สุดยอดภูเขา ยาวกว่าเทือกเขาหิมาลัย 3 เท่า

สุดยอดภูเขา ยาวกว่าเทือกเขาหิมาลัย 3 เท่า

นักวิจัยค้นพบซูเปอร์ภูเขายุคก่อนประวัติศาสตร์

ที่มีความยาวมากกว่า7,200 กม. ซึ่งอยู่ไกลเกินกว่าเทือกเขาหิมาลัยในปัจจุบัน

งานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสารEarth and Planetary Science Letters

ฉบับ เดือนกุมภาพันธ์ เผยให้เห็นถึงการมีอยู่ของเทือกเขาที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนซึ่งเรียกว่า

Nuna Super Mountains ซึ่งตั้งอยู่บนทวีปโบราณอันกว้างใหญ่เมื่อ 1 ปีที่แล้ว

เมื่อ 8 - 2 พันล้านปี นักวิจัยยังได้อธิบายถึงเทือกเขาที่สอง

ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 500-650 ล้านปีก่อน เรียกว่า ซุปเปอร์เมาเทนทรานกอนดวานัน

 การค้นพบนี้ทำให้กระจ่างในสองช่วงเวลาในประวัติศาสตร์สมัยโบราณของโลก

เมื่อมหาทวีปทำให้พื้นผิวของดาวเคราะห์แตกต่างไปจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอย่างมาก

ซุปเปอร์เมาท์เทน Transgondwanan ตั้งอยู่บน Gondwana

ทวีปโบราณที่มีทวีปแอนตาร์กติกา แอฟริกา อเมริกาใต้

ออสตราเลเซียและอินเดียเมื่อ 180 - 600 ล้านปีก่อน

 ความแตกแยกของทิวเขานำไปสู่การก่อตัวของทวีปปัจจุบัน 

นูน่าซุปเปอร์เมาเทนที่เพิ่งค้นพบใหม่นี้ตั้งอยู่บนอีกทวีปหนึ่งซึ่งเก่าแก่กว่าที่เรียกว่าโคลัมเบียหรือนูน่า 

มหาทวีปนี้ประกอบด้วยวงดนตรีทางบกมากมาย เช่น อเมริกาใต้ แอฟริกา ยูเรเซีย และออสตราเลเซีย เมื่อประมาณ 1.8 - 2 พันล้านปีก่อน

ในแง่ของระดับความสูงนั้น ซุปเปอร์ภูเขานูน่าเปรียบได้กับเทือกเขาหิมาลัย

ซึ่งเป็นเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน

โดยที่ภูเขาที่สูงที่สุดในโลกคือภูเขาเอเวอเรสต์ อย่างไรก็ตาม

ในแง่ของความยาว ซูเปอร์เมาท์เทนนั้นยาวกว่าเทือกเขาหิมาลัยถึง 3 เท่า

(2,400 กม.) ตามที่ Ziyi Zhu นักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีมวิจัยกล่าว

นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่าวันที่ของภูเขาสูงทั้งสองนั้นใกล้เคียงกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์วิวัฒนาการ

 เป็นไปได้มากว่าพวกเขามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสิ่งมีชีวิตบนโลก

 การก่อตัวของ supermountain เพิ่มการกัดเซาะและการตกตะกอน

ทำให้วัสดุที่จำเป็นส่วนใหญ่ เช่น ฟอสฟอรัส ไหลลงสู่มหาสมุทรโบราณของโลก

"ชีวิตในวัยเด็กเช่นสาหร่ายและไซยาโนแบคทีเรียสามารถใช้คาร์บอนไดออกไซด์ น้ำ

และแสงในการผลิตออกซิเจนและน้ำตาลในระหว่างการสังเคราะห์ด้วยแสง

สารอาหารเช่นฟอสฟอรัสมีบทบาทสำคัญในกระบวนการนี้

แหล่ง ฟอสฟอรัสหลักในระบบนิเวศทางทะเลมาจากการกัดเซาะและการพังทลายของวัสดุบน

อัตราการกัดเซาะขึ้นอยู่กับไหล่เขา ดังนั้นการกัดเซาะอย่างรวดเร็วใน supermountains

จะเพิ่มอุปทานอย่างมีนัยสำคัญ ให้สารอาหารแก่มหาสมุทร

ส่งเสริมกิจกรรมทางชีวภาพ "Zhu อธิบาย

ปริมาณคาร์บอนที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการกัดเซาะในภูเขาสูงยังทำให้ปริมาณออกซิเจนบนโลกเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 การปรากฏตัวของสิ่งมีชีวิตเช่นยูคาริโอตก็ใกล้เคียงกับการก่อตัวของนูน่าซุปเปอร์เมาเทน 

ยูคาริโอตมีส่วนทำให้เกิดพืชและสัตว์บนโลก การก่อตัวของ

Transgondwanan Supermountain ยังสอดคล้องกับเหตุการณ์สำคัญในวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลก

 มันคือการระเบิด Cambrian ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 530 - 541 ล้านปีก่อน

โดยมีสัตว์หลายกลุ่มปรากฏในบันทึกฟอสซิลในเวลานี้