ลูกชาย ลูกสะใภ้หัวหมอ ปลอมตัวเป็นโจรใช้สากทุบหัวแม่อาการปางตาย
นายธวัชชัย คำใส อายุ 31 ปี ได้ร้องเรียนให้ สภ. บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ให้ช่วยดำเนินการติดตามคดี
ของนางมณีรัตน์ คำใส อายุ 57 ผู้เป็นแม่ ซึ่งได้ถูกนายวรายุทธ คำใส ซึ่งเป็นลูกชาย และนางละอองดาว จันทร์ยิด
ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ ร่วมกันปลอมตัวเป็นโจร เข้าไปชิงทรัพย์ผู้เป็นแม่และยังได้ทำร้ายร่างกายอย่างแสนสาหัส
เพื่อทรัพย์สินเพียง 3000 บาท และทองคำ 3 สลึง พร้อมโทรศัพท์ 1 เครื่อง เท่านั้น เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นที่บ้านพัก
ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป นายธวัชชัยจึงพยายามติดตามความคืบหน้าของคดีนี้ แต่ก็ยังไม่เป็นผลด้วยความร้อนใจ
จึงได้ขอความช่วยเหลือจาก กัน จอมพลัง โดยได้เข้าพบกับผู้กำกับ สภ. บ้านโป่ง สอบถามความคืบหน้าในคดี
เบื้องต้นจึงทราบว่าทางเจ้าหน้าที่นั้นได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแล้วและได้ไปขออนุมัติหมายจับจากศาลราชบุรี
ในข้อหา "ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ" ก่อนจะเข้าเยี่ยมนางมณีรัตน์ที่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
ซึ่งเมื่อสอบถามอาการจากหมอ พบว่าอาการดีขึ้นตามลำดับ
นายธวัชชัยซึ่งเป็นลูกชายคนโตได้เล่าว่า ช่วงที่เกิดเหตุมีเพื่อนของแม่มาบอกว่า แม่ถูกทำร้ายอย่างสาหัสอยู่โรงพยาบาล
ตนจึงได้รีบรุดหน้าไปหาแม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางตำรวจนั้นได้สอบถามแม่ไปแล้วว่าใครเป็นคนทำ แม่บอกเพียงแต่ว่าเป็นคนร้าย
สองคน แต่ไม่ได้บอกว่าน้องชายเป็นคนทำเพราะตอนนั้นน้องชายนั่งอยู่ข้าง ๆ เตียง ทำให้แม่ไม่กล้าที่จะพูด
แต่แม่จำเสื้อผ้า และน้ำเสียงของน้องชายได้ จึงทำให้รู้ว่าเป็นน้องชายและน้องสะใภ้ที่ก่อเหตุ ที่ผ่านมาแม่นั้น
รักน้องชขายมาก ๆ มีอะไรก็ให้ทุกอย่าง แต่ไม่คิดว่าน้องชายจะทำแบบนี้กับแม่ได้
ส่วนป้าส้ม เพื่อของแม้ บอกว่า ตอนนั้นจะชวนกันไปตัดหน่อไม้ แต่โทรมาหลายสาย แม่ก็ไม่รับ จึงได้มาดูที่บ้าน
พบว่าแม่ นอนอยู่ในห้องเช่าและตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ จึงได้ผลักประตู่ซึ่งคล้องโซ่ไว้เข้าไป
พบว่าแม่ได้รับบาดเจ็บอยู่ ถูกมัดมือ มัดเท้า ป้าส้มจึงได้ไปเรียกเพื่อนบ้านมาช่วย
เมื่อถามว่าใครเป็นคนทำร้าย ก็บอกว่า ไอ้ปอนด์ นั่นก็คือ นายวรายุทธ คำใส ซึ่งเป็นลูกชายคนกลางนั่นเอง
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวขได้นำหมายจับจากศาลจังหวัด ราชบุรี ไปจับกุมตัวคนร้ายทั้งสองแล้ว ทำการสอบสวนปากคำ
ที่โรงพัก ซึ่งนายธวัชชัยได้ปรี่เข้าไปชกหน้าน้องชายผู้ก่อเหตุจนได้รับบาดเจ็บ พร้อมตะโกนด่าว่า ทำไมถึงทำแม่
บังเกิดเกล้าได้ลงคอ เจ้าหน้าที่จึงต้องกันตัวออกห่าง แจ้งข้อหาและดำเนินการตามกฎหมาย