Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageราคาทองคำ
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

อาลัยน้องน้ำแข็ง หนูน้อยหัวใจแกร่ง จิตไปด้วยใจที่เป็นสุข

โพสท์โดย Penjung

เพจน้องน้ำแข็ง น้องณัฐวีณ์ เครือวัลย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ซึ่งเป็นการสนทนากับน้องน้ำแข็ง ถึงการเตรียมตัวตาย โดยให้จากไปด้วยใจที่เตรียมพร้อม โดยการหน้านี้ น้องน้ำแข็งได้เคยซ้อมตายมาบ้างแล้ว

พ่อแม่ได้ทำหน้าที่ส่งน้องในวาระจิตสุดท้าย จากไปด้วยใจที่เป็นสุข

วันที่ 18 มิ.ย.65 ทางคุณแม่ได้ออกมาเผยภาพน้องย้อนหลังในวันรดน้ำศพ และบทสนทนา ในภาพเผยให้เห็นว่า..น้องจากไปแบบสดใส หน้าตายิ้มแย้ม (อมยิ้มโชว์ฟัน 2 ซี่ด้วย ป๊าเพิ่งแปรงฟันให้โชว์ได้ค่ะ) เป็นการจากไปที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะทำได้ สิ่งที่ทางครอบครัวและตัวน้องได้ทำก่อนน้องตายจริง คือการซ้อมเตรียมตัวตายค่ะ

ซ้อมบ่อย ก่อนวันตายจริง 1 วัน ลิ้นยังไม่แข็ง ลิ้นยังพูดปกติ(แต่การหายใจของน้องก็เหนื่อยขึ้นมากแล้ว)

แม่น้องบอกว่า "น้ำแข็งดูร่างกายนี้นะ เห็นไหม เราสั่งไม่ได้ บังคับไม่ได้ สั่งให้มันหายดีก็ไม่ได้ สั่งให้มันห้ามเจ็บห้ามปวดก็ไม่ได้ ร่างกายนี้เรายืมโลกมาใช้ชั่วคราว ถึงคราวที่ร่างกายนี้มันไม่ไหวแล้วจริงๆ ทิ้งมันไปนะลูก ทิ้งมันไป มันเป็นตัวสร้างทุกข์ ไม่ต้องไปรั้งมันไว้ ตั้งจิตตั้งใจให้ตัวหนูมีอิสระจากร่างกายที่สร้างทุกข์เสียที "

น้ำแข็ง แซวแม่กลับว่า ม้าซ้อมตายแล้วถ้าเกิดไม่ตายอะ ไม่ซ้อมฟรีเหรอ ??

ม้าตอบ ไม่ตายไม่เป็นไร แต่ถ้าตายเราซ้อมตายเผื่อไว้แล้ว จะได้ไม่ขาดทุน (น้ำแข็งก็โอเค เข้าใจแต่โดยดี) ที่สำคัญหากร่างกายทรุดลงไปเรื่อยๆ มาซ้อมตายตอนนั้น ม้ากลัวหนูจะเริ่มฟังไม่รู้เรื่อง รีบซ้อมตายตอนที่ยังมีเรี่ยวแรง มีสติที่มากพอก่อนนะคะ เพราะจิตสุดท้ายสำคัญ

ยามหนูจะต้องจากไปม้าอยากให้หนูไม่ติดอะไร ไปแบบจิตของผู้ที่เห็นธรรมะ เห็นความไม่ใช่ของเรา เห็นว่าเป็นสิ่งที่เกิดดับ ตั้งอยู่ชั่วคราว อย่าไปโศกเศร้ากับสิ่งที่ไม่สามารถยึดมั่นถือมั่นได้ ก่อนหน้าแม่ลูกเคยคุยว่าสมมุติถ้าหนูต้องตายหนูจะเสียใจอะไรบ้างไหม

(แม่ของน้องมองว่าจำเป็นต้องคุยเพราะเห็นความสำคัญว่าคนเราก่อนจะไป จิตใจต้องหมดห่วงก่อน)

น้องตอบ ..อย่างที่ 1 หนูมีความฝันอยากเป็นนักวาดรูปมืออาชีพ หนูยังไม่ได้ทำเลยเลยยังไม่อยากตาย (ม้าตอบ เรื่องนี้จะอยู่หรือจะตายถ้าชอบวาดรูปอยู่ที่ไหนก็วาดได้ สำคัญที่หนูต้องไปดี ไปด้วยจิตดีอย่ามีห่วง จบประเด็นเรื่องวาดรูปแบบเข้าใจดี )

เรื่องที่ 2 หนูไม่อยากตายหนูอยากอยู่กับป๊าม้า หนูมีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้าง และถ้าหนูไม่อยู่ตายไปม้าจะเสียใจมากไหม? หนูไม่อยากให้ม้าเสียใจ และหนูอยากตอบแทนบุญคุณม้าที่ค่อยเหนื่อยดูแลหนูมาตลอด ยามม้าแก่หนูอยากเป็นคนดูแลม้า

ม้าตอบ หนูไม่ต้องห่วงหากหนูไปดี ไปด้วยจิตที่ปล่อยวาง หากหนูจะมาหาม้าเมื่อไหร่ก็ได้ หนูไม่ต้องกังวล ม้ารู้หนูเก่ง ม้าจะเข้มแข็งม้าจะเก็บความคิดถึงหนูเป็นแรงผลักดันให้ตัวม้าขยันเจริญสติ เพื่อพัฒนาจิตใจตัวเอง ให้มีดวงตาเห็นธรรมยิ่งๆขึ้นไป และให้อานิสงฆ์นี้ถึงแก่ตัวหนู และม้าจะทำทุกวัน ม้าก็จะทำตัวม้าให้ดีพอที่วันหนึ่งเราจะได้ไปพบกัน

ส่วนยามม้าแก่ หนูไม่ต้องห่วงค่ะ ม้าเก่งม้าดูแลตัวเองได้ ม้าก็มีญาติพี่น้อง ม้ามีเงินเก็บ ม้าเอาตัวรอดได้ หนูสบายใจได้เลยนะลูก ม้าหวังแค่หนูได้ไปอยู่ดีมีสุข......
แล้วหนูยังมีเรื่องอะไรอีกไหมที่ทำให้หนูไม่อยากตาย หากถึงเวลาต้องตาย ?

น้องตอบ..ไม่มีแล้วค่ะ

ม้าบอก..จำคำม้าไว้นะ ม้าดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องเป็นห่วงม้าค่ะ และวันนี้ม้าก็ทำได้จริงๆ ไม่ได้โกหกหนู เพราะหนูไปสบายแล้ว หนูไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องเจ็บแล้ว ม้าควรต้องยินดีๆๆ เพราะความสุขของหนู คือความสุขของม้าค่ะ

รักหนูน้ำแข็งเหมือนเดิม แม้ม้าจะไม่เห็นหนู แต่ม้ากลับรู้สึกว่าหนูยังอยู่ข้างๆม้า ปกติม้าจะป้อนข้าวหนู ทำอาหารให้หนูทุกวัน ในการดูแลหนู วันนี้ม้าก็ยังดูแลหนูเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนจากการทำกับข้าวป้อนข้าว มาเป็นการนั่งสมาธิให้หนูแทน และม้าจะดูแลหนูแบบนี้ทุกวันจนม้าตายค่ะ เพื่อหวังว่าอานิสงส์แห่งการเจริญสติ เพื่อให้เห็นอริยสัจ 4 จะส่งผลโอบอุ้มดวงจิตของหนูในทุกๆวัน

**หน้าที่ๆทำต่อมาคือ ค่อยดึงพ่อน้องน้ำแข็งให้ไม่โศกเศร้า ต้องปรับความคิด พร้อมบอกลูกไปดี เราควรยินดี เรามีโอกาสทำหน้าที่พ่อแม่อย่างเต็มที่วินาทีสุดท้ายของลูก การที่เราเศร้าเพราะคิดถึงลูก อันนี้เป็นเพราะความอยากของเรา คือเราอยากให้ลูกอยู่ อันนั้นเป็นปัญหาของตัวเรา ไม่ใช่ปัญหาของลูก เพราะลูกไปสบายแล้ว

หากลูกมองมาเราเอาแต่โศกเศร้าแล้วพลังจิตที่โศกเศร้าของเราจะไม่ส่งถึงลูกเหรอ
ดังนั้นรีบดึงสติให้ไว ว่าความโศกเศร้าก็เป็นของที่พร้อมจะมากระแทกเราอย่างหนักหน่วงในช่วงแรก เราไม่ควรปล่อยตัวปล่อยใจให้จมอยู่กับความเศร้า มันมีแต่โทษ ไม่มีประโยชน์

ให้เศร้า 3 ปีเลยก็คืนคนตายกลับมาไม่ได้ แต่ควรรีบเจริญสติเห็นความเศร้าเป็นของชั่วคราว เกิดดับได้ เปลี่ยนความโศกเศร้าเป็นการพัฒนาจิตใจของเราแล้วให้อานิสงส์ถึงแก่ตัวลูก ถึงเรียกว่าเป็นพ่อแม่ที่พยายามทำแต่สิ่งที่ดีๆให้ลูก

ขอจบการสนทนาค่ะ
ขอบคุณ น้องณัฐวีณ์ เครือวัลย์

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Penjung's profile


โพสท์โดย: Penjung
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: นายนอนตะ, อกหัก มารักกะลิง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
แหลมทองสหการ เจ้าของ ไส้กรอกแดงในตำนานสิบเลขขายดี แม่จำเนียร งวด 16/5/68รีวิวหนังดัง GREEN ZONE โคตรคนระห่ำ ฝ่าโซนเดือดจุดชมวิว “โค้งพับผ้า” เที่ยวน่านไม่ควรพลาด
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
บ้านเขมรโบราณในอดีต VS บ้านเขมรโบราณในปัจจุบัน?
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ซูเอฮิโระ จุน นากเอกAVโดนดราม่าชู้รักนักเบสบอล ทำหายหน้า 4 เดือนเต็มเขย่าขั้ว! พรรคประชาชนชนะเลือกตั้งท้องถิ่น 2568 สะเทือนอำนาจเดิมแตกตื่นทั้งกองทัพ! พันเอกถูกหมายจับ พัวพันเว็บพนันออนไลน์พระสังกัจจายน์ให้โชค แก้บ่นไข่ไก่ 2000 ฟอง แจกชาวบ้าน
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน LinePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageราคาทองคำ
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง