"เจดดาห์ทาวเวอร์" อาคารสูงที่สุดในโลก ต้องกลายเป็นตึกร้าง หลังประกาศหยุดก่อสร้างโครงการในปี 2018

        ย้อนกลับไปในปี 2008 มหาเศรษฐี ที่ร่ำรวยที่สุดในตะวันออก นักลงทุนเจ้าชาย Alwaleed Bin Talal แห่งซาอุดีอาระเบียได้ประกาศความตั้งใจที่จะสร้างตึกที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งเป็นตึกระฟ้าแห่งแรกที่สูงถึง 3,281 ฟุต (1,000 เมตร) ตึกนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอเมริกันชื่อ Adrian Smith ผู้ออกแบบตึกสูงที่สุดในโลก Burj Khalifa ดูไบ

        โครงการเจดดาห์ ทาวเวอร์เริ่มก่อสร้างขึ้น 1 เมษายน 2013 และต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งปีในการวางรากฐานตึกขนาดใหญ่สำหรับโครงสร้าง ซึ่งรวมถึงเสาเข็มคอนกรีตขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 ฟุต (3 เมตร) โครงร้างเริ่มโผล่เหนือพื้นดินปี 2014 โครงการถูกสร้างตามระดับ ในปี 2017 เมื่อซาอุดีอาระเบียได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางการเมือง ในการเคลื่อนไหวเชิงรุกเพื่อรวมอำนาจ มกุฎราชกุมาร Mohammed bin Salman (หรือที่รู้จักในชื่อ MBS) ได้เริ่มทำการกวาดล้าง ต่อต้านการทุจริต ส่งผลให้มีการจับกุมเจ้าชายซาอุดิอาระเบีย 11 คนรวมทั้ง Alwaleed bin Talal ผู้สนับสนุนทางการเงินคนสำคัญของเจดดาห์ ทาวเวอร์และหุ้นส่วนของเขาในกลุ่ม Saudi Binladin Group ทำให้โครงการหยุดการก่อสร้าง ต่อมาเจ้าชายถูกปล่อยตัวในปี 2018 ถูกปรับเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ โครงการกลับมาก่อสร้างอีกครั้งกำหนดเสร็จ 2020 แต่ประสบปัญหาแรงงาน ผู้รับเหมา และโควิด-19 งานต่างๆได้หยุดลง และไม่มีการกล่าวถึงสถานะการก่อสร้างของตึกว่าจะสร้างต่อหรือไม่.....?

        หากสร้างเสร็จ เจดดาห์ ทาวเวอร์ จะเป็นตึกสูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 1000 เมตรบนพื้นดิน และใต้ดินส่วนรากฐาน 200 เมตร (600 ฟุต) (รวม1200 เมตร) มีจำนวน 170 ชั้นเนื้อที่ 243,866 ตารางเมตร เงินลงทุนมากกว่า 4.9 หมื่นล้านบาทภายในตึกเป็นที่ตั้งของโรงแรมสำนักงานอพาร์ตเมนต์สุดหรู ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ สามารถเดินทางจากชั้นบนสุดถึงชั้นล่างสุด เพียงแค่ไม่เกิน 120 วินาที ด้วยลิฟท์ความเร็วสูง มีชั้นชมวิวที่สามารถมองเห็นทะเลแดงและเมืองเจดดาห์ครอบคลุมทั้งหมด หากสร้างเสร็จ Jeddah’s Kingdom tower ก็จะมาแทนที่ตึก Burj Khalifa ...แต่ ณ.วันนี้โครงการไม่มีความเคลื่อนไหว