ส่งเสริมสุขภาพทางอ้อม ยกระดับการรักษาพยาบาลทางตรง พบกับมิติใหม่ของนโยบายสร้างความยั่งยืนของพรรคชาติไทยพัฒนา
สังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุจากอัตราการเกิดที่ลดน้อยลง ตามปัจจัยของสภาพแวดล้อมและสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่เข้าสู่สภาวะถดถอยและนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำ และค่าเงินเฟ้อที่จ่อคอหอยคนไทยกว่า 70 กว่าล้านคน
คิดดูแค่ว่า แค่หาเช้ากินค่ำให้พอมีเงินกินข้าวกับซื้อปัจจัยสี่ในแต่วันก็นับว่ายากแล้ว
แต่ปัญหาสุขภาพเป็นเรื่องที่ ไม่ว่าทุกเพศหรือทุกวัยมักจะเจอและบ่อยครั้งก็คร่าชีวิตคนไทยไปนับล้านต่อปี ทั้งโรคติดต่อ โรคเรื้อรัง หรือแม้แต่โรคตามฤดูกาลสิ่งนี้นับเป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่จะโทษโชคชะตา อย่างเดียวก็คงไม่เต็มปากเพราะในเมื่อเราอยู่ในประเทศที่ระบบสาธารณสุขติด TOP 5 ของโลก การจะให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมันคงจะขัดแย้งไปหน่อย
การแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น และมองจุดบกพร่องนับว่าเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์เราพัฒนาจนถึงปัจจุบันทางพรรคชาติไทยพัฒนาจึงต่อยอดนโยบายด้านสุขภาพ ในการสร้างนโยบาย สุขภาพดี มีเงินคืน 3,000 บาท สวัสดิการอัพเกรดได้
โดยที่ในปัจจุบัน กองทุน สปสช หรือ บัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค ต้องอุดหนุนงบรายหัว เพื่อดูแลผู้ป่วยไทย ทั่วประเทศ รายละ 3,386 บาท/ปี หรือเท่ากับ ปีละ 2 แสนล้านบาท
พรรคชาติไทยพัฒนา จึงเสนอนโยบาย #สาธารณสุขเชิงป้องกัน ผันงบประมาณเดิมที่ต้องใช้อยู่แล้ว มาใช้รณรงค์ จูงใจ ให้พี่น้องประชาชน ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดภาระงบประมาณสาธารณสุขในระยะยาว
หากใครทำได้ สามารถรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ต้องหาหมอ คนกลุ่มนี้ก็ควรได้รับการตอบแทนเป็นรางวัล ที่ช่วยลดภาระงานโรงพยาบาล หมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคน อีกทั้งนโยบายสวัสดิการอัพเกรดได้ ที่มีการคิดต่อยอดจากนโยบาย ประกันสังคมเดิมที่มนุษย์เงินเดือนที่จ่ายสมทบประกันสังคมอยู่แล้ว สามารถอัพเกรดห้องพิเศษ หรือ เลือกการบริการทางการแพทย์ที่ดีกว่าเดิม ตามแพคเกจของโรงพยาบาลเอกชน เพื่อให้การรักษาพยาบาลมีการสะดวกทันท่วงทีอีกด้วย
นับว่าเป็นนโยบายที่ น่าสนใจ ส่งเสริมสุขภาพทางอ้อม ยกระดับการรักษาพยาบาลทางตรง อีกด้วย