แน็ก ชาลี ไม่หวั่นยอดวิวตก! ลั่นภูมิใจสร้างคอนเทนต์ได้เกินปีครึ่ง
“แน็ก ชาลี” เปิดใจยอดวิว TikTok ลดฮวบ ไม่ยึดติดกับชื่อเสียง มองไกลถึงอนาคตวงการ พร้อมวิเคราะห์กระแส PK ที่จะกลับมาแรงในปีนี้
ในยุคที่โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อการสร้างชื่อเสียงและรายได้ของเหล่าคนดังและครีเอเตอร์ “แน็ก ชาลี” หรือ ชาลี ไตรรัตน์ ถือเป็นหนึ่งในบุคคลที่กลายเป็นไอดอลของสายติสต์และผู้คนที่รักในความเป็นตัวของตัวเอง เขาไม่ได้เดินตามกรอบดาราสายป๊อปทั่วไป หากแต่สร้างตัวตนที่ชัดเจนผ่านคอนเทนต์แหวกแนวใน TikTok และช่องทางออนไลน์ต่างๆ จนมีกลุ่มแฟนคลับติดตามเหนียวแน่น
แต่เมื่อไม่นานมานี้ หลายเพจดังและแฟน ๆ บางส่วนก็เริ่มตั้งข้อสังเกตว่า ยอดผู้ชม TikTok ของแน็กเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากที่เคยขึ้นหลักแสน หลักล้าน วิว กลับกลายเป็นตัวเลขที่น้อยลงทุกวัน ทำให้เกิดคำถามขึ้นในโลกโซเชียลว่า หรือจะเป็น “ขาลง” ของเขาแล้ว?
เปิดใจแบบตรงไปตรงมา “ผมไม่แปลกใจเลย”
ล่าสุด แน็ก ชาลี ได้ออกมาเปิดใจอย่างตรงไปตรงมาผ่านการไลฟ์สด พูดถึงเรื่องนี้ด้วยท่าทีสบาย ๆ และอารมณ์ขันตามสไตล์ของเขา ยอมรับตรงๆ ว่ายอดวิวลดลงจริง แต่เขากลับไม่รู้สึกแปลกใจ หรือเสียใจแต่อย่างใด เพราะตระหนักดีว่าโลกของคอนเทนต์ไม่มีอะไรแน่นอน
“เห็นหลายเพจบอกว่าผมขาลง ผมอยากจะบอกว่า จริงๆ แล้วผมไม่ได้หลงในหลายสิ่งหลายอย่างเลยนะ โดนด่าว่าเป็นคนขี้อวด แต่จริงๆ ผมไม่ได้อวดเลย ของบางอย่างผมยังไม่เคยโชว์เลยด้วยซ้ำ”
แน็กเล่าว่า ตลอดปีครึ่งที่ผ่านมา เขาใช้เวลาสร้างคอนเทนต์แบบเรียบง่าย ทำสิ่งเดิม ๆ ซ้ำ ๆ โดยไม่ได้วางแผนสร้างไวรัลแต่อย่างใด ซึ่งเขาก็รู้ตัวดีว่า ผู้ชมบางคนอาจจะเบื่อ เพราะเดาทางได้ว่าเขาจะทำอะไรต่อ แต่เขาก็ภูมิใจที่สามารถอยู่ได้ยาวนานในวงการ TikTok โดยไม่เปลี่ยนตัวตน
“ผมตกใจนะว่าเฮ้ย กูอยู่มาได้ยังไงปีครึ่ง คนอื่น บางคนกระแสมาแป๊บเดียวก็หาย แต่กลุ่มผมอยู่กันแบบน่ารักมาก ปีครึ่งแล้วทุกวัน คนก็ต้องมาดูผมทำอะไรเดิมๆ ซ้ำๆ จนบางทีก็เดาได้แล้วว่าผมจะทำอะไรต่อ มันก็น่าเบื่อได้เหมือนกัน”
วิเคราะห์แนวโน้ม TikTok ปีนี้ “การ PK จะกลับมาแน่”
สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าการเปิดใจของแน็ก คือการวิเคราะห์ทิศทางของแพลตฟอร์ม TikTok ที่เขามองว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะ “การ PK” หรือการไลฟ์สดแข่งขันแบบเรียลไทม์ ซึ่งแน็กเชื่อว่าจะกลับมาเป็นกระแสอย่างแน่นอนในปีนี้
“PKจะกลับมาแน่ แล้วคนที่จะคุมได้ ต้องเป็นนักแสดงที่อยู่สูงของช่อง 7 หรือช่อง 3 มาก่อน เป็นคนที่คนรู้จักทั่วประเทศ เพราะตอนนี้นักแสดงระดับท็อปก็เริ่มเข้ามา TikTok กันหมดแล้ว”
แน็กมองว่า การที่ดาราระดับแนวหน้าจากช่องใหญ่ ๆ เริ่มลงมาเล่น TikTok อย่างจริงจัง เป็นสัญญาณว่าแพลตฟอร์มนี้กำลังขยับขยายจากแค่แหล่งบันเทิงของคนรุ่นใหม่ ไปสู่พื้นที่ที่ดาราทุกระดับสามารถใช้เป็นช่องทางสร้างรายได้และขยายฐานแฟนคลับได้จริง
เมื่อชื่อเสียงไม่ใช่สิ่งที่ยึดติดอีกต่อไป
สิ่งที่ทำให้แน็ก ชาลี แตกต่างจากคนดังทั่วไปคือ เขาไม่เคยยึดติดกับความนิยม ไม่ยึดติดกับชื่อเสียง และไม่กลัวการตกกระแส เขากลับมองทุกอย่างเป็นธรรมชาติของวงการ
“ตอนนี้มีคนน่าดูเยอะมาก คนหล่อคนน่ารักเยอะมาก จนบางทีผมก็ยังไปดูเลย ไม่แปลกเลยที่คนจะหายไปบ้าง สิ่งที่เราต้องทำคือต้องทำให้มันสนุกต่อไป และหางานอย่างอื่นทำด้วย ซึ่งตอนนี้ผมก็กลับมาแต่งเพลง กลับมาทำดนตรี มีความสุขกับสิ่งที่ทำเหมือนเดิม”
แน็กเลือกจะกลับไปโฟกัสที่สิ่งที่รักอย่างดนตรี การแต่งเพลง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทำมาตั้งแต่แรก โดยไม่แคร์ว่าจำนวนยอดวิวจะมากหรือน้อย ขอแค่ได้ทำในสิ่งที่ชอบและได้ส่งต่อพลังบวกให้คนที่ยังติดตามก็พอ
บทเรียนของ “แน็ก ชาลี” สะท้อนมุมมองคนทำคอนเทนต์ยุคใหม่
จากคำพูดทั้งหมดของแน็ก ทำให้เห็นชัดว่า เขาคือหนึ่งในคนที่เข้าใจธรรมชาติของโลกออนไลน์อย่างลึกซึ้ง เขาไม่ได้สร้างคอนเทนต์เพื่อเอาใจอัลกอริธึมหรือวิ่งตามกระแส แต่เลือกจะเป็นตัวเองให้ชัด และมีความสุขกับการสื่อสารกับกลุ่มแฟนที่ยังคงรักและติดตามอย่างจริงใจ
ไม่เพียงเท่านั้น แน็กยังให้แง่คิดสำคัญว่า ในยุคที่ใคร ๆ ก็เป็นครีเอเตอร์ได้ การอยู่ได้นานต่างหากคือสิ่งที่ยากที่สุด
“อย่าหวังให้ทุกอย่างอยู่คงที่ เพราะในโลกออนไลน์ ไม่มีอะไรคงที่ เราแค่ต้องรู้จักปรับตัว และทำในสิ่งที่เรารักต่อไป”
แน็ก ชาลี ไม่ใช่คนขาลง...แต่คือคนที่เข้าใจวงจรของกระแส
แม้ยอดวิว TikTok ของแน็ก ชาลี จะลดลง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ลดลงคือความเข้าใจในโลกออนไลน์ และความเป็นตัวของตัวเอง เขาไม่ได้ตกกระแสเพราะไม่ดีพอ แต่เพราะเข้าใจว่ากระแสมีขึ้นก็ต้องมีลง และคนที่อยู่ได้จริง ๆ คือคนที่ไม่ยึดติด และพร้อมจะเติบโตไปกับความเปลี่ยนแปลงเสมอ
ไม่แน่ว่าเมื่อ PK กลับมาจริงตามที่แน็กวิเคราะห์ไว้ เราอาจได้เห็นเขากลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ที่สนุกกว่าเดิม และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ เส้นทางของแน็ก ชาลี ยังคงเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง
อ้างอิงจาก: ภาพจาก : charliepotjes






















