุเรศ โดยเฉพาะเด็กหญิงหยก ที่ไม่เชื่อฟังครูบาอาจารย์ ปีนกำแพง ไม่ใส่เสื้อผ้าชุดนักเรียน ผมสงสารแม่เขานะ...ถ้าเป็นลูกผมนี่ไม่ได้หรอก ผมฆ่าทิ้งเลย"
ป้ามล ชี้ว่าการแสดงออกทางคำพูดนั้นเป็นการคุกคาม แสดงถึงความอาฆาตมาดร้ายต่อเยาวชนอย่างชัดเจน โดยระบุในเนื้อหาเอกสารที่ยื่นต่อสภาว่า "ต่อให้คนพูดถ้อยคำดังกล่าวเป็นผู้ใหญ่ในสถานะใดก็ถือว่าเถื่อน ถ่อย เกินที่จะรับได้ ยิ่งคนพูดเป็นอดีตรักษาการตำแหน่ง ผบ.ตร. ยิ่งนำไปสู่ความหดหู่ใจของประชาชน"
ล่าสุด (7 ส.ค.) ป้ามลได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว วอนให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติรับจดหมายและทำหน้าที่ตรวจสอบแทนประชาชน ย้ำเตือนว่า แม้สังคมจะไม่เห็นด้วยต่อสิ่งที่หยกทำ แต่ในฐานะผู้แทนราษฎรและผู้ใหญ่ ไม่ควรเกรี้ยวกราดเยี่ยงอันธพาล ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หยกถูกว่ากล่าวจนถึงแก่ชีวิต โดยเพจเฟสบุ๊ก ทะลุแก๊ซ – Thalugaz เปิดเผยว่า ตลอดการเคลื่อนไหวทางการเมือง หยกถูกแกนนำฝ่ายตรงข้ามขู่ทำร้ายถึงชีวิตผ่านสื่อสาธารณะ และถูกล่วงละเมิดสิทธิทางร่างกายหลายประการ
สิทธิตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Right of the Child) ได้บังคับใช้ในประเทศไทย นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 ซึ่งทาง UNICEF ได้กล่าวไว้ว่า "เมื่อเด็ก ๆ ได้เกิดและรอดชีวิตมาแล้ว สิ่งต่อมาที่พวกเขาควรได้รับคือการปกป้องคุ้มครอง คือได้รับความคุ้มครองจากการใช้ความรุนแรงทั้งร่างกายและจิตใจ และยังรวมไปถึงการคุ้มครองจากการใช้แรงงานผิดกฎหมาย การทำงานอันตราย หรือขัดขวางการศึกษา"