หนุ่มดื่มน้ำใบกระท่อมแทนน้ำเปล่ามา 18 ปี ตั้งแต่ตื่นนอนยันก่อนหลับตา เผยร่างกายทรุดโทรม ตัดสินใจหักดิบบอกลา "พลังใบ"

        ผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อบัญชี bird..420 ออกมาแชร์เรื่องราวการเลิกดื่มน้ำใบกระท่อม ที่ใช้มากว่า 18 ปี นอกจากนี้ยังมีคลิปแนะนำการออกกำลังกายหลังเลิกดื่มน้ำใบกระท่อม ไปจนถึงสภาวะร่างกายและจิตใจที่ดีขึ้น มีคนติดตามขอคำแนะนำจำนวนมาก หลังประสบภาวะเดียวกัน คุณเบิร์ด อายุ 37 ปี เจ้าของบัญชี เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ว่า ที่ผ่านมาดื่มน้ำใบกระท่อมมาตลอด 18 ปี ตอนแรกที่ใช้เพราะไม่อยากดื่มเหล้า เลยหันไปดื่มน้ำกระท่อมแทน ตื่นนอนก็เริ่มดื่มทันที ทำให้ไม่อยากกินข้าว ดื่มแบบนี้มาตลอดทุกวัน ต้นปีที่ผ่านมา เฟซบุ๊กขึ้นภาพแจ้งเตือนการใช้น้ำกระท่อมในช่วงแรก ๆ เลยเริ่มรู้สึกเบื่อ จึงตัดสินใจหักดิบ แต่ก่อนจะเลิกต้องไปค้นหาข้อมูล เตรียมความพร้อม เพราะถ้าเลิกทันทีโดยไม่มีความรู้ สุดท้ายก็กลับมาใช้อีกเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา รอบนี้เลยวางแผนเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด

        ที่ผ่านมาเคยเลิกดื่มน้ำใบกระท่อม 2 ครั้ง ครั้งแรกเลิกได้ 2 เดือน แต่พอเห็นเพื่อนดื่ม ก็กลับไปดื่มอีก ทุกครั้งที่กลับไปดื่มใหม่ จะมีอาการอยากมากขึ้นกว่าก่อนเลิก ทำให้ดื่มหนักมากขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัวระยะหลัง มีการซื้อ-ขายน้ำใบกระท่อมแบบเปิดเผย ทำให้มีการใช้มากขึ้นกว่าเดิม มีทั้งที่ซื้อและต้มเอง ดื่มแทนน้ำเปล่า เฉลี่ยวันละ 4-5 ลิตร ถ้าไม่กินจะมีอาการปวดตามข้อกระดูกจนทนไม่ได้ และมีอารมณ์แปรปรวนมาก ทั้งที่ยังดื่มเป็นประจำ แต่เป็นภาวะที่ไม่รู้ตัว ยิ่งถ้าวันไหนไม่ได้ดื่ม จะมีอาการหงุดหงิดมากกว่าเดิมหลายเท่าตอนดื่มมีความสุข พูดไปเรื่อยเหมือนไม่ได้คิดไตร่ตรอง ช่วงแรกผสมกับน้ำอัดลม ก็ป่วยกระเพาะทะลุ และมีภาวะกระเพาะบาง เพราะดื่มแล้วไม่อยากกินข้าว เช่นเดียวกับระบบขับถ่ายที่มีความแปรปรวนทั้งระบบ มีอาการปวดเมื่อย ลักษณะเหมือนเส้นกระตุกอยู่ภายในร่างกาย

        การเลิกครั้งนี้มีการเตรียมตัวโดยบอกกับคนในบ้านว่า ทั้งอาทิตย์นี้ห้ามยุ่งหรือคุยด้วย เพราะประสบการณ์ก่อนหน้านี้ที่เคยเลิก ช่วงแรกจะมีอารมณ์หงุดหงิดรุนแรง ไม่อยากคุยกับคนอื่น และต้องเตรียมยาแพ้อากาศ ยาคลายเส้น เพื่อใช้ยามฉุกเฉิน ซึ่งก่อนวันที่เลิกต้องอาบน้ำและกินข้าวให้อิ่ม อาการอยากน้ำท่อมจะหนักสุดช่วงเย็น มีอาการปวดขาและตามข้อ วิตกกังวล ปวดท้องอยากถ่าย แต่ถ่ายไม่ออก ที่สำคัญกินข้าวไม่ได้ แม้ฝืนกินก็กินไม่ลง เลยใช้วิธีอมข้าวในปากแล้วกินน้ำเปล่าตามทันที เพื่อให้ร่างกายได้มีพลังงาน การเลิกในวันที่ 1-4 จะกินข้าวได้ไม่ถึง 10 คำ ช่วง 7 วันแรกที่เลิก อยากจะทำงาน แต่ร่างกายแทบไม่มีเรี่ยวแรง ดังนั้นคนรอบข้างต้องเข้าใจและให้กำลังใจ เพราะถ้าไม่เข้าใจ สุดท้ายต้องกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม สิ่งสำคัญคือความตั้งใจของคนที่อยากจะเลิกด้วย

        เลิกได้ 3 วัน จะเห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่างของร่างกาย ถือเป็นแรงผลักดันสำคัญ ทำให้อยากเลิกให้ได้ในวันต่อไป ซึ่งตัวเองพบว่า เริ่มมีอาการหิว อยากกินข้าว และความอยากดื่มน้ำใบกระท่อมก็ลดลง จนหายไปเอง ซึ่งต้องควบคู่กับการออกกำลังเบา ๆ ก่อน ตอนนี้หลังจากเลิกน้ำกระท่อมเหมือนได้ชีวิตใหม่ สุขภาพร่างกายดีขึ้น ระบบขับถ่ายไม่มีปัญหา อาการหงุดหงิดก็แทบไม่มี ทำให้การทำงานดีขึ้น มีสมาธิกับสิ่งที