ปฏิเสธไม่ออก วงจรปิดมัดแน่น 2 หนุ่มคอตกมอบตัว ในคลิปไม่พฤติกรรมไม่ธรรมดา ก้มหน้ารับกรรม

จากกรณี แก๊งงานบวชบุกเข้าทำลายการสอบ PAT5 ความถนัดทางวิชาชีพครู ที่โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ หลังจากทางโรงเรียนไปขอร้องให้ลดเสียงเพลงงานบวชในวัดข้างโรงเรียน ซึ่งแก๊งดังกล่าวไม่พอใจพร้อมระบุว่าจ้างมาแพง และบุกเข้าทำร้ายร่างกาย ครู นักเรียนที่กำลังสอบ จนกลายเป็นประเด็นวิจารณ์ทั่วโลกออนไลน์

ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ก็ทำการควบคุมตัวแก๊งดังกล่าวไปแล้ว 24 คน โดยมรการแจ้งความเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหา ฐานข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการ ความผิดต่อเสรีภาพ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธ ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป, ข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และห้ามมิให้ผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในบริเวณวัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 2 ราย คือ นายพีรพล เอมชาวนา หรือ “นะ” อายุ 28 ปี จับกุมได้เมื่อวานนี้ หลังหนีไปกบดานที่จังหวัดอ่างทอง และนายสิทธิชัย จรสุข หรือ “ต่าย” อายุ 37 ปี ซึ่งได้ขอเข้ามามอบตัวเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ส่วนอีกราย คือ นายพีรยุทธ เสริฐพูล หรือ “บอล” อายุ 24 ยังคงหลบหนีอยู่ในขณะนี้

พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการสอบปากคำ ผู้ต้องหายอมรับว่า ได้เข้าไปก่อเหตุจริง ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐานให้ครบถ้วน เพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป โดยยังเหลือผู้ต้องหาอีก 1 คน ที่หลบหนี ส่วนประเด็นที่ทางเรือนจำตรวจพบสารเสพติดในร่างกายนั้น ทางรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เบื้องต้นพบประวัติผู้ต้องหาหลายราย มีประวัติยาเสพยาเสพติด จำหน่ายยาเสพติด และการกระทำความผิดอื่นๆด้วย แต่ที่ทางตำรวจและทางเรือนจำตรวจพบไม่เหมือนกัน เพราะใช้สารตรวจคนละอย่างกัน

ขณะที่นายสิทธิชัย จรสุข หนึ่งในผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวในวันนี้ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุยอมรับว่าได้ดื่มเหล้าจริง และช่วงที่ทางวัดสั่งให้งดเสียง ก็ได้เข้าไปที่โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์กับเพื่อนๆจริงแต่ไม่ได้เข้าไปก่อเหตุหรือทำร้ายใคร เพราะตอนเหตุการณ์เริ่มชุลมุนแล้ว ได้พยายามจะเข้าไปห้ามเท่านั้น พร้อมยืนยันไม่ได้ทำลายข้าวของในโรงเรียนด้วย ส่วนหากย้อนเหตุการณ์กลับไปได้ คงจะไม่เดินเข้าไปในโรงเรียนในวันนั้น

อย่างก็ไรก็ตาม เบื้องต้นทางตำรวจ จะทำการสอบปากคำเพิ่มเติม และคาดว่าในวันนี้จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไปฝากขังผลัดแรกที่ศาลอาญาธนบุรีต่อไป