ผอ. เตรียมพัฒน์ฯ เข้าพบ ส.ว. เร่งช่วยเหลือ ชี้ "หยก" สร้างความกระทบวิตกให้คนใน ร.ร. หวังเจรจา-หาที่เรียนใหม่ให้

        ดร.จินตนา ศรีสารคาม ผอ.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ระบุว่า สถานภาพหยกตอนนี้คือ ‘คนนอก’ แต่ยังมาเข้าเรียนตามปกติในชุดไปรเวท โดยหยกนั่งเรียนแยกจากเพื่อน ไม่มีปฏิสัมพันธ์กัน สร้างบรรยากาศที่ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้ในชั้นเรียน ครู-นักเรียนระบุว่า กังวลถึงเหตุความปลอดภัย ห่วงว่าหยกจะเคลื่อนไหวในช่วงใกล้สอบ และอาจเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียการเรียนในกรณีการมอบตัว ผอ. ชี้แจงว่า หยกและแม่ได้มาปรากฎตัวที่ ร.ร. ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. แต่หลังศาลปล่อยตัววันที่ 19 เม.ย. หยกก็ได้เดินทางมามอบตัวพร้อมกับกลุ่มทะลุวัง ซี่ง ร.ร. ยืนยันว่ารับมอบไม่ได้ เพราะแม่มาปรากฎตัวก่อนแล้ว หลังจากนั้นจึงให้เวลาหยกในการพาแม่มามอบตัว แต่ก็ไม่ทันเวลา ทำให้ตอนนี้หยกไม่มีสภาพการเป็นนักเรียน

        ด้าน ผปค. ระบุว่า การที่หยกยังเข้ามาในสถานศึกษา สร้างความเป็นกังวลให้กลุ่มผปค. อย่างมาก มีข้อคำถามเกิดขึ้นและทางสมาคมฯ ต้องคอยชี้แจง เช่น “หยกไปเรียนที่อื่นหรือยัง” “ทำไมยังให้หยกเข้ามาใน ร.ร.” ฯลฯ นอกจากนี้ ทางกลุ่ม ผปค. เห็นว่าหยกยังมีความคิดต่อต้าน และอาศัยอยู่กับกลุ่มนั้น ส่วนตัวกังวลว่าหยกจะมีอนาคตเช่นไรทาง ร.ร. ยืนยันว่าข้อเรียกร้องเรื่องระเบียบของหยก ไม่อาจรับไว้ได้ เพราะกฎโรงเรียนนั้นแก้ไขไม่ได้ ถ้าจะเป็นนักเรียนที่นี่ต้องทำตาม โดยอ้างถึง มาตรา 64 พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก ระบุว่า “นักเรียนและนักศึกษาต้องประพฤติตนตามระเบียบของโรงเรียน หรือสถานศึกษาและตามที่กำหนดในกฎกระทรวง”

        ประธานกรรมการสถานศึกษา ระบุถึงการกระทำของกลุ่มบุคคลภายนอกว่าเป็นเรื่องที่ “โหดเหี้ยม อำมหิต” ใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนประเด็น โดยตนแนะนำว่า แม้หยกจะเรียนที่นี่ไม่ได้ ก็ยังมีการศึกษาทางเลือกอื่นอย่าง Home School หรือ กศน. ซึ่งไม่ต้องแต่งตัวตามกฎระเบียบ อย่างไรก็ดี ผอ. ระบุว่า การหารือกับทางโรงเรียนกับกระทรวง พม. และหน่วยงานคุ้มครองสิทธิที่เกี่ยวข้อง ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ จึงเร่งรัดขั้นตอนมายื่นหนังสือกับทาง สว. เพื่อเร่งหาทางออก ด้าน สว. ระบุว่าจะเร่งหารือกับส่วนที่เกี่ยวข้อง แต่อาจไม่ทันช่วงสอบ จึงขอเป็นกำลังใจให้เด็กช่วงสอบ