ด่วน! ยืนยันแล้ว "สาวระยอง" ติดโควิด โผล่ "เชียงใหม่" พบติดจากเทรนเนอร์ฟิตเนส มีผู้สัมผัสรวม 127 คน
เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 27 ธันวาคม นายแพทย์ กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ล่าสุดพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 1 ราย เป็นหญิงอายุ 46 ปี ชาวจังหวัดระยอง หญิงรายนี้มีประวัติเสี่ยงสัมผัสกับเทรนเนอร์ที่ติดเชื้อโควิด-19 ในสถานที่ออกกำลังกายแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองระยอง หลังเดินทางไปออกกำลังกายเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม จากนั้นหญิงรายนี้ได้เดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมครอบครัวรวม 5 คน ประกอบด้วย สามี ลูก 2 คน และพี่เลี้ยง เพื่อเยี่ยมญาติ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม จากท่าอากาศยานอู่ตะเภา-ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม โดยเที่ยวบินของสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 101 เวลา 09.30-11.00 น. ที่นั่งในแถวที่ 22 โดยตลอดเวลาที่เดินทางหญิงรายนี้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
หลังเดินทางมาถึงแม่ของหญิงรายนี้ขับรถยนต์มารับที่สนามบินเชียงใหม่ ก่อนจะแวะกินอาหารเที่ยงที่ร้านบะหมี่เป็ดย่าง 30 นาที และแวะไปเยี่ยมพี่สาว ก่อนจะเดินทางเข้าบ้านพักส่วนตัวในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่
แต่หลังทราบข่าวว่าเทรนเนอร์ที่ตนเองไปออกกำลังกายติดเชื้อโควิด-19 และตนเองเริ่มมีอาการระคายคอ แต่การรับกลิ่นปกติ จึงเดินทางไปขอตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในเวลา 17.00 น. พร้อมแจ้งประวัติเสี่ยง กระทั่งผลออกมาเมื่อช่วง 12.00 น.วันนี้ ว่าเป็นบวกพบว่าติดเชื้อโควิด 19 จึงได้รับตัวจากโรงพยาบาลเอกชนไปรักษาตัวในห้องความดันลบที่โรงพยาบาลนครพิงค์ทันที
นพ.กิตติพันธุ์กล่าวต่อว่า หลังทราบข้อมูล ทีมสอบสวนโรคได้เร่งลงพื้นที่เพื่อสอบสวนโรคทันที พร้อมประสานนำกลุ่มเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำมาตรวจหาเชื้อ โดยพบผู้สัมผัสทั้งหมด 127 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 30 ราย เป็นคนในครอบครัวที่เดินทางมาพร้อมกัน 4 ราย ตรวจเชื้อแล้วมีผลเป็นลบ 3 ราย เหลือ 1 ราย คือพี่เลี้ยงจะประสานเข้าตรวจพรุ่งนี้ ส่วนกลุ่มอื่น ๆ คือผู้สัมผัสในยานพาหนะ หรือผู้โดยสารในเที่ยวบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 101 วันที่ 26 ธันวาคม จากอู่ตะเภา-สนามบินเชียงใหม่ เวลา 09.30-11.00 น. ประกอบด้วยผู้โดยสารใน 2 แถวหน้า และ 2 แถวหลัง และลูกเรือ จำนวน 25 ราย ซึ่งกลุ่มนี้ระยะเวลาที่เหมาะสมในการตรวจหาเชื้อประมาณ 4-5 วันหลังสัมผัส จึงนัดมาตรวจหาเชื้อในวันที่ 30 ธันวาคม โดยระยะนี้ให้ทั้งหมดกักตัวและสังเกตอาการตัวเอง รวมทั้งแม่ของผู้ป่วยที่จับรถไปรับก็จะนัดมาตรวจในวันที่ 30 ธันวาคมเช่นกัน
นอกจากนี้ ในกลุ่มเสี่ยงต่ำจำนวน 97 ราย ซึ่งเป็นผู้โดยสารในเที่ยวบินเดียวกันกับผู้ป่วย แม้จะมีความเสี่ยงน้อย เพราะผู้ป่วยยืนยันใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา แต่จะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดซ้ำอีกครั้ง พร้อมนัดหมายให้ทั้งหมดมาตรวจหาเชื้อในวันที่ 30 ธันวาคม และให้ทุกคนสังเกตอาการ หากเริ่มผิดปกติสามารถเข้ารับการตรวจได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง หรือติดต่อนัดหมายเพื่อรับการตรวจกับ สสจ.เชียงใหม่ ได้ที่หมายเลข 08-4805-2121 และ 08-4805-3131
สำหรับประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร 144 ราย ได้ตรวจไปแล้ว ทั้งหมดมีผลเป็นลบ ส่วนเคสของผู้ป่วยหญิงจังหวัดระยองรายนี้มั่นใจว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ เนื่องจากทีมสอบสวนโรคได้ลงพื้นที่ไปแล้ว ส่วนสถานที่สาธารณะและร้านอาหารที่หญิงรายนี้เดินทางไปก็ได้มีการทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ขอยืนยันว่า จังหวัดเชียงใหม่ยังไม่มีการสั่งปิดสถานที่ใด ๆ ส่วนการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ยังเป็นไปตามปกติ แต่คณะกรรมการโรคติดต่อฯจะมีมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น พร้อมเน้นย้ำให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และสแกนแอพพลิเคชั่นไทยชนะ
ล่าสุด ทางทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่สอบสวนโรค พบไทม์ไลน์ของผู้ป่วย ดังนี้
วันที่ 24 ธ.ค. 2563
- ได้เข้าใช้บริการในสถานที่ออกกำลังกายแห่งหนึ่ง ในจังหวัดระยอง และได้พูดคุยกับเทรนเนอร์ ซึ่งต่อมาเป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดระยอง
วันที่ 26 ธ.ค. 2563
- เวลา 09.35 – 11.00 น. เดินทางจากอู่ตะเภา มาจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยสายการบิน Thai Airasia (FD101 ที่นั่ง 22C) พร้อมสามี ลูก 2 คน และพี่เลี้ยง 1 คน มารดาไปรับจากสนามบิน แวะเยี่ยมครอบครัวน้องสาวก่อนเข้าไปที่บ้านพักส่วนตัวย่านสถานีรถไฟ
- เวลา 17.00 น. เข้าไปตรวจที่ รพ.เอกชน เนื่องจากทราบประวัติว่าเทรนเนอร์ตรวจพบเชื้อ ก่อนจะรับเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยใน เพื่อรอฟังผล
วันที่ 27 ธ.ค. 2563
- เวลา 12.00 น. ผลตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
- เวลา 14.00 น. ส่งต่อผู้ป่วยเพื่อรับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์
ผลการติดตามผู้สัมผัส ทั้งหมด จำนวน 127 ราย ได้แก่ ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 30 ราย (ผู้สัมผัสในครอบครัว 4 ราย , ผู้สัมผัสในยานพาหนะ 26 ราย) ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 97 ราย (ผู้สัมผัสในยานพาหนะ 86 ราย , บุคลากรทางการแพทย์ 11 ราย) ซึ่งได้ติดตามตัวและนัดเก็บสิ่งส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 (4-5 วันหลังที่สัมผัส) และได้กักกันตัวเพื่อสังเกตอาการสำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง จนครบ 14 วัน
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/Khaosueb/photos/a.137194966354521/4848520498555254/