หลังจากฆ่าปลา เพื่อมาประกอบอาหารเสร็จ เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้าน วอดทั้งหลัง
วันนี้เวลา 16.45 น. วันที่ 7 ตุลาคม 2563 ที่ตำบลก้านเหลือง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านหนองเหล็ก หมู่ที่ 9 ตำบลก้านเหลือ มีการแจ้งประสานไปที่ อบต.ก้านเหลือง และ อบต.ทุ่งไชย ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้นำรถดับเพลิงออกให้การช่วยเหลือทันที พร้อมได้รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
เมื่อเดินทางไปถึงพบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านไม้สองชั้นต่อปูนชั้นล่าง โดยต้นเพลิงกำลังลุกไหม้มาจากชั้นบนของตัวบ้าน จึงได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ชุดดับเพลิง ได้เร่งฉีดน้ำเข้าดับเพลิง แต่เนื่องจากบ้านเป็นบ้านไม้สภาพเก่าพอสมควร จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี สุดท้ายเพลิงได้ลุกไหม้วอนไปทั้งหลัง ทรัพย์สินต่าง ๆ เจ้าของบ้านไม่สามารถเอาออกมาได้เลยสักอย่าง มูลค่าค่าเสียหายนับล้านบาท ซึ่งบ้านดังกล่าวเป็นของ คุณยายวิญญา สิงห์แก้ว อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 56 บ้านหนองเหล็ก หมู่ที่ 9 ตำบลก้านเหลือง ขณะเกิดเหตุคุณยายกำลังหุงหาอาหารเย็น โดยมีสามี และหลานน้อยอยู่ที่ใต้ถุนบ้านกันหมด แต่เพลิงลุกไหม้มาจากด้านบนชั้นสอง
เมื่อเพลิงสงบลงโดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ใช้เวลาในการดับเพลิง ราว 1 ชั่วโมง ได้มีการสอบถามคุณยายวิญญา สิงห์แก้ว เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้เข้าครัว ทำการฆ่าปลา และกำลังจะทำกับข้าวเย็น อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงดังเปรี๊ยะๆ ดังมาจากด้านบนของบ้าน ตนก็เลยเดินออกมาที่ห้องใต้ถุนจากห้องครัวหลังบ้าน และมองขึ้นไปด้านบนชั้นสองของบ้าน พบเห็นเพลิงไฟกำลังไหม้ และลุกลามมาชั้นล่าง ตนตกใจมาก เรียกให้ทุกคน ทั้งลูกหลาน สามี ออกไปนอกบ้าน และร้องบอกเพื่อนบ้านว่าช่วยด้วย ๆ ไฟไหม้บ้าน
ขณะนั้นเองนึกขึ้นได้ว่า เอกสารโฉนดที่ดินของตน หลายฉบับอยู่ในบ้าน เงินสด สร้อยทอง อื่น ๆ อยู่ในบ้าน ตนจึงจะวิ่งเข้าไปเอาออกมา แต่เพื่อนบ้านเห็นว่าเพลิงลุกไหม้รุนแรงแล้ว จึงดึงร่างตนเอาไว้ ได้แต่นั่งมองร้องไห้ จนดับเพลิงมาช่วยฉีดน้ำดับเพลิงตนก็ได้แต่นั่งมองเฉยๆ ทำอะไรไม่ได้ ในชีวิตก็เพิ่งเจอ หมดตัวกันเลยคราวนี้ เงินทองก็ยิ่งไม่มี จะหาเงินที่ไหนมาสร้างบ้านใหม่อยู่กัน ซึ่งนายอำเภอก็ได้ช่วยปลอบขวัญ และให้กำลังใจ โดยแจ้งว่าจะได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และนายกเหล่ากาชาดได้ทราบ และหาทางช่วยเหลือต่อไป
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา ยังไงผู้อ่านก็ระมัดระวังฟืนไฟ หรือไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง หรืออะไรที่เป็นกิจวัตรประจำวันก็แล้วแต่ ก็ขอให้มีสติและระมัดระวังตัวเองกันตลอดเวลานะครับ