ฤกษ์ดาวโจร เป็นอย่างไร อ่านจบจะเข้าใจ
ดาวโจรหรือที่ฝรั่งเรียกว่าดาวซิริอุส (Sirius) เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในตอนกลางคืน (ดาวเคราห์ที่สว่างที่สุดคือดาวศุกร์ รองลงไปคือดาวพฤหัสบดี) สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มีค่าระดับความสว่างอยู่ที่ -1.47 (ตัวเลขยิ่งติดลบมากก็จะยิ่งสว่างมาก)
ดาวซิริอุสอยู่ในกลุ่มดาวสุนัขใหญ่ (Canis Major เป็นภาษาละตินที่แปลว่าสุนัขใหญ่) ส่วนกลุ่มดาวนี้อยู่ตรงไหนให้ลองมองหากลุ่มดาวไถให้เจอก่อน (ของฝรั่งจะเป็นกลุ่มดาวนายพรานหรือ Orion) กลุ่มดาวสุนัขใหญ่จะอยู่ถัดจากกลุ่มดาวไถ
กลุ่มดาวนี้เราไม่สามารถมองเห็นได้ตลอดทั้งปี พอพ้นช่วงหน้าร้อนก็จะมองไม่เห็น และกลับมาปรากฏใหม่ในช่วงใกล้ปลายปี ซึ่งเป็นช่วงเก็บเกี่ยวข้าว ซึ่งในเวลานั้นชาวนาจะเก็บเกี่ยวและขายข้าวได้ ทำให้มีเงินเก็บไว้ในบ้าน (สมัยก่อนนี้ยังไม่มีธนาคาร) ดังนั้นเมื่อดาวดวงนี้ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าจึงเป็นเสมือนเวลาที่บ้านชาวนาแต่ละหลังมีเงินเก็บอยู่ในบ้านแล้ว โจรผู้ร้ายจึงใช้การปรากฏของดาวดวงนี้เป็นสัญญาณบอกให้เริ่มฤดูการแห่งการปล้น
ในตำราหมอดูนั้น ฤกษ์โจร หรือโจโรฤกษ์ เป็นชื่อห้วงเวลาหนึ่งในจักรราศี ที่ตามตำราบอกว่า เป็นห้วงเวลาที่ให้คุณต่อบรรดาโจรทั้งหลาย เหมาะสำหรับการแย่งชิง ปล้นฆ่าทำลายล้าง ฯลฯ ส่วนเด็กที่เกิดใต้ฤกษ์โจร ก็มักจะมีนิสัยส่อไปในทางโจรๆ นี่แหละ แต่ถ้าบังเอิญตอนเกิดมามีดาวศุภเคราะห์ให้คุณอยู่บ้าง ก็อาจไม่ถึงกับเป็นโจร แต่ก็ยังมีนิสัยชอบแข่งขันแย่งชิง บรรดาโหราทั้งหลายจึงมักแนะนำคนที่มีลูกหลานบังเอิญเกิดในฤกษ์นี้ให้เลี้ยงดูส่งเสริมให้เป็นนักกีฬาอะไรสักอย่าง แล้วก็ลุ้นให้ลงไปแข่งขันกันในสนามตามกฏกติกาเสียให้รู้แล้วรู้รอด ซึ่งว่ากันว่าคนเกิดฤกษ์นี้แข่งอะไรก็มักจะชนะเสียด้วย
คนที่เกิดฤกษ์โจร ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี ก็มีอยู่ ๒-๓ คน ที่พอเอ่ยถึง คนมักจะร้อง อ๋อ...
คนแรกก็คือ พระเจ้าอชาตศัตรู โอรสตัวร้ายของพระเจ้าพิมพิสาร ตอนเกิดมาหมอดูก็ทำนายทายทักว่าโอรสองค์นี้จะเกิดมาเป็นศัตรูกับพ่อ สมควรฆ่าทิ้งเสียดีกว่า แต่พระเจ้าพิมพิสารก็ใจไม่ด้านพอ ได้แต่ตั้งชื่อแก้เคล็ดว่า อชาตศัตรู ก็คือไม่ได้เกิดมาเป็นศัตรู แต่ปรากฏว่าชื่อไม่ขลังพอ อชาตศัตรูโตขึ้นก็แย่งราชบัลลังก์ แถมยังจับพ่อไปขังไว้จนสิ้นพระชนม์ นี่แหละ โทษฐานไม่เชื่อหมอดู
และพระเจ้าอชาตศัตรูนี้เอง พอเป็นกษัตริย์ก็เที่ยวรุกรานปล้นบ้านเมืองคนอื่น รวมทั้งการวางแผนส่งวัสสการพราหมณ์เข้าไปทำลายสามัคคีธรรมของกษัตริย์ลิจฉวีเสียย่อยยับ นี่ขนาดเป็นโอรสกษัตริย์ พระบิดาก็ธรรมะธรรโม แววโจรยังโดดเด่น ยั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่
คนต่อมาก็คือ องคุลีมาล ตอนเกิดมา ก็มีคนทำนายว่าจะโตขึ้นเป็นผู้ร้ายใจฉกรรจ์ สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนมากมาย ท่านพ่อก็ใจอ่อนเหมือนพระเจ้าพิมพิสาร ได้แต่ตั้งชื่อแก้เคล็ดแบบเดียวกัน คือให้ชื่อว่า อหิงสกะ แปลว่า ผู้ไม่เบียดเบียน
แล้วก็ปรากฏว่าหมอดูก็ทำนายแม่นเป๊ะอีกเหมือนกัน เพราะอหิงสกะซึ่งแรกเริ่มเดิมทีก็เหมือนจะดี บังเอิญไปเจออาจารย์ไร้จรรยาบรรณ กลัวลูกศิษย์ได้ดีเกินหน้า เลยหลอกให้ไปฆ่าคนให้ได้พันคน กลายเป็นจอมโจรองคุลีมาล ฆ่าตนไป ๙๙๙ คน เกือบจะฆ่าแม่ตัวเองเป็นคนที่ ๑,๐๐๐ โชคดีพระพุทธเจ้าไปขวางไว้ทัน เทศนาจนเปลี่ยนเส้นทางชีวิต หันมาบวชเป็นภิกษุ ท้ายสุดได้บรรลุอรหันต์ หลุดจากอิทธิพลของฤกษ์โจรไป
ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ กามนิต พ่อค้าหนุ่มแห่งเมืองโกสัมพี เรื่องนี้เคยเป็นหนังสือเรียน ตอนนี้ก็ยังเป็นหนังสืออ่านนอกเวลา กามนิตเกิดมาในยุคเดียวกับองคุลีมาลนี่แหละ ตอนเป็นพ่อค้านำสินค้าไปขายต่างเมืองถูกองคุลีมาลปล้นกลางทาง แต่รอดชีวิตเพราะพ่อรวย เลยถูกจับไว้เป็นตัวประกันให้พ่อส่งค่าไถ่มาให้ ระหว่างที่เป็นตัวประกันนี้เอง กามนิตได้พบกับวาชศรพซึ่งเป็นอาจารย์สอนโจรในสังกัดองคุลีมาล วาชศรพคนนี้ก็เกิดฤกษ์โจรเหมือนกัน เลยมาเป็นโจรตามดวง วาชศรพทำนายว่ากามนิตก็เกิดฤกษ์โจร ยังไง ๆ ก็ต้องเป็นโจร ฟันธง !
แต่ไม่รู้ว่าวาชศรพโมเม หรือกามนิตบอก วัน เดือน ปี เกิด ผิดพลาด ทำให้ทำนายผิด เพราะท้ายที่สุดกามนิตก็ไม่ยักได้เป็นโจร เพราะพ่อส่งค่าไถ่มาให้ก่อน กามนิตก็กลับไปเป็นพ่อค้าร่ำรวย จนท้ายสุดเกิดความเบื่อหน่าย ออกเที่ยวตามหาพระพุทธเจ้า แล้วไปโดนวัวบ้าขวิดตายเสียก่อน โดยไม่รู้ว่าได้พบพระพุทธเจ้าแล้ว ได้ฟังธรรมก็แล้วแต่ไม่ทะลุ เพราะใจยังหมกมุ่นกับความรัก
สรุปว่ากามนิตก็ตายไปโดยไม่ได้เป็นโจร กลับได้ไปเ้กิดในแดนสุขาวดี กลายเป็นกามนิต ภาค ๒
ทั้งหลายทั้งแหล่นี้ ก็คงจะสรุปได้ว่า อชาตศัตรู และองคุลีมาลนั้น เกิดมาเพื่อจะเป็นโจร ส่วนกามนิต ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า และที่ไม่ได้เป็นโจรทั้ง ๆ ที่เข้าไปอยู่ในหมู่โจร นั่งฟังวาชศรพอบรมหว่านล้อมอยู่นานโข ก็คงเป็นเพราะไม่มีสันดานเป็นโจร
ส่วนหลายคนที่เราเห็นท่้าทางเหมือนโจรอยู่ตอนนี้ ไม่แน่ใจว่าเกิดฤกษ์โจร เป็นโจรแท้ในกมลสันดาน หรือได้รับการอบรมบ่มนิสัยให้เป็นโจร หรือเกิดจากค่านิยมเห็นคนมีพฤติกรรมเป็นโจรแล้วได้ดีมีสุขไปตาม ๆกัน เลยเอาอย่าง ก็ไม่รู้
ที่น่าแปลกใจก็คือ ฤกษ์โจรก็เป็นห้วงเวลาสั้น ๆ ในบรรดาสารพัดฤกษ์ คนทีเกิดฤกษ์นี้ถ้าคิดเป็นอัตราส่วนก็น่าจะไม่กี่เปอร์เซ็นต์
แต่ทำไมตอนนี้ เหมือนมีโจรเกลื่อนไปหมด
โจรใต้ก็มี โจรเมืองหลวงก็เพียบ โจรปล้นบ้านเมือง ปล้นเงินภาษีประชาชนก็ยุ่บยั่บไปหมด
ใครมีลูกหลานเกิดฤกษ์โจร รีบส่งเสริมให้เป็นนักกีฬาเร็ว ๆ นะ ให้ไปแข่งแย่งเหรียญแย่งถ้วยในสนาม สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ
ดีกว่าปล่อยให้มาเป็นโจรเล็ก โจรใหญ่ โจรระดับชาติ เพ่นพ่านสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอย่างทุกวันนี้
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/2007331706232995/photos/a.2007341916231974/2873532192946271/



