เปลี่ยนมือให้เอกชนบริหาร ความหวังใหม่ผู้ใช้บริการแอร์พอร์ตลิงก์

รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เริ่มมีตัวตนขึ้นมาแล้วหลังจากการลงนามในสัญญาก่อสร้างระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และ บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด ในนามกลุ่มซีพีเอช ซึ่งดูเหมือนว่างานแรกที่ทาง ร.ฟ.ท.อยากทำคือ ให้กลุ่มซีพีรับแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ ไปดูแลเร็ว ๆ เพราะต้องการให้เอกชนมาเพิ่มขบวนรถ และเตรียมโยกย้ายกำลังพลไปบริหารจัดการรถไฟฟ้าสายสีแดง

ทั้งคุณวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. และ คุณสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ผู้บริหารการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ออกมาประสานเสียงกันว่า ร.ฟ.ท.พร้อมโอนแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ ให้เอกชนรับไปดำเนินการ โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่า แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ต้องไม่หยุดวิ่ง ซึ่งภายหลังการลงนามในสัญญาจะเร่งตรวจสอบทรัพย์สินของแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ ว่ามีส่วนใดที่ต้องให้เอกชนไปบริหารบ้าง

เอกชนต้องจ่ายเงินหมื่นกว่าล้านบาท เพื่อฟื้นฟูแอร์พอร์ตลิงค์ และจัดซื้อรถใหม่อีก 5 ขบวน

คุณวรวุฒิ บอกว่า เอกชนจะต้องแจ้งแผนการชำระเงินและการบริหารจัดการให้ชัดเจน เพื่อทางร.ฟ.ท. จะได้วางแผนโอนกรรมสิทธิ์และโอนย้ายบุคลากร โดยตัวเลขที่ต้องชำระให้ครบภายใน 2 ปี เป็นเงินจำนวน 10,671,090,000 บาท

ด้านคุณสุเทพ บอกว่า อยากจะหารือกับกลุ่มซีพีให้รับโอนโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ ให้เร็วขึ้นจากกำหนดเดิมที่ต้องใช้เวลาถึง 2 ปี มาเป็นช่วงกลางปี 2563 แทน เนื่องจากทาง รฟฟท.ต้องไปบริหารการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่จะเปิดให้บริการในเดือนมกราคม 2564 แต่จะต้องไปทดลองเดินรถเสมือนจริงก่อนในเดือน ก.ค. – ส.ค. 2563

นอกจากนี้ยังต้องคุยกับกลุ่มซีพีเอชประเด็นการจัดหาขบวนรถเพิ่มเติมให้เพียงพอกับความต้องการของผู้โดยสาร ซึ่งรฟฟท.ได้ประเมินว่า ความต้องการใช้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ที่แท้จริงอยู่ที่ 1.2 แสนคนต่อวัน จึงมีความจำเป็นต้องจัดหาขบวนรถเพิ่มอีก 4-5 ขบวน เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 3 หมื่นคนต่อวัน

สำหรับทรัพย์สินของแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ ที่จะส่งมอบให้กับกลุ่มซีพี ประกอบด้วย

1. ขบวนรถไฟฟ้า 9 ขบวน
2. ระบบและอุปกรณ์รถไฟฟ้า
3. ตัวสถานีรถไฟฟ้ารวมถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในอาคาร ที่เอกชนจะได้สิทธิในการบริหารจัดการด้วย

ขึ้นชื่อเรื่องบริการแย่

ปัจจุบัน แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ หรือที่มักเรียกกันว่า แอร์พอร์ตลิงก์ มีผู้โดยสารหนาแน่นวันละเกือบ 9 หมื่นคน โดยที่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความสามารถในการรองรับผู้โดยสารอยู่ที่วันละ 8.4 หมื่นคนเท่านั้น สาเหตุจากขบวนรถมีน้อย และไม่มีการจัดหาเพิ่มเติม โดยทางรฟฟท.อ้างว่า ชะลอแผนเพิ่มขบวนรถไว้ เนื่องจากจะต้องโอนทรัพย์สินให้ผู้ชนะประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน แล้วจึงจะมอบหมายให้เอกชนเป็นผู้จัดหาขบวนรถใหม่ให้เพียงพอกับความต้องการ

ที่ผ่านมาแอร์พอร์ตลิงก์จึงขึ้นชื่อในด้านบริการติดลบ ผู้ใช้บริการร้องเรียนแทบไม่เว้นวัน ทั้งในเรื่องรถมาช้าทำให้ผู้โดยสารตกค้างจำนวนมาก แถมยังต้องลุ้นว่าแต่ละวันรถจะเสียกลางทางอีกหรือไม่ เพราะสภาพตัวรถเก่าและทรุดโทรม

ดังนั้น หากเอกชนเข้ามารับแอร์พอร์ตลิงก์ไปดำเนินการ ในช่วงแรกหรือช่วงเปลี่ยนผ่านคงจะต้องทำใจให้หนักแน่น เตรียมรับสภาพปัญหาอย่างสาหัส ทั้งกับระบบบริหารจัดการที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวระหว่างเอกชนกับราชการ รวมถึงรถพัง รถเสีย ระบบรวน การจัดหาอุปกรณ์ การซ่อมบำรุง รวมถึงการทุจริต!!

แม้ว่าจะไม่ยอมเพิ่มขบวนรถ แต่ล่าสุดทางแอร์พอร์ตลิงก์ก็แก้ปัญหาด้วยการลดที่นั่งจาก 150 เหลือ 84 ที่นั่งต่อขบวน โดยติดตั้งพนักพักสะโพก ทดแทนเก้าอี้ พร้อมเปลี่ยนเก้าอี้ที่เหลืออยู่บางส่วนให้เป็นเก้าอี้แบบพับได้ ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารเพิ่มได้ 8,200 – 8,800 คนต่อวัน

กระนั้นก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ทันที เพราะต้องรอใช้งบประมาณปี 2563 ซึ่งกว่ากฎหมายจะผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ ยังต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างอีก 4 เดือน จึงจะเริ่มปรับปรุงรถไฟฟ้าขบวนแรกได้ ปาเข้าไปเดือนกุมภาพันธ์ 2563 โดยต้องใช้เวลาปรับปรุงขบวนละ 2 สัปดาห์ และแล้วเสร็จครบทั้ง 9 ขบวนในมิถุนายน 2563 (ซึ่งก็จะเป็นเวลาไล่เรี่ยกับที่ทาง รฟฟท.เรียกร้องให้ทางกลุ่มซีพีรีบเข้ามาดำเนินงานต่อนั่นเอง - ถ้ากลุ่มซีพียอมจ่ายเงินค่ารับมอบ)

สรุปว่างานนี้ปัญหาบานแน่นอน ผู้ดำเนินงานเดิมจึงอยากรีบปล่อยงานไปเร็ว ๆ แต่ก็น่าจะถูกใจผู้ใช้บริการ เพราะก่อนหน้านี้มีการเรีกร้องกันมากว่าอยากให้ร.ฟ.ท.เปลี่ยนมือให้เอกชนเข้ามาบริการจัดการจะมีความคล่องตัวมากกว่า

ตอนนี้ก็ได้แต่เฝ้ารอกลุ่มซีพีว่าจะตัดสินใจเข้ามารับช่วงเร็วขึ้นตามคำเรียกร้องของทั้งฝ่ายรัฐและประชาชนผู้ใช้บริการหรือไม่ ซึ่งก็อยากเห็นแผนงานการบริหารจัดการของภาคเอกชน (ที่ปกติย่อมดีกว่าภาครัฐ) ออกมาเร็ว ๆ เหมือนกัน ว่าจะเป็นความหวังใหม่ให้ประชาชนผู้ใช้บริการแอร์พอร์ตลิงก์ได้มากน้อยแค่ไหน

--------------