ขอแสดงความเสียใจ ไฟไหม้บ้าน คลอกหญิงชราวัย 79 สุดสงสาร ยายเดินไม่ได้ คงหนีไม่ทัน

ในเฟซบุ๊ก Chonyuen Wisutthipat โพสต์ข้อความระบุว่า ไฟไหม้บ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ คลอกหญิงชราวัย 79 ปี ตายคากองเพลิง เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 06 มกราคม 2563 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรบ้านแพ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้บ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.โรงเข้ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร จึงได้แจ้งให้ ร.ต.อ.ญาณพล ทับทอง รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านแพ้ว , แพทย์หญิงภิเษกพร เกษมอัศวชานนท์ แพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน), เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยบริการประชาชนบ้านไร่ และ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบ พร้อมกันนี้ยังได้ประสานรถน้ำดับเพลิงจากทางเทศบาลตำบลหลักห้า 1 คัน และรถน้ำดับเพลิงของทางจังหวัดสมุทรสงคราม 2 คันเพราะเป็นพื้นที่ติดต่อที่ใกล้กับที่เกิดเหตุมากที่สุดเข้าช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังมีนายประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอบ้านแพ้ว เข้าติดตามเหตุที่เกิดขึ้นด้วย โดยบ้านที่เกิดไฟไหม้เป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้เลขที่ 50/4 หมู่ที่ 2 ต.โรงเข้ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็ควบคุมให้เพลิงสงบลงได้ แต่ไฟก็ได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงและรวดเร็วจนวอดหมดทั้งหลัง โดยเฉพาะด้านบนที่เป็นไม้นั้น เหลือเพียงแค่เสาดำเป็นตอตะโกเท่านั้น นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบศพของหญิงชรา เจ้าของบ้านถูกไฟไหม้คลอกทั้งตัวจนไหม้เกรียม โดยศพกองอยู่ที่พื้นชั้นล่างเพราะตกลงมาจากชั้นบน ทราบชื่อคือ นางสาวสาลี่ ศรีโหร อายุ 79 ปี
จากการสอบถามนางสาวนิยม ทิพย์วรรณ อายุ 48 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 44/3 หมู่ที่ 2 ต.โรงเข้ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เป็นหลานสาวของผู้เสียชีวิตเล่าว่า ตนนอนพักอาศัยอยู่คนละบ้านกับยายสาลี่ โดยยายจะพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้เพียงลำพัง แต่มีตนเป็นคนคอยดูแลหาอาหารมาให้เพราะยายเดินไม่ได้เนื่องจากแก่ชรามากแล้ว ได้แต่ใช้วิธีการค่อยๆถัดร่างกายไปเรื่อยๆ เวลาจะไปเข้าห้องน้ำ หรือไปไหนมาไหนบริเวณชั้นบนของบ้านเท่านั้น ยายไม่สามารถลงมาข้างล่างได้ ซึ่งบ้านหลังนี้ได้ปลูกสร้างมานาน 10 กว่าปีแล้ว ไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านมีเพียงแค่หลอดไฟแบบหลอดตะเกียบที่ชั้นบน 1 ดวง กับ ไฟห้องน้ำอีก 1 ดวงเท่านั้น ส่วนปลั๊กไฟอื่นๆ แม้จะมีติดตั้งไว้แต่ก็ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งในช่วงเกิดเหตุนั้นขณะที่ตนนอนหลับอยู่บ้านหลังข้างใน ก็มีเพื่อนบ้านโทรมาบอกว่าไฟไหม้บ้านยาย พอตนชะโงกหน้าออกมาดูก็เห็นแสงเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงจากชั้นบนแล้ว จึงได้รีบวิ่งมาแล้วใช้สายยางฉีดน้ำฉีดเข้าไปแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เนื่องจากเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงที่ชั้นบนของบ้านซึ่งเป็นไม้ ขณะที่สาเหตุนั้นก็ไม่มีรู้ว่าเกิดจากอะไร เพราะในบ้านนอกจากจะไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรแม้แต่พัดลมก็ไม่มีเพราะยายไม่ชอบใช้แล้วนั้น ก็ติดตั้งระบบตัดไฟอัตโนมัติไว้ด้วย


ส่วนทางด้านของนางเล็ก อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านฯ ที่เห็นเหตุการณ์คนแรก ก็เล่าว่า ตนเองมีบ้านอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยตอนนั้นตนเองลุกขึ้นมาทำธุระส่วนตัว จึงเห็นแสงเพลิงลุกไหม้ก็รีบให้สามีโทรไปบอกหลานของผู้เสียชีวิตทันที แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะเพลิงได้โหมไหม้อย่างรุนแรง เพียงชั่วครู่ก็ไหม้ชั้นบนจนหมดเกลี้ยง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการ จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่ชัดเจน ส่วนศพผู้เสียชีวิตนั้นได้ส่งไปให้สถาบันนิติเวชทำการชันสูตรอีกครั้ง ก่อนที่จะให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

ทำไมคนไทยไม่เก่งภาษาอังกฤษ แม้จะใช้เวลาเรียนมานานหลายปี
ชาวบ้านงงงวย หลังเห็นลิงนับร้อย แห่วิ่งลงจากภูเขา
ด่วน! เลขเด็ด "แม่น้ำหนึ่ง" งวด 1 ธ.ค. 68: ชุดตัวแรง โค้งสุดท้ายที่คอหวยเฝ้ารอ
ม้าสีหมอก 1 ธ.ค. 68: เจาะเลขเด็ดรับ "หวยสัญจร" กำแพงเพชร ลุ้นโชคส่งท้ายปี
จีนทวงหนี้แสนกว่าล้าน "ฮุนเซน" ถังแตก ไม่มีเงินจ่ายหนี้ ต้องกู้ IMF ซ้ำจีนไม่ให้กู้เพิ่มแล้ว
ภาพช่างหลวงเผย “สเปกคนงาม” ของคนไทยเมื่อ 150 ปีก่อน
เกาหลีใต้พบผู้เสียชีวิตจากความโดดเดี่ยว สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,924 ราย
สัตว์ที่เคยถูกพบในประเทศไทย เป็นแห่งสุดท้ายบนพื้นโลก
ชูวิทย์ โพสต์รัฐบาลไม่ผิดพลาด ไม่ล่าช้า ไม่ติดขัด
แม่น้ำที่ไหลผ่านประเทศต่างๆ จำนวนมากที่สุดในโลก
วัยรุ่นยื่นฟ้องออสเตรเลีย ท้าทายกฎหมาย ที่ห้ามเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปีเล่น SNS
จอย บียอนด์ สุดช็อก! ตื่นเช้ามาพบคุณพ่อเสียชีวิตไม่ทันตั้งตัว !!
จีนทวงหนี้แสนกว่าล้าน "ฮุนเซน" ถังแตก ไม่มีเงินจ่ายหนี้ ต้องกู้ IMF ซ้ำจีนไม่ให้กู้เพิ่มแล้ว
ทำไมคนไทยไม่เก่งภาษาอังกฤษ แม้จะใช้เวลาเรียนมานานหลายปี
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธนาคาร ทั้งหญิงและชายใช้น้ำฉีดไล่คนไร้บ้าน
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด อินโดโดนแผ่นไหวๆซ้ำ หลังน้ำท่วมสูง 6.3 แมกนิจูด
หนุ่มญี่ปุ่นโดนตำรวจจับ หลังฉี่ใส่ขวดชา แล้วเอาไปตั้งไว้ในร้านขายของ
เกาหลีใต้พบผู้เสียชีวิตจากความโดดเดี่ยว สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,924 ราย