WHO ยืนยัน ตลาดจตุจักรไม่ใช่ต้นตอโรคระบาดโควิด-19 ต้นกำเนิดไม่ได้มาจากไทย
เคลียร์ชัดๆ! องค์การอนามัยโลกยัน ตลาดจตุจักรไม่ใช่ต้นตอโรคระบาดโควิด-19 ย้ำยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าต้นกำเนิดของไวรัสอยู่ในประเทศไทย ให้สื่อต่างประเทศแก้ไขบทความแล้ว
ไม่เคยพูด! นักวิจัยองค์การอนามัยโลกยัน ไม่เคยระบุชื่อตลาดจตุจักร เป็นต้นตอแพร่เชื้อโควิด
ก่อนหน้านี้ที่สื่อในเดนมาร์ก มีชื่อว่า Politiken ได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่วิจัยรายหนึ่งของทีมวิจัยจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO สันนิษฐานว่าตลาดนัดจตุจักร ประเทศไทย มีโอกาสเป็นต้นตอการแพร่ระบาดโควิด 19 และแพร่ระบาดต่อไปยังอู่ฮั่นนั้น
ล่าสุด ศ.ดร.ธีอา ฟิชเชอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข การติดเชื้อ และโรคระบาด จากโรงพยาบาลนอร์ทซีแลนด์ เดนมาร์ก ที่ถูกพาดพิงในข่าวออกมาทวีตชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าตลาดใดเป็นต้นตอของโควิด-19 เพียงแต่บอกว่ามีโอกาสสูงที่จะเกิดการติดเชื้อข้ามสายพันธุ์จากสัตว์สู่สัตว์ หรือจากสัตว์สู่คนในตลาดประเภทดังกล่าว
องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ออกแถลงการณ์ ตอบโต้กับเนื้อหาข่าวสารที่มีการอ้างคำบิดเบือน ซึ่งขณะนี้บทความจากสื่อต่างประเทศดังกล่าวมีการแก้ไขเนื้อหาแล้ว โดยแถลงการณ์จากองค์การอนามัยโลก ระบุข้อความไว้ ดังนี้
องค์การอนามัยโลกได้รวบรวมคณะผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจการสืบหาต้นกำเนิดของไวรัสซึ่งก่อโรคโควิด 19 คณะผู้เชี่ยวชาญนี้ประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์อิสระ ซึ่งหนึ่งในนั้นได้ถูกสื่อยกคำพูดไปอ้างอิงอย่างไม่ถูกต้องโดยกล่าวว่าประเทศไทยเป็นต้นกำเนิดของไวรัส ขณะนี้ไม่มีหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่าต้นกำเนิดของไวรัสอยู่ในประเทศไทย และบทความที่มีข้อความบิดเบือนดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้ว
ล่าสุด คณะทำงานได้เสร็จสิ้นภารกิจในประเทศจีนและกำลังอยู่ในขั้นตอนการเขียนรายงาน โดยรายงานจะสรุปข้อค้นพบจากภารกิจครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงประเด็นการพูดคุยอภิปรายกับทางนักวิทยาศาสตร์จีน ภาพรวมของข้อค้นพบต่างๆ ได้มีการสื่อสารผ่านการแถลงข่าวแล้วในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนรายงานจะกล่าวถึงช่องว่างทางองค์ความรู้ที่ยังมีอยู่และขั้นตอนต่อไปที่ควรปฏิบัติ ซึ่งรวมถึงการศึกษาค้นคว้าที่ต้องทำในประเทศจีนและที่อื่นๆ ด้วย
รายงานฉบับนี้จะยังไม่มีข้อสรุปเรื่องต้นกำเนิดของไวรัสเนื่องจากยังคงต้องมีการศึกษาวิจัยและสืบสวนเชิงลึกอีกจนกว่าจะได้ข้อสรุป จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในการทำงานลักษณะนี้ การค้นหาต้นกำเนิดของไวรัสอาจใช้เวลาหลายเดือนหรือนานกว่านั้น







