เปิดประวัติ นกสกู๊ต (NokScoot) จากวันแรก…ถึงวันสุดท้าย เรื่องราวมันเป็นยังไง
เพจเดี๋ยวสรุปให้ฟัง โพสต์ #ประวัติ นกสกู๊ต (NokScoot) จากวันแรก…ถึงวันสุดท้าย เรื่องราวมันเป็นยังไง #เดี๋ยวสรุปให้ฟัง
.
.
1) เมื่อเย็นวันนี้ (26 มิ.ย. 63) หลายคนคงเห็นข่าวการ “ประกาศปิดกิจการ” ของสายการบิน “NokScoot” กันแล้วใช่มั้ยครับ ในใจก็คงคิดว่า… แย่ละ! ตั๋วที่ยังไม่ได้ refund จะทำยังไง (ล้อเล่นนะครับ..แต่จริง…) หลายคนก็คงจะช็อคไปตามๆ กัน เพราะเมื่อวานนี้ (25 มิ.ย. 63) NokScoot พึ่งจะประกาศเลิกจ้างพนักงานกว่า 400 คนเนื่องจากแจ้งว่า “จะปิดกิจการชั่วคราว” แต่วันนี้ประกาศปิดจริง… เอาเป็นว่า เราไปย้อนดูประวัติธุรกิจก่อนจะกล่าวคำอำลาครั้งสุดท้ายแล้วกันครับ…
.
.
2) สายการบิน NokScoot เป็นการร่วมลงทุนหรือที่เรียกว่า Joint Venture (กิจการร่วมค้า) ระหว่าง 2 สายการบินยักษ์ใหญ่ของ 2 ประเทศ ได้แก่ “ประเทศไทย” และ “สิงคโปร์” ก่อตั้งขึ้นในปี 2014
.
.
3) ฝ่ายประเทศไทย ถือหุ้นอยู่ที่ 51% โดยสายการบิน low-cost ชื่อดังอย่าง “นกแอร์ (Nok Air)” ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี จึงทำให้รูปโลโก้ของสายการบินสกู๊ตนั้นก็เป็นรูป “นก” เช่นเดียวกันนกแอร์ เพื่อให้จำง่าย…หรือสับสน อันนี้ก็ไม่แน่ใจครับ 555 แต่ตอนเปิดตัวในปี 2557 ได้มีการทำวิดีโอสั้นๆ ที่แสดงโดย CEO ของทั้ง 2 สายการบิน (ในขณะนั้น) โดยมีใจความว่า “Nok Air บินใกล้ แต่ NokScoot บินไกล” (วิดีโอแปะอยู่ใน comment ครับ)
.
.
4) ฝ่ายสิงคโปร์ ถือหุ้นอยู่ที่ 49% โดยสายการบิน “สกู๊ต (Scoot)” ซึ่งเป็นสายการบิน low-cost เช่นเดียวกัน… ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่า Scoot นั้นเป็นบริษัทลูกของสายการบินสุดหรูอย่าง “สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airline)”
.
.
5) NokScoot เป็นสายการบินในกลุ่มพันธมิตร “Value Alliance” ซึ่งเป็นการรวมตัวของ 6 สายการบินราคาประหยัดในเอเชียแปซิฟิก โดย NokScoot มีฐานปฏิบัติการอยู่ที่สนามบินดอนเมือง และให้บริการเที่ยวบินระยะกลาง ถึง ระยะไกล (medium to long-haul) ในทั้งหมด 4 ประเทศ ได้แก่
1.จีน (ต้าเหลียน, นานกิง, ชิงเต่า, เซี่ยงไฮ้, เสิ่นหยาง, เทียนจิน)
2.ญี่ปุ่น (โตเกียว, โอซาก้า และซัปโปโร)
3.อินเดีย (เดลี)
4.ไต้หวัน (ไทเป)
.
.
6) สายการบิน NokScoot เรียกได้ว่าไม่ค่อยสู้ดีมาตั้งแต่เปิดกิจการ…เนื่องจากการแข่งขันอันดุเดือดระหว่างสายการบิน low-cost ด้วยกันเองที่มีเจ้าตลาดอย่าง “Air Asia” ผู้มีจำนวนเที่ยวและเส้นทางบินที่หลากหลายมากกว่า รวมถึงเส้นทางยอดฮิตอย่าง “สิงคโปร์” ก็ต้องแบ่งไปให้บริการโดยผู้ถือหุ้น “Scoot” เป็นผู้ดำเนินการ รวมถึงปัญหาธงแดงจาก ICAO ที่ทำให้การขยายเส้นทางบินนั้นหยุดชะงักไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน ปัญหาเหล่านี้รวมตัวกันยังไม่พอ ผสมกับ โควิด-19 ช่วงต้นปีมานี้ก็เป็นอันจบสิ้น…
.
.
7) หากย้อนดูงบกำไรขาดทุน เราจะพบว่า NokScoot ก็ขาดทุนมาตลอด (ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
ปี 2559 รายได้ 3,910 ล้านบาท ขาดทุน 612 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 5,650 ล้านบาท ขาดทุน 47 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 5,920 ล้านบาท ขาดทุน 1,528 ล้านบาท
.
.
8 ) แน่นอนว่า… NokScoot ไม่ใช่สายการบินเดียวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เรียกได้อุตสาหกรรมการบินนั้นได้รับผลกระทบกันตั้งแต่ผู้ผลิตเครื่องบิน ยันผู้ให้บริการ… โดยมีการประเมินว่าสายการบินทั้งโลกจะสูญเสียรายได้จากวิกฤตนี้รวมทั้งสิ้นกว่า “3.9 แสนล้านเหรียญสหรัฐ” หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 12 ล้านล้านบาท… และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของสายการบินที่ได้รับผลกระทบ…
- Avianca สายการบินเก่าแก่อันดับ 2 ของโลก ยื่นศาลล้มละลาย
- Thai Airways สายการบินแห่งชาติไทย ยื่นศาลล้มละลาย
- Air Canada เลิกจ้างพนักงานกว่า 60% หรือ 20,000 คน
- Norwegian Air เลิกจ้างพนักงานกว่า 90% หรือ 7,300 คน
- และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน…
.
.
#สรุปแล้ว วิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้เรียกว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมการบินก็คงได้ ก็หวังแต่เพียงว่า…ไวรัสนี้มันจะหมดไปและมีวัคซีนออกมาได้ในเร็ว เพื่อให้ทุกคนบนโลกสามารถเดินทางเชื่อมต่อกันได้อีกครั้ง…
เพจ เดี๋ยวสรุปให้ฟัง






















