"ก้าวไกล" แถลงค้านมติ กกต.รีบเร่งส่งศาลรัฐธรรมนูญ ปม "พิธา" ถือหุ้นสื่อ
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล หลังอ่านแถลงการณ์พรรคก้าวไกลกรณีการดำเนินการของคณะกรรมการการเลือกตั้งในคดีหุ้นไอทีวี ที่ได้มีการส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยแล้ว นายชัยธวัช ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมกกต.ถึงรีบเร่งดำเนินการในคดีหุ้น itv อย่างผิดปกติ ทั้งๆที่เรื่องหุ้น itv ก่อนหน้านี้มีข้อพิรุธและมีข้อถกเถียงอย่างกว้างขวางว่า ตกลงitv ยังคงดำเนิน ธุรกิจสื่ออยู่หรือไม่ ,มีการจงใจ ทำเอกสารการประชุมและงบการเงินไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่ แต่กกต.กลับรีบประชุม ติดกัน 3 วัน ทันทีที่ได้รับเรื่อง เพื่อเร่งสรุปให้ได้ว่ามีข้อมูลสรุปเพียงพอให้เชื่อได้ว่านายพิธามีความผิดตามที่ยื่นคำร้องจริง
ทั้งนี้ เรื่องนี้ตนทราบมาว่าทางกกต.ได้เชิญผู้บริหาร itv มาชี้แจงกับกกต.แล้ว และผู้บริหารได้ให้ข้อมูลว่า itv ไม่ได้ดำเนินธุรกิจสื่อ ดังนั้นแม้ กกต.พยายามอ้างเหตุผลมากมาย ว่าไม่จำเป็นต้องแจ้งข้อกล่าวหากับนายพิธาเพื่อให้นายพิธามาชี้แจงก่อน แต่คำถามคือ ในขณะที่กกต.ยังมีเวลาเชิญ itv ไปชี้แจง แล้วกกต.มีเหตุผลอะไรที่รับฟังได้ว่าจะไม่ยอมเสียเวลาให้นายพิธาได้รับทราบข้อกล่าวหา และมีโอกาสชี้แจงบ้าง เพื่อให้กกต.สามารถพิจารณาข้อเท็จจริงได้อย่างรอบด้านและเป็นธรรมนอกจากนี้ หากผู้บริหาร itv ได้ชี้แจงกับกกต.แล้วจริง ว่าไม่ได้ดำเนินธุรกิจสื่อมวลชน กกต.ใช้หลักฐานอะไร ที่นำไปสู่ข้อสรุปที่บอกว่า กกต.เชื่อว่ามีความผิดตามที่มีการยื่นคำร้องจริง เพื่อรีบเร่งให้ได้“ความรีบเร่งผิดปกติเห็นได้จาก มีมติตอนเช้า นายอิทธิพร บุญประคองประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง รีบเร่งเซ็นเอกสารและให้สำนักงานเลขาธิการ กกต.ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญทันที เพื่อให้ทันการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในตอนบ่าย” พร้อมกล่าวว่า หากทุกหน่วยงานราชการทำงานไวประเทศชาติก็จะเจริญ
ตนอดไม่ได้ในการตั้งคำถามต่อกกต.ว่า มีเจตนาที่จะส่งลูกให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมทันที เพื่อให้สั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ใช่หรือไม่สุดท้ายนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นหลายปีที่ผ่านมา โดยใช้นิติสงครามบทบาท องค์กรอิสระรวมไปถึงศาลรัฐธรรมนูญถูกตั้งข้อสงสัยมาโดยตลอด ว่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มทางการเมืองใดกลุ่มการเมืองหนึ่งหรือไม่ กรณีที่เกิดขึ้นในวันนี้และหลังจากนี้อีกไม่นานจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหาเหล่านั้น เป็นจริงหรือไม่ และเราในฐานะผู้แทนราษฎร ขอฝากเสียงเตือนจากพี่น้องประชาชนไปยัง กกต.และองค์กรอิสระทั้งหมด ว่า "ท่านอย่าลุแก่อำนาจจนเกินขอบเขต วันใดวันหนึ่งเมื่อการเมืองกลับมาเป็นปกติประชาชนจะลงโทษพวกท่าน" อย่างไรก็ตามไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ ตนและสมาชิกพรรคก้าวไกลและเพื่อนสมาชิกอีก 7 พรรคการเมืองยืนยันว่าจะไม่กระทบกับการเสนอรายชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ในวันพรุ่งนี้ แม้จะส่งลูกรับลูกกันอย่างรวดเร็วเพื่อให้สั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ของนายพิธา แต่นายพิธายังมีสิทธิ์ 100% ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 จากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน
“ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกตกใจ ความชอบธรรมที่สูงสุดคืออำนาจของประชาชน พรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าเรื่องนี้เป็นขบวนการที่หวังผลทางการเมืองจริงๆ มีการบิดเบือนเจตนารมณ์ในการบังคับใช้กฎหมาย บิดเบือนระเบียบข้อบังคับต่างๆ ย่อมต้องหวังผลทางการเมือง“แต่เราก็เชื่อว่าจะมีสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ที่มากเพียงพอ ที่มีสติ มีความเป็นธรรม มีวิจารณญาณเห็นว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้ ยังไม่สามารถเป็นบทสรุปได้ว่านายพิธามีความผิด กระบวนการยังไม่สิ้นสุดและไม่ใช่หน้าที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาที่จะวินิจฉัยเรื่องนี้เป็นคนละส่วนกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง ยังเชื่อมั่นว่ายังมีส.ว.ที่อยู่ข้างความถูกต้อง และยืนยันที่จะใช้เอกสิทธิ์ของตนเองเป็นไปตามเสียงของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง” ส่วนจะฟ้องกกต.หรือไม่ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กำลังพิจารณาอยู่ พร้อมยืนยันกระบวนการทางศาลรัฐธรรมนูญ เป็นคนละส่วนกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้น มั่นใจไม่มีการเลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้และเชื่อมั่นในประธานรัฐสภา
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02HBWtoW58W9RDu2syWpJ6REWcrHvWCKhzXoqjiRxEERRRfCvKHB75z7GcECtXm2Rel&id=603985258
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/tanawat.cheawaram/posts/pfbid02XGqwiGWSRNnDy9nwEwPq8huyup2Bu4jzT4x55WoGH8D7F4t7GiU4dvTBm4Z7pbJrl