ดราม่าสนั่น! "Miss Fabulous Thailand" ฟ้าบุญเลิศภาคอีสาน มอบมงกุฏ "กระดาษ" ให้กับผู้ชนะทั้ง 3 คน
Miss Fabulous Thailand - Northeastern หรือ ฟ้าบุญเลิศภาคอีสาน ที่จบไปเมื่อวานนี้ จากที่มีการมอบมงกุฏ กระดาษ ให้กับผู้ชนะทั้ง3 ก็กลายเป็นดราม่า ทันที
ล่าสุด เจ้าของมงกุฏ ออกมาโพส อธิบายในเรื่องนี้ ระบุว่า สวัสดีครับ ผมอยากจะขอชี้เเจงประเด็นต่างๆที่เกิดขึ้นในส่วนของมงกุฏประจำตำแหน่ง มิสฟ้าบุญเลิศภาคอีสาน ในฐานะของศิลปิน ผมเพิ่งได้เข้ากลุ่มมาเมื่อวานตอนเที่ยง และได้ดู Feed back ตั้งเเต่ไลฟ์สด ทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เลยอยากใช้กลุ่มเป็นที่อธิบาย เนื่องจากมีหลายประเด็นที่ไม่เข้าใจ และมีการเข้าใจแบบผิดๆ และจะพารุมสาปผม😂
ก่อนอื่นเลยผมขออธิบายในส่วนแรกเริ่มก่อนที่จะมาเป็นมงกุฏ ผมได้รับการติดต่อจากทางทีมมิสฟ้าบุญเลิศภาคอีสาน ว่าอยากทำมงกุฏจากกระดาษ ที่มีConcept ตั้งเเต่การเลือกใช้กระดาษที่เหมาะสม สามารถทำได้หรือไม่ และได้รับฟังถึงบริบทของเวทีนี้อย่างชัดเจน นั่นคือเรื่อง Creativity, Fashion, Art and No Beauty Standards ซึ่งภาคอีสานเป็นอีกเวทีหนึ่งที่มีการนำเสนอในลักษณะของรายการเรียลลิตี้ ตามฉบับของเวทีแม่ เรามีการการประชุมถึงเรื่องนี้ และมีการคาดการณ์ว่าจะต้องมีการดึงดราม่าถึงความเหมาะสม จากการตั้งค่านิยมเรื่องมงกุฏว่าจะต้องเป็นสิ่งที่มีคุณค่า ประดับด้วยอัญมณี และรวมไปถึงเพชรนิลจินดา ส่วนตัวแล้วผมไม่ติดกับประเด็นด้านนี้เลย เพราะเรารู้ว่ามันจะเกิดขึ้น แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากจะชี้แจงในกรณีที่ว่ากองไม่มีเงิน เอาเงินไปทำ Production, prop หมด จนไม่มีเงินมาทำมงกุฏ เลยไปหามงกุฏกระดาษอะไรก็ได้มาสวมศีรษะนางงาม เพื่อให้รู้ว่าภาคอีสานก็มีมงนะ จริงๆแล้ว มันถูกคิดขึ้นมาตั้งแต่ทีเเรกแล้ว ไม่ใช่ว่าคิดอะไรไม่ออก หรือไม่มีเงินอย่างที่หลายคนเข้าใจ และเเก้ปัญหาที่มันง่าย
กว่าจะมาเป็นมงกุฏกระดาษ ?? แน่นอนครับว่า ส่วนตัวผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวหรือติดตามวงการนางงามมาก่อนเลย ไม่มีความรู้ เลยต้องมีการศึกษา และทำการรีเสิร์ชข้อมูล ผมก็ได้เข้าไปสิงอยู่ในกลุ่มหนึ่ง ที่มีการอัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับมงกุฏนางงาม ผมรับบรีฟคอนเซ็ปต์จากทีมว่าอยากได้เป็นรวงข้าว และเรื่องราวเกี่ยวกับเกษตรกรรม สิ่งที่ผมต้องทำต่อคือการคิด Concept ต่อจากสิ่งที่ได้มา เราจะจะทำให้กระดาษแต่งต่างจากมงกุฏทั่วไปอย่างไร ปกติแล้วผมทำงานกระดาษมามาก สัมผัสชนิดของกระดาษมาเกือบทุกชนิด กระดาษที่เราเลือกใช้ในครั้งนี้ เป็นกระดาษที่ผลิตมาจากนมโค 100% นำเข้าจากอิตาลี และเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมกระดาษระดับโลก นอกจากนั้นยังเป็นนมโคที่ใช้ผลิต textile อีกด้วย อีกทั้งกระดาษชนิดนี้ยังมีพื้นผิวTexture ที่ไม่เรียบ และก็ไม่เยอะจนเกินไป ให้ความรู้สึกเสมือนเราสัมผัสกับแป้งที่ทำจากข้าว คุณค่าของเรานั่นคือการเลือกใช้วัสดุ โดยไม่ยึดติดกับสิ่งที่เป็นการจดจำในรูปแบบเดิมๆ
ดีไซน์ ลอกไม่ลอกMET ?? ตอบตรงนี้ด้วยความมั่นใจ พร้อมกับชูสามนิ้วที่หางคิ้ว ผมไม่ได้ลอกมงกุฏ หรือมี Reference จากเวทีอื่นๆ จาก sketch ด้านล่าง แสดงให้เห็นถึงการปรับแบบต่างๆ ขึ้นแบบจำลอง เพื่อวางขนาดและดูตำเเหน่ง ความเหมาะสมต่างๆ นี่คือสิ่งที่ผมทำ Process ต่างๆ ผ่านการคิดไม่น้อยไปกว่ามงกุฏที่ประดับเพชร การตัดปลายของรวงข้าวที่การดีไซน์คำนึงถึงความรู้สึกของผู้ที่ได้รับ ถ้าตัดด้วยลักษณะโค้งมน จะรู้สึกถึงความอ่อนช้อย แต่ยังดูมีความ Luxury ถ้าปลายตัดเเบบเหลี่ยม จะรู้สึกทันสมัย โมเดิร์น และดูมั่นคง แข็งแรงแต่อ่อนโยน เนื่องจากเรายังเลือกใช้เส้นที่มีความอ่อนช้อยอยู่ แต่นั่นไม่ใช่ Target เราเลยเลือกนำเสนอในแบบที่ออกมาแบบขอบพลิ้วไหว เสมือนเส้นของลายไทย จะเห็นได้ว่าทุกอย่างผ่านการตีความในลักษณะของนักออกแบบที่ผ่านการคิดอย่างมีขั้นตอน
Luxury/Craft ใช่ครับ งานนี้เราเลือกที่จะนำเสนอความคราฟต์แบบ100% เนื่องจากงานส่วนใหญ่ผมเน้นไปที่งานตัดมือ และให้คุณค่ากับMaterial ที่ไม่ผ่านการทำสี กว่าจะออกมาเเต่ละชิ้นไม่ง่ายนะครับ การตัดชิ้นงานที่มีความละเอียด ลงบนกระดาษที่มีผิวสัมผัส มีความหนา ไม่จบแค่นั้น เมื่อเสร็จแล้วต้องมาใช้เทคนิคของการสร้างชิ้นงานในลักษณะของประติมากรรมกระดาษ การกดขอบด้วยน้ำหนักที่พอดี เพื่อให้กระดาษไม่เสียหาย หลักจากนั้นนำมาประกอบ การประกอบก็ใช่ว่าจะใช้กาวร้อนยิงติดๆไปให้มันอยู่ แน่นอนว่าผมจะไม่ทิ้งคราบกาวไว้อันนี้คือต้องใช้ประสบการณ์ ความละเอียด ประณีต สิ่งนี้เทียบได้กับงานหัตถกรรมช่างฝีมือของไทย หรือร้านรับทำมงกุฏประดับเพชร ซึ่งต่างกันแค่เทคนิคที่และวิธีการที่เลือกนำเสนอ
ผมจบด้าน Product Design อาจไม่ได้เป็นที่รู้จักในกลุ่มของนางงาม แต่ผมมั่นใจว่าในแวดวงนักออกแบบ และกลุ่มศิลปิน ผมมีชื่อและมีประสบการณ์ในการรังสรรค์งานศิลปะจากกระดาษมากพอสมควร ผมเริ่มจับกระดาษมามากกว่า7ปี การที่มีนักออกแบบเลือกที่จะทำสิ่งใหม่ เปลี่ยนแปลงจากสิ่งเดิมที่มีอยู่ แน่นอนว่ามันจะต้องมีทั้งความเห็นที่เป็น Positive และ Negative แต่ผมชินเเล้ว เนื่องจากในสายออกแบบเรามักจะเจอกับ Comment ที่แรงๆ มาตั้งแต่ตอนเรียน เพื่อใช้ในการปรับปรุง พัฒนา แก้ไข การที่ผมอยากออกมาอธิบาย เนื่องจากทีมที่รับผิดชอบก็ได้มีการบอกถึงแนวคิดไปบ้างแล้ว แต่ผมในฐานะคนที่สร้างสรรค์งานชิ้นนี้ขึ้นมา ผ่านความคิดและประสบการณ์ที่ต่อยอดมาจาก Project อื่นๆที่ผ่านมา เลยอยากจะแชร์ขั้นตอนต่างๆที่เกิดขึ้น สำหรับผม มงกุฏกระดาษ มันมีคุณค่าในตัว มงกุฏเราถูกตีความว่ามันจะต้องหรูหรา ประดับด้วยอัญมณี แต่ถ้าเรามองในแง่ของความหรูหราเป็นงานศิลปะ ที่เป็นงาน Craft สิ่งนี้มีคุณค่ามากกว่าการที่ทีมเลือกที่จะไปเดินซื้อมงกุฏสำเร็จรูปจากสำเพ็ง ประดับด้วยเพชร ที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือผลิตมงกุฏเพชรขึ้นมาใหม่ แต่ยังไม่ตอบโจทย์ในด้านเนื้อหาของรายการ แต่อาจตอบโจทย์กับภาพลักษณ์มากกว่าความ Creativity ผมคิดว่าทีมเลือกที่จะนำเสนอในมุมมองแบบใหม่ แบบไม่เหมือนใคร ในแบบฉบับของมิสฟ้าบุญเลิศ ภาคอีสาน เพราะไม่แน่ นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งของ Signature ที่เราจะนำเสนอมงกุฏในรูปแบบของงานกระดาษ หรืองานคราฟต์ ในปีต่อๆไป ขอบคุณครับ 🙏🙏
อ้อ อีกเรื่อง ผมได้เข้าไปอยู่ในกองสามวันสุดท้าย ทุกคนตั้งใจทำมันมาก ทั้งทีมถ่ายทำ ทีมนางงาม รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ เราเจอปัญหาด้านสภาพแวดล้อมต่างๆ เนื่องจากตอนถ่ายทำเป็นช่วงที่มีพายุเช้า มีการเปลี่ยนเเผน และเรื่องคะแนน มีทีมกรรมการที่มีตัวตนจริงๆไม่ใช่คนๆเดียวจิ้มคะแนน ให้คะแนนกันจริงจังมาก ตอนให้คะแนนคือกรรมการต้องใช้สมาธิ ไม่ต่างกับเวทีใหญ่ๆ มีการพูดคุยปรึกษากัน เราเจออุปสรรคในการถ่ายทำที่มากมาย แต่เราก็แก้ปัญหาเพื่อให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด อย่าด้อยค่าความตั้งใจของทีมงานด้วยคำพูดที่ดูเหยียดหยาม ทุกคนมีความเป็นมืออาชีพ ทุกคนสามารถที่จะชอบ หรือไม่ชอบก็ได้ อันนี้เป็นเรื่องพื้นฐานของการทำงาน เราไม่สามารถชี้นิ้วบอกให้ทุกคนชอบในสิ่งที่เราทำ แต่ก็อยากบอกเล่าในสิ่งที่ผมได้ทำ ได้ไปเจอ และได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม อีกอย่างผมไม่ได้เป็นคนอีสาน ผมเป็นคนภาคกลางแต่กำเนิด แค่อยากพูดในฐานะของศิลปินคนหนึ่งที่นั่งดูการไลฟ์สดตั้งแต่เมื่อวาน และตัดสินใจว่าต้องออกมาพูดอะไรบางอย่าง เพื่อคลายข้อสงสัยต่างๆที่เกิดขึ้น ขอบคุณครับ

















