เพจดังเตือน!! ซดน้ำปลาร้า อยู่ใน tier เดียวกัน กับการกินกะปิ น้ำปลา ซีอิ๊ว อาจพิการตลอดชีวิตหรือเสียชีวิต
อย่าทำเป็นเล่น คึกคะนอง เมื่อ Drama-addict โพสตฺเตือน...กรณีที่ ดาว TikTok ยูทูปเบอร์ ขายน้ำปลา ทำแปลกๆ เทใส่แก้ว-น้ำแข็ง ยกซดอร่อยแซบหลาย
การซดน้ำปลาร้า อยู่ใน tier เดียวกัน กับการกินกะปิ น้ำปลา ซีอิ๊ว ซึ่งอย่างที่ทราบกัน ว่าทั้งหมดที่ว่ามา คือเครื่องปรุง ที่มีรสเค็ม
พวกนี้จะมีโซเดียมอยู่ในปริมาณสูงมากๆ ปรกติเราจะใส่ในอาหารในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เยอะเกินไป เพราะใส่เยอะไปจะเค็ม และอันตรายกับสุขภาพ ก็ทำให้ความดันสูง เสี่ยงโรคหัวใจเส้นเลือดในสมองไตวายได้
และถ้ากินเยอะๆในเวลาสั้นๆ อันนี้ อันตรายระดับสูงสุด
สมัยก่อน ช่วงที่บ้านเรายังมีการรับน้องหนักๆ มันจะมีพวกรุ่นพี่โง่ๆ
บังคับให้รุ่นน้องซดน้ำปลา ซีอิ๊ว (เพื่อเชี่ยอะไรก็ไม่รู้) ผลคือ รุ่นน้องได้รับโซเดียมในปริมาณสูงมาก จนโซเดียมในเลือดสูงผิดปรกติ จนสมองได้รับความเสียหายรุนแรง จนพิการตลอดชีวิตหรือเสียชีวิต
ก็เตือนกันอีกรอบ พ่อแม่พี่น้องที่มีลูกหลานตัวเล็กๆชอบดู tiktok ระวังกันให้ดี อย่าให้ลูกหลานไปซดของพวกนี้เลียนแบบ tiktoker ครับ
1. "น้ำปลาร้า" = เครื่องปรุงรส ไม่ใช่เครื่องดื่ม ใส่ในอาหารในปริมาณเหมาะสมเพื่อความนัวๆ
2. "น้ำปลาร้า" มีโซเดียมสูงมาก เท่าที่สำรวจมา น้ำปลาร้า 5 ซีซี มีโซเดียมประมาณ 300-500 mg ปรกติขวดนึงก็มีปริมาณประมาณ 200-300 cc ดังนั้นน้ำปลาร้าขวดนึงนี่ โซเดียมล่อเข้าไปตั้ง 2-3 หมื่นมิลลิกรัมแล้ว
3. ปรกติคนเราไม่ควรได้รับโซเดียมเกินวันละ 2000 mg สมมุติมีเด็กเลียนแบบ หยิบขวด "น้ำปลาร้า" มาซดซักครึ่งขวด ก็ได้โซเดียมไป 1-1.5 หมื่นมิลลิกรัม ประมาณ 5-7 เท่าที่ร่างกายควรได้ต่อวัน ซึ่งจะทำให้ความดันสูง ไตทำงานหนัก อาจถึงขั้นไตวายได้
4.ในกรณีที่เลวร้ายสุด จะเกิดภาวะ โซเดียมในเลือดสูง ซึ่งมีผลกับสมอง ทำให้สมองเสียหายจนเสียชีวิตได้ถ้ารักษาไม่ทัน เหมือนกรณีเคสรับน้อง ที่รุ่นพี่บังคับให้น้องซดน้ำปลาหรือกะปิ หลักการเดียวกัน