กล้าไม้ยืนต้นฟรีสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ ด้วยการขายคาร์บอนเครดิต

โอกาสดีของพี่น้องเกษตรกรไทยและผู้ที่มีความสนใจที่จะหารายได้จากที่ดินทำกินของตน โดยการปลูกต้นไม้เพื่อขายเป็นคาร์บอนเครดิตให้แก่อุตสาหกรรมและผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ เพื่อนำไปชดเชยจำนวนก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาเกินที่รัฐกำหนด วันนี้มาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน

การขายคาร์บอนเครดิตนั้น มีวิธีการไม่ยุ่งยากและซับซ้อน สามารถดำเนินการได้ดังนี้

1.ผู้ที่สนใจ ให้ขึ้นทะเบียนโครงการ T-VER กับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) โดยจะแบ่งตามประเภทต้นไม้และรูปแบบการปลูก

2. อบก. จะส่งเจ้าหน้าที่เพื่อสำรวจพื้นที่จริง โดยสุ่มตัวอย่าง 1% ของพื้นที่ทั้งหมด ว่ามีต้นไม้อยู่จริงหรือไม่ และจะคำนวณเป็นคาร์บอนว่าได้จำนวนเท่าใด แต่ในปัจจุเรามีเทคโนโลยีดาวเทียม ร่วมกับระบบ AI โดยจะนำมาช่วยประเมินปริมาณคาร์บอนฯ ของพื้นที่จริงทั้งหมด

3.เมื่อขึ้นทะเบียนสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถปลูกต้นไม้ได้ทันที โดยในระยะปีที่ 3, 6 และ 10 จะสามารถประเมินคาร์บอนฯ ได้ จะมีเจ้าหน้าที่ อบก. เข้าประเมินในทุก 3 ปี และจะคำนวณออกมาเป็นค่าการกักเก็บคาร์บอนฯ (เราจะนำค่าตรงนี้ไปขายกับองค์กรหรือหน่วยงานที่มีความต้องการต่อไป)

จะเห็นได้ว่าในขั้นตอนของการขายคาร์บอนเครดิตนั้น ไม่ใช่การปลูก นับคาร์บอนเครดิตเพื่อขายแล้วจบ แต่มีระยะเวลาในการเข้ามาประเมินทุกๆ 3 ปี นั่นก็หมายความว่า ต้นไม้ที่ปลูกนั้นจะต้องเป็นต้นไม้ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คงไม่ใช่ไม้ล้มลุก ไม้พุ่มต่างๆอย่างแน่นอน แต่เป็นไม้ยืนต้น หรือไม้เศรษฐกิจ ที่มีอายุการเจริญเติบโต ไม้เหล่านี้สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หรือนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มได้ รวมถึงเป็นไม้ที่นำมาปลูกเพื่อขายคาร์บอนเครดิต เช่น ไม้สัก พะยูง มะค่าโมง ประดู่ ยางนา มะฮอกกานี ตะเคียนทอง แดง กระถินลูกผสม และกฤษณา เป็นต้น

นอกเหนือจากนี้แล้ว การหากล้าไม้ดังกล่าวข้างต้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เรามีหน่วยงานรัฐที่เข้ามาช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างเช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่กำกับดูแลโดยนายวราวุธ  ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ กับโครงการของกรมป่าไม้ แจกกล้าไม้ฟรี 11 ล้านกล้าไม้ ซึ่งประกอบด้วยกล้าไม้บก 10 ล้านกล้า 10 ชนิด พร้อมเมล็ด ไม้มีค่า รวมถึงแจกกล้าไม้ป่าชายเลนอีกจำนวน 1 ล้านกล้า ตั้งแต่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2565 ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 20 ปีของชาติ และเพื่อสืบสานโครงการรวมใจไทย ปลูกต้นไม้ เพื่อแผ่นดิน สืบสานสู่ 100 ล้านต้น โดยเป็นการปลูกต้นไม้ร้อยล้านกล้าเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ปัจจุบันมีการร่วมโครงการมากกว่า 100 ล้านกล้าแล้ว หากประชาชนที่สนใจและต้องการเข้าร่วมโครงการฯ ดังกล่าว เมื่อรับกล้าไม้แล้วสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://plant.forest.go.th/ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในโครงการฯ ได้อีกด้วย

นับจากนี้การปลูกต้นของเรา นอกจากกจะสร้างความร่มรื่นร่มเงา เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศแล้ว ยังเกิดเป็นรายได้แก่ชุมชน และครอบครัวอีกด้วย