ลูกเสืออาการน่าห่วง แผลไฟไหม้ลุกลาม ล่าสุดหมอแจ้งมา หายใจเองไม่ได้

            กิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ ถือเป็นกิจกรรมที่มีกันมาอย่างยาวนาน ถือเป็นกิจกรรมที่สอดแทรกความรู้ในเรื่องการใช้ชีวิตและการเอาตัวรอดเวลาในชีวิตประจำวันและเวลาเดินทางป่าเขาได้อย่างดี เป็นกิจกรรมที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ทรงริเริ่มขึ้นในประเทศไทย และสืบเนื่องมาเรื่อย ๆ จนมาถึงปัจจุบัน ยิ่งช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ หลายโรงเรียนล้วนแล้วแต่มีการจัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือกันทั้งนั้น

            ส่วนตัวแอดมองว่า กิจกรรมบางอย่างของลูกเสือถือเป็นกิจกรรมที่ดี เช่น เชือกเงื่อน การอ่านเข็มทิศ เป็นต้น แต่กิจกรรมที่ดูล้าหลังและน่าจะปรับเปลี่ยนนั่นก็คือ การเข้าแถวพิธีกรรมต่าง ๆ การถักสายโยงยศ เป็นต้น

ซึ่งกิจกรรมควรปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงออกไปให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของโลกปัจจุบัน จึงมองว่าหลักสูตรที่เป็นอยู่บางความรู้ก็ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง หรือเรียนไปแล้วไม่เกิดประโยชน์นั่นเอง

            จากกรณีโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู ได้จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารี ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 205 คน ณ บริเวณสนามฟุตบอลภายในโรงเรียน มีการจัดกิจกรรมเล่นรอบกองไฟ และแน่นอนว่าจะต้องมีนักเรียนแต่งกายเป็นซูลู ประมาณ 5-7 เต้นคบเพลิงเพื่อมาจุดกองไม้ที่เตรียมไว้ แต่การเข้าค่ายครั้งนี้ของนักเรียนกลับเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นจากเปลวไฟ มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บจากเปลวเพลิงลุกท่วมร่าง ถึง 5 คน หลังจากการเหตุการณ์นี้ขึ้นทางโรงเรียนจึงสั่งยกเลิกกิจกรรมทั้งหมดทันที

            สภ. โนนสังได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ผู้ปกครองของนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 คน เข้าแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ในบรรดานักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย มีอยู่ 2 รายที่อาการสาหัสและยังคงน่าเป็นห่วง เมื่อตำรวจสอบสวนได้ดูจากรูปการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ลักษณะของการเกิดเหตุน่าจะเป็นการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส

            ทางแม่ของ ด.ซ. สุวัฒน์ หรือ น้องคิว ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้ 90% ตอนที่น้องเห็นหน้าของแม่ครั้งแรก น้องบอกกับแม่ว่า ไม่ใช่ความผิดของคิว ตอนนี้ทางแม่ของน้องคิวไม่สามารถไปเฝ้าน้องคิวได้ ต้องขึ้นอยู่กับการอนุญาตของหมอ แต่น้องคิวก็รับรู้ได้และมีสติดี เมื่อแม่บอกน้องผ่านห้องปลอดเชื้อว่าแม่มาเยี่ยม น้องก็พยักหน้าตอบรับ แต่อาการยังคงน่าเป็นห่วงและไม่ปลอดภัย 100 % น้องคิวยังไม่สามารถหายใจเองได้ เพราะว่าทางเดินหายใจของน้องยังพองอยู่ปละต้องสอดท่อหายใจเข้าไป ไม่มีส่วนไหนของร่างกายที่ไม่เป็นแผล ถือว่าอาการของน้องคิวหนักกว่าเพื่อน  ๆ ก็ว่าได้ หมอได้แจ้งให้แม่ของน้องคิวทราบว่า น้องต้องพักรักษาตัวเป็นเวลา 3 เดือน แม่จึงได้หาบ้านเช่ารายเดือนเอาไว้ เพราะจะต้องไปอยู่เยี่ยมไข้น้องคิวอีกนาน

            น้าของน้องคิว รู้สึกสงสารหลานมาก นึกถึงว่าขนาดเราเป็นผู้ใหญ่โดนน้ำร้อนลวกเรายังเจ็บปวด นี่น้องคิวเป็นเด็ก ถูกไฟไหม้เกือบทั้งตัวคิดแล้วก็รู้สึกเศร้าใจและอนาถใจ ตอนนี้อาการของหลานก็ยังไม่ดีขึ้น หมอบอกรอดูอาการอีก 3 วัน ถึงจะพ้นขีดอันตรายแต่ตอนนี้มาอาการแทรกซ้อนเรื่องหลอดลมบวม ตอนนี้ทางครอบครัวฝากความหวังไว้ที่หมอและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รู้ว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ ทุกคนไม่มีใครอยากให้เกิด อย่าพยายามว่าเด็ก ครูบางคนยังพูดว่า เด็กเอาแอลกอฮอล์ทาตัว อย่าปัดความรับผิดชอบแบบนั้น น่าจะพูดว่าจะดูแลให้ถึงที่สุด ไม่ใช่ว่าคลิปหลุดไปได้อย่างไร ห่วงแต่ชื่อเสียงโรงเรียน แต่ควรจะห่วงความรู้สึกของพ่อแม่เด็กบ้าง

            ส่วนแม่ของน้องโด้ที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถเดินทางไปเฝ้าน้องโด้ได้ เนื่องจากต้องเลี้ยงลูกวัย 4 เดือนอยู่ที่บ้าน และให้พ่อไปเฝ้าแทน แม่เปิดใจคุยว่า ตอนแรกเห็นลูก แทบจะเป็นลมไปเลยตอนนี้ยังไม่มีโรงเรียนหรือหน่วยงานใดติดต่อมาเลย