ทนายเดชา ออกมาแจง เห็นต่างจาก กกต. ใช้ ม.151 มั่นใจพิธาไม่ถูกฟ้องหุ้นสื่อ
จากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติไม่รับเรื่องการถือหุ้นไอทีวี 42,000 หุ้นของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือก ส.ส. 2561 แก้ไขเพิ่มเติม 2566 ตามมาตรา 151 ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร
ทนายเดชา ได้ออกมากล่าวว่า จากการตรวจสอบเมื่อปี 2563 ที่สำนักงาน กกต. ได้ดำเนินคดีในข้อหาเดียวกันกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรณีถือหุ้นสื่อบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด ที่ สน. ทุ่งสองห้อง และพนักงานสอบสวน มีความเห็นสั่งฟ้องกับอัยการ แต่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง ก่อนส่งเรื่องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณา และมีความเห็นสั่งฟ้องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด แต่เมื่อคดีถึงชั้นอัยการสูงสุด มีความเห็นไม่ฟ้องคดี โดยเห็นว่าคดีนี้ จะต้องมีพยานหลักฐานชัดเจน ปราศจากข้อสงสัยว่านายธนาธร รู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติลงสมัคร ส.ส. แต่ไม่มีพยานหลักฐานใดที่ทำให้เห็นว่ารู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติก่อนมาลงสมัครรับเลือกตั้ง
นายเดชายังกล่าวต่ออีกว่า มีความมั่นใจว่าหากสำนักงาน กกต. ไปแจ้งความดำเนินคดี เมื่อถึงชั้นอัยการ ก็จะมีความเห็นสั่งฟ้องคดี เนื่องจากได้วางบรรทัดฐานไว้แล้ว เพราะการที่จะนำสืบว่านายพิธารู้อยู่แล้วว่าตัวเองขาดคุณสมบัติก่อนมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นเรื่องยาก ต้องมีหลักฐานและพฤติการชัดเจนจนศาลลงโทษได้