ขายของออนไลน์ รวยตรงไหน?

เป็นที่วิจารณ์กันมากในสังคม จนเกิดความขัดแย้งได้เหมือนกันค่ะ กับ

" ธุรกิจ ขายของออนไลน์ "

ที่ใคร หลายๆคนคิดว่าทำแล้วรวย!!!

 ทีมข่าวตะลึงเฝ้าสังเกตุการณ์มานานมาก กับ ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

 วันนี้ ทีมข่าวตะลึง ขอนำความจริงมาพูดค่ะ (ต้องขออนุญาตเจ้าของภาพด้วย)

 "ขายของออนไลน์ กำลังเป็นธุรกิจที่นิยมมากขึ้นในตอนนี้ ถูกมั้ยคะ?

 ทีนี้ ขอยกตัวอย่าง มุมมอง2มุม คะ

มุมที่ 1. คือ มุมมองของคนที่ไม่ได้ทำธุรกิจขายของออนไลน์ 

 ซึ่งแน่นนอนว่า ส่วนใหญ่ตีความว่า 

ผู้ที่ทำธุรกิจขายของออนไลน์ มีรายได้มากกว่า ตัวเอง แถมยังไม่ต้องเสียภาษี

จนรู้สึกเหมือน เสียเปรียบ รึ อิจฉา ?

อันนี้ ก็แล้วแต่ร้อยพ่อ พันธุ์แม่ จะคิดคะ

 

 มุมที่ 2. คือผู้ค้าขายของออนไลน์ 

ซึ่ง ทำจนเป็นรายได้หลัก เลยก็ว่าได้ 

มีรายได้เข้ามาตลอดไม่ขาดสาย และยังทำการค้าที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย

และเร็ว 

 

 เอาล่ะค่ะ!!! เข้าสู่ การวินิจฉัย.

คือ เรื่อง ธุรกิจขายของออนไลน์ 

ก็หมายถึง อาชีพค้าขาย ที่ใช้ อินเตอร์เน็ตเป็นหลักในการทำการค้า 

ทุกช่องทาง ตามแต่พ่อค้าแม่ค้า จะพอใจ

 ซึ่ง ทางทีมข่าวตะลึง ได้พยายามติดตามมานาน ทั้ง2มุมมอง ข้างต้น

 จึงพบว่า...???

 การทำธุรกิจขายของออนไลน์ 

จริงๆแล้ว มีรายได้เข้ามาตลอด ซึ่งสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้เลยทีเดียว

 แต่คุณคะ รู้หรือไม่ว่า?.

รายได้จากการทำธุรกิจขายของออนไลน์

มีความเสี่ยงสูงมากกว่า

พนักงานเงินเดือนคะ เพราะอะไร?

 ก็เพราะไม่สามารถการันตีรายได้

ที่ไม่แน่นอนได้เลย น่ะสิคะ

 การค้าขายของออนไลน์ จะต้องเสี่ยงกับ

สภาวะเศรษฐกิจ ที่ ผัวผัน ขึ้น-ลง

2. เสี่ยงต่อการขาดทุน ย่อยยับ ซึ่งหลายรายเจอมาแล้วกับตัว 

3.เสี่ยงต่อการ ต่อสู้กับการแข่งขันทางการค้า ที่มี จำนวนคู่แข่งเพิ่มขึ้นทุกวัน จนไม่รู้ว่า สูญเสียทุนไปเท่าไหร่ ต่อการโปรโมทเพื่อแข่งขัน

4.การทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น

การทำบัตรเครดิต การกู้ การผ่อน

การขอสินเชื่อ ซื้อบ้าน ออกรถ

และอื่นๆ ถือว่า ยังเป็น

ประเภทธุรกิจ ที่ทำอะไรพวกนี้ ยากมาก

เพราะธนาคาร ถือว่า ความมั่นคงน้อยสุด

 

5.การมีโอกาสได้ทำประกัน บางกรณียังยาก 

 

6.เป็นประเภทธุรกิจที่ต้องเสี่ยงต่อการเป็นหนี้มากที่สุด เมื่อช่วงขายแย่มาถึง

 การลงทุนทางธุรกิจขายของออนไลน์

ในแง่มูลค่าของการลงทุน เพื่อแลกกับการที่จะได้มาซึ่งผลกำไร

ที่ไม่รู้ว่าจะคุ้มหรือไม่?

 เริ่มจาก ต้อง ลงทุนโปรโมทโฆษณา ใช้เงินหลักพันถึงหลักหมื่นกว่าบาท ก็มี

 การลงทุนหาของมาขาย หรือ เพื่อทำของขาย ก็ต้องใช้เงินทุนไม่น้อย นะจ๊ะ

 ต่อมาคือ การรักษาเรทติ้งของแบรนด์ 

หรือ

ร้านตัวเอง ก็จะต้องใช้เงินหล่อเลี้ยงไปตลอดเพื่อการโปรโมท 

 มิหน่ำซ้ำยังต้อง มีค่าใช้จ่ายในการ

รับผิดชอบในกรณีที่สินค้ามีปัญหา เสียหาย

ระหว่างทำการส่งมอบให้ลูกค้า ถ้าหาก ไปรษณีย์ไม่รับผิดชอบค่าเสียหาย อะนะ

 

 สุดท้าย ต้องมีเงินทุน

ในการยกระดับ พัฒนาสินค้า พัฒนาธุรกิจ

ด้วยเหมือนกัน 

 

 ฉะนั้น ขอบอกเลยว่า แค่ แง่การลงทุน

ก็หนาว หนักหน่วงเหมือนกันคะ ยิ่งถ้าเจอสภาวะเศรษฐกิจแย่ๆ เครียดกันระนาว หวิดขายทรัพย์สิน ขายบ้าน ขายรถ

เลยทีเดียวเชียว!!!

 

 สรุปแล้ว คุณลองเปรียบเทียบ เล่นๆก็ได้ค่ะ

ถ้า การทำธุรกิจขายของออนไลน์ ที่คุณๆคิดว่า รวยกว่าเราอีก 

ลองคิดแบบนี้คะว่า เขาอาจไม่ได้ขายของออนไลน์อย่างเดียว 

 ที่เขามี ดูดี ดูรวย เขาก็ทำงานเงินเดือน เป็นพนักงานประจำเหมือนกับคุณแหละคะ

แต่ที่ เขาดูมีอะไรๆมาก ก็เพราะเขา ขยัน

ไม่ยอมแพ้ หมั่นเพียร พยายาม หาเงิน

หาทำรายได้เสริม หลายๆทาง

ยังไงล่ะคะ

 ทีนี้ พอจะทราบรึยังว่า 

 " การเป็นพนักงานเงินเดือน อย่างคุณๆ"

" ดิฉันว่า..น่ารวยกว่าอีกค่ะ

เพราะพวกคุณมีรายได้ประจำ

รู้รายได้ที่ต้องได้ทุกเดือน"

"และมีความมั่นคง ได้เปรียบ

ในการบริหารเงิน รวมถึง จะทำธุรกรรมธนาคาร ก็ง่าย มีสิทธิ์มากกว่า"

 ประกงประกัน ที่มีโอกาสมากกว่า 

แถมยังมี โบนัส มีเบี้ยขยัน มีโอที

มีค่าคอมฯ มีเงินบำเหน็จ บำนาญ 

มีความมั่งคงมากกว่า พูดง่ายๆ

ถ้าคุณรู้จักการใช้เงิน.

 ทางทีมข่าวตะลึงก็ขอ ให้ลองทบทวน

" คิดผิด คิดใหม่ ไม่มีอะไรเสียหาย " 

 สวัสดีค่ะ ชอบก็แชร์ นะคะ