เปิดความจริงจากหน้าประวัติศาสตร์ที่ไม่มีสอนกันในห้องเรียน
ประวัติศาสตร์ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่มีการบรรจุอยู่ในหลักสูตรการเรียนรู้ของโรงเรียนหลายๆ แห่ง แต่อย่างไรก็ตามขึ้นชื่อว่า 'อดีต' มันย่อมมีบางแง่มุมที่ไม่ได้มีการนำมาเปิดเผยกันอย่างชัดเจนและนี่ก็คือเรื่องราวน่ารู้เหล่านั้นที่ผมอยากจะนำมาเสนอไว้ในบทความนี้
1.การระเบิดเหนือชั้นบรรยากาศ

หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าช่วงปี 1962 ทางประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการแอบทดลองระเบิดนิวเคลียเหนือชั้นบรรยากาศโลกในชื่อโปรเจค 'สตาฟิช พราม' ซึ่งจากการระเบิดครั้งนั้นมันส่งผลให้พื้นที่บริเวณมลรัฐอลาสก้าเกิดแสงสว่างตอนกลางคืนขึ้นราวกับช่วงกลางวันแถมแรงระเบิดยังส่งผลให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างทั่วทั้งรัฐ
2.การละเล่นคนแคระ

ช่วงยุคสมัยของพระเจ้าปีเตอร์มหาราชการเล่นโยนคนแคระถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับเชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงสมัยนั้นว่ากันว่าซาร์ปีเตอร์ทรงโปรดเรื่องนี้เป็นอย่างมากจนมักจะจัดให้มีการนำเอาคนแคระไปใส่ไว้ในเค้กเพื่อโผล่มาสร้างเสียงหัวเราะเสมอ
3.เกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบินลำอื่นหลังเหตุการณ์ 911

เหตุการณ์วันที่ 11 กันยาถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์สำคัญที่พาโลกก้าวเข้าสู่ยุคสมัยของการก่อการร้ายอย่างสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตามหลังจากที่เครื่องบินของผู้ก่อการร้ายพุ่งเข้าชนตึกเวิร์ลเทรด ทางการสหรัฐได้ออกคำสั่งห้ามเครื่องบินพานิชย์ทุกลำบินผ่านน่านฟ้าประเทศอเมริกา (ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย) ส่งผลให้บรรดาเครื่องบินลำอื่นๆ ต้องมุ่งหน้าไปลงที่ประเทศแคนาดาแทนและนั่นก็ส่งผลให้ประชากรของประเทศนี้เพิ่มจำนวนขึ้นอยู่ช่วงหนึ่งเลยทีเดียว
4.ยามหัศจรรย์

ฝิ่นถูกนำมาใช้เป็นยามหัศจรรย์โดยแพทย์ช่วงศตวรรษที่ 19 เพื่อรักษาโรคต่างๆ ที่ผู้คนกำลังเผชิญอยู่ในยุคนั้น อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการใช้งานกันอยู่ช่วงหนึ่งมันส่งผลให้ผู้คนพากันติดฝิ่นจนทางการหลายๆ ประเทศต้องประกาศห้ามใช้ไปในที่สุด
5.จิตวิทยาสงคราม

จักรพรรดิบาซิลที่ 2 แห่งอาณาจักรไบเซนไทน์เคยสั่งการให้ทหารในกองทัพจับศัตรูมาควักลูกตาโดยเหลือตาเพียงหนึ่งข้างให้กับนายกองก่อนที่จะส่งกลับไปให้จักรพรรดิ์แห่งบัลแกเรียดูเป็นขวัญตา จากสิ่งที่เกิดขึ้นมันส่งผลให้กษัตริย์พระองค์นี้เกิดอาการช็อคจนเสียชีวิตไปเลยทีเดียว
6.ปัญหาของคนผิวสี

มีบันทึกทางประวัติศาสตร์เล่าขานกันว่าช่วงศตวรรษที่ 19 มีครอบครัวที่มีผิวสีฟ้าเนื่องจากความผิดปกติทางพันธุกรรมอาศัยอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามด้วยความแปลกประหลาดดังกล่าวนั้นมันส่งผลให้พวกเขาถูกขับไล่ออกไปจากสังคมและกลายเป็นเรื่องเล่ามาจนกระทั่งทุกวันนี้
7.เทศกาลอิสระ

ที่กรุงโรมนั้นมีบันทึกเอาไว้ว่าทุกๆ ปีจะมีเทศกาล 'Saturnalia' เกิดขึ้นโดยงานดังกล่าวนั้นมีขึ้นเพื่อกระชับมิตรภาพของผู้คนบนโลกซึ่งทาสที่อยู่ในงานนั้นจะได้รับอิสระเป็นช่วงเวลาสั้นๆ (ประมาณ 1วัน) ว่ากันว่าบางครั้งนายทาสก็จะเสิร์ฟไวให้กับทาสประหนึ่งผู้ที่มีฐานะเท่าเทียมกัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : factsc
คุณหมอออกมาแฉ เทศบาลบอกเอาอยู่ แต่คนทั้งเมืองไม่ทันได้เก็บของ นํ้าก็มาแล้ว
เปิดรายชื่อ ส.ส.ทั้ง 9 คนจังหวัดสงขลาหลังประชาชน ถามหาว่ามีใครบ้าง
ชาวบ้านงงงวย หลังเห็นลิงนับร้อย แห่วิ่งลงจากภูเขา
สาวจีนเตะนักดับเพลิงญี่ปุ่นร่วงบันได ขณะพยายามช่วยเธอจากเหตุไฟไหม้
วิธีสังเกตภาพ AI ที่บางคนยังไม่รู้
“เคล็ดลับไล่หนูง่ายๆ ด้วยดอกไม้ 4 ชนิด”
หดหู่พบขาข้างนึง ของผู้ประสบภัย ที่เสียชีวิต ลอยมากับน้ำ บริเวณถนนราษฏร์ซอย 3 หาดใหญ่
เขมรไม่ส่งนักกีฬามา "ซีเกมส์" ที่ไทย..อ้างเสียศักดิ์ศรีและไม่มีความปลอดภัย
แมทภีรนีย์ ฟาดผู้นำประเทศ เวลาคับขันประชาชนช่วยกันเองตลอดเชื่อไม่เหนือบากกว่าแรง
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือ ผัดหอยลายบางทีหอยลายบางตัวก็มีโคลน ควรมีถ้วยแยกแกะเนื้อหอยลายต่างหากเอาไว้เสมอ ขอบคุณมากครับ
โฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ยัน แจ้งเตือนล่วงหน้าแล้ว แต่ประชาชนกลับ “ไม่ยอมอพยพ ถามกลับว่า “แบบนี้เรียกว่ารัฐบาลช้าหรือไม่”
รักตัวเองแบบสุขภาพดี ตื่นมามีชีวิตชีวา ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อารมณ์แจ่มใส แค่ 6 ข้อนี้ ชีวิตเปลี่ยน ✨
รักตัวเองแบบสุขภาพดี ตื่นมามีชีวิตชีวา ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อารมณ์แจ่มใส แค่ 6 ข้อนี้ ชีวิตเปลี่ยน ✨
"บิ๊กโจ๊ก" ซัด รบ.ล้มเหลว ชี้ "อนุทิน" ไม่กล้าบัญชาการน้ำท่วมเองเพราะกลัวซวย ลั่นลงพื้นที่ผัดข้าว "ไม่มีประโยชน์"
เว็บเช็กรายชื่อผู้อพยพน้ำท่วมหาดใหญ่ รอดปลอดภัยแล้ว
สาวจีนเตะนักดับเพลิงญี่ปุ่นร่วงบันได ขณะพยายามช่วยเธอจากเหตุไฟไหม้
"บิ๊กโจ๊ก" ซัด รบ.ล้มเหลว ชี้ "อนุทิน" ไม่กล้าบัญชาการน้ำท่วมเองเพราะกลัวซวย ลั่นลงพื้นที่ผัดข้าว "ไม่มีประโยชน์"
เว็บเช็กรายชื่อผู้อพยพน้ำท่วมหาดใหญ่ รอดปลอดภัยแล้ว
เพจดังเผยภาพมุมสูง หาดใหญ่ จ.สงขลา แม้น้ำจะลงไปบ้าง แต่หลายพื้นที่ยังหนัก
โฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ยัน แจ้งเตือนล่วงหน้าแล้ว แต่ประชาชนกลับ “ไม่ยอมอพยพ ถามกลับว่า “แบบนี้เรียกว่ารัฐบาลช้าหรือไม่”