หลวงพี่ได้ยินหมาเห่าหอน เห็นเงาคนตะคุ่มๆ นึกว่าวัยรุ่นแสบแกล้งทำเป็นผีหลอกพระ รีบส่องไฟฉายเดินเข้าไปหา ช็อกเลย

เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ พรมแสง รอง สว (สอบสวน) สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร เปิดเผยว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตในป่า ใกล้กับวัดป่าบ้านหนองหอย ต.เชียงเครือ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม แพทย์ รพ.สกลนคร และกู้ภัยเมตตาธรรม ที่เกิดเหตุพบพระลูกวัดป่าฯ ผู้ซึ่งพบศพเป็นคนแรก ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ในอาการหน้าซีดเผือด ก่อนจะนำทางเข้าไปในป่าลึก 200 เมตร

กระทั่งพบศพชายนิรนาม อายุประมาณ 35 ปี ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นใคร มาจากไหน สภาพสวมเสื้อกีฬาสีกรมท่า กางเกงยีน นอนหงายในพงหญ้ารก โดยที่ลำคอมีเชือกรัดจนเกิดบาดแผล ร่างกายเริ่มอืดมีหนอนขึ้น ใกล้กันพบมีดพร้าตกหล่นอยู่ ขณะที่บนต้นไม้ที่อยู่ติดกันก็มีเชือกผูกอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ด้วย แต่เชือกขาดแล้ว

พระลูกวัดป่าฯ เผยว่า เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาขณะทำธุระอยู่ในกุฏิ ได้ยินเสียงสุนัขวัดเห่าเสียงดังมาจากในป่าหลังวัด สลับกับหอนเป็นช่วงๆ ซึ่งเห่าหอนอยู่นานจึงตัดสินใจถือไฟฉายเดินเข้าไปดู ตอนแรกยังไม่เห็นสิ่งผิดปกติ แต่พอสักพักแสงไฟสาดส่องไปเห็นร่างคนไหวๆซ่อนตัวในพุ่มไม้ มั่นใจว่าต้องเป็นวัยรุ่นคึกคะนองที่แกล้งทำเป็นผีให้สุนัขเห่าหอนเพื่อจะหลอกพระเณรในวัด ด้วยความไม่พอใจเลยรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปหาหมายจะต่อว่า กลับต้องช็อกสุดขีดเมื่อภาพตรงหน้าไม่ใช่วัยรุ่นแกล้งเป็นผี แต่เป็นร่างของศพเน่า อาตมายืนตัวแข็งครู่หนึ่งก็ตั้งสติได้จึงรีบกลับออกมาโทรฯแจ้งตำรวจ

ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ กล่าวว่า น่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน และไม่พบร่องรอบการต่อสู้ พบเพียงรอยเลือดตกอยู่รอบๆที่เกิดเหตุ ลำคอผู้ตายมีเชือก คล้องคออยู่โดยเชือกผูกกับต้นไม้ แต่ไม่สูงมากนัก น่าจะเป็นลักษณะนั่งคุกเข่าผูกคอ พอเชือกขาดศพจึงทิ้งตัวหงายหลังจมอยู่ในพุ่มไม้ คาดว่าเป็นการคิดสั้น อย่างไรก็ตามต้องรอส่งชันสูตรศพอีกครั้ง.