เตือน คนเปิดพัดลมทั้งวันทั้งคืน ไฟอาจไหม้บ้านได้

เนื่องจากช่วงนี้กำลังมีการแพ่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ทำให้หลายคนต้องอยู่บ้าน เนื่องจากหลายบริษัทได้มีมาตรการ การทำงานที่บ้าน หลายคนที่อยู่บ้านก็คงต้องเปิดพัดลมช่วยให้อากาศเย็นขึ้นบ้างเนื่องจากประเทศไทยตอนนี้อาการร้อนมาก เราจึ่งของนำเรื่องราวจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก ท่านหนึ่งที่ได้เปิดพัดลมไว้ทำให้ไฟเกือบไหม้บ้านมาฝากกัน

ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งออกมาโพสต์รูปภาพ พร้อมระบุข้อความว่า ข้อความ สรุปว่ามีหลายๆคนมาให้ความรู้จากภาพพัดลมไหม้กรณีนี้ว่า พัดลมช็อตจากตรงปุ่มกด สาเหตุอาจมากจาก ขน ฝุ่น ฉี่ บลาๆๆ ซึ่งตัวนี้ก็ใช้มานานนนนนนนมากก็อาจเป็นได้ค่ะ

แก้ไขด้วยคนเลี้ยงหมาควรใช้พัดลมเพดานหรืออุตสาหกรรมปุ่มหลังเด้อจ้า  น้องทุกคนปลอดภัยจับอาบน้ำสะอาดทุกคนกินอิ่มนอนหลับดีจ้า ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ

       เห็นแต่เขาแชร์กัน ยังพูดเลยว่า #เราก็เปิดทั้งวันทั้งคืนไม่เห็นเป็นไรเลย แต่ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเกี่ยวไหมอะ แต่ยังไงก็คือความประมาทของตัวเองนี่แหละกลัวหมาร้อน ห้ามปิดพัดลม …. เกือบตี5สะดุ้งตื่นมางงๆทำไมห้องสว่างแปลกๆ (ห้องหมาอยู่ในห้องนอนอีกที ประตูกระจก) ไฟกลางห้องก็ช็อตปุบๆๆ วาบๆเป็นสีส้มไล่มาจากดวงหน้าห้องหมา เลยชะโงกไปดู เห็นแต่เปลวไฟกับควันคือมองไม่เห็นไรแล้ว เหมือนในหนังมากกก ร้องเรียกพี่กอฟว่าไฟไหม้!!!!!!!!!!

วิ่งไปเปิดประตูมองไม่เห็นอะไรเลย นึกว่าหมาตายหมดแล้วด้วย ปากพูดแต่ หมา!! หมา!! น้ำ!! น้ำ!!!! (คืออารมณ์พึ่งตื่นตกใจคิดแต่หมายังอยู่ไหม มองไม่เห็นอะไรเพราะควันท่วมมิดเห็นแต่เปลวไฟที่ไหม้ เลยคิดได้แต่น้ำโชคดีเหมือนกันค่ะที่ไฟไม่ดูด) พอหมาเริ่มวิ่งออกมา เลยวิ่งไปรองน้ำใส่กาละมัง สาดไปก็ไม่ดับ ด้วยความรีบอะน้ำไม่พอ รอบ2ก็ไม่ดับ พี่กอฟก็หาหมาไป โดนขังกรง2ตัว ออกมาสภาพดำมากกกกกกกกก ชุลมุนมาก รอบ3กลั้นใจรอ น้ำเต็มเอามาราด ดับ นับหมาครบ11ตัว จบ

เขม่าเต็มบ้าน !!!! หน้าตาดำทั้งหมาทั้งคน ไม่รู้ว่าถ้าหมาไม่รอดจะทำไง น่ากลัวมากกกกก หมาก็เงียบมากน่าจะร้องไม่ออกเพราะเข้าไปคนก็หายใจแทบไม่ออกเหมือนกัน งืออ

    ปล. ใช้พัดลม3ตัวคนละมุม คือบ้ามากค่ะห่วงมาก กลัวหมาร้อนมาก กลางวันเปิดแอร์ก็ยังไม่ปิดพัดลม เพราะคิดว่าไม่เป็นไร บทเรียนโหดมากๆรอบนี้ 

ปล.2 และก็มิได้โทษพัดลมแต่อย่างใดจ้า ตามด้านบนที่ว่าความประมาทของคนเองนี่แหละจ้า บ่ต้องถามยี่ห้อเน้อ

    ทำให้มีชาวเน็ตนับพัน ออกมากดไลค์ กดแชร์ และแสดงความคิดเห็นจำนวนไม่น้อยถึงเรื่องรยาวที่ผู้ใช้เฟสบุ๊ค Ranida Phuetkamonthon ได้โพสต์ไปเพื่อเตือนใจเป็นอุทาหรณ์