
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 61 เพจ “WATCHDOG THAILAND” โพสต์คลิปสุดหดหู่ พระเณรกำลังช่วยกันอุ้มสุนัข ส่งให้กรมปศุสัตว์ทั้งน้ำตา พร้อมกับระบุข้อความว่า “สังเวช! คนห่มเหลืองประกาศ “วัดนี้ของกู กูสั่งให้เอาหมาออกให้หมด”บางกล่ำ สงขลา ดูเหมือนเรื่องดีๆของโพสต์ก่อน จะไม่มีใครสนใจ งั้นมาดูโพสต์ใหม่นี้กันนะครับ เพิ่งจะชื่นชม สัญญาข้อตกลงการทำงานร่วมกันระหว่างอาสาบ้านหมายิ้มหาดใหญ่และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์สงขลาไปแหมบๆ โดยเฉพาะ ข้อสาม…จับเฉพาะหมาที่จับไม่ได้ และไม่มีคนดูแล ! แต่เรื่องเศร้า สลดใจ ที่พิสูจน์ว่า มือที่หยิบยื่นความทุกข์ทรมานให้สัตว์ด้อยโอกาส ต้องสิ้นอิสรภาพ เกิดจากคนในสังคมของเรานี่เอง โดยเฉพาะความคิดและจิตใจของคนที่ใช้ผ้าเหลืองห่มคลุมร่างกาย !

จากข้อสงสัยต่อเนื่องเรื่องผลของวัคซีนและการล้มตายอันแปลกประหลาดของโรคที่คล้ายลำไส้อักเสบของหมาแมวหลังการฉีดวัคซีน นำพาสู่กระบวนการสืบสวนข้อมูลของการทุจริตวัคซีนในหน่วยงานราชการ ก่อให้เกิดการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุด้วยการเข้าควบคุมโรคด้วยการกักกันโรค ที่ WDT The Hope Thailand และองค์กรสวัสดิภาพสัตว์ต่างๆ ร่วมกันต่อสู้ตลอดมา ตั้งแต่ระงับการประชาคมด้วยการทำลายทันทีโดยอ้างความยินยอมของเจ้าของ จนถึงการวิงวอนขอร้องให้เกิดการกักกันโรคอย่างถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย

จึงเดินสายดำเนินคดีกับปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย และนครศรีธรรมราช
จนถึงการเจรจาล่าสุด…สัญญาความร่วมมือกับสงขลา แต่เหตุการณ์เข้าร่วมงานและปฎิบัติตามสัญญาความร่วมมือระหว่างอาสาบ้านหมายิ้มหาดใหญ่กับปศุสัตว์จังหวัดสงขลาในการเข้าควบคุมโรคที่จุดเกิดโรค วัดเนินพิชัย อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา กลับเป็นที่น่าผิดหวัง หดหู่ และเปิดเผยให้รู้ว่า ปัญหาที่สำคัญที่สุด ในการจัดการควบคุมโรค เกิดจากจิตใจที่คับแคบ เห็นแก่ตัวของคนในชุมชนพื้นที่ โดยเฉพาะเมื่อพื้นที่นั้นเป็นวัด ! ที่ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่เผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าและควรจะเป็นดินแดนแห่งเมตตาธรรม…

อาสาบ้านหมายิ้ม หาดใหญ่ ระดมกำลังเข้าชี้แจงชุมชนในพื้นที่ก่อนหน้าและขอความร่วมมือในการเข้ารับผิดชอบน้องหมาในพื้นที่และหมาในวัดที่มี ชาวบ้าน พระสงฆ์และเณรคอยดูแลให้อาหาร เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกจับไปกักกันโรคในด่านกักสัตว์สตูล แต่มือที่ผลักไสโดยอ้างอำนาจของการเป็นเจ้าของสถานที่ของผู้มีตำแหน่งหัวโขน ว่า “เจ้าอาวาส” กลับกลายเป็นมือที่ผลักภาระขับไสไล่ส่งหมาน้อยในวัดให้รัฐนำไปดำเนินการกักกันโรคเอง ภาพและน้ำตาของความเสียใจอย่างสุดซึ้งของอาสาประชาชน ที่พยายามอย่างยิ่งที่จะช่วยเหลือให้หมาน้อยได้รับการกักกันโรคภายในพื้นที่

โดยไม่ต้องถูกจับส่งไปกักกันโรคเป็นเวลาถึงหกเดือน ที่ด่านกักสัตว์สตูลจึงเกิดขึ้นอย่างสลดหดหู่ ไม่นับการไม่มีความพร้อมของด่านกักสัตว์สตูลที่ถูกนำมาอ้างอิงว่าจะมีการแยกพื้นที่กักกันโรคอย่างชัดเจน หมาที่ถูกจับจากรัตภูมิ ในวันแรก 18 ชีวิต ถูกเพิ่มเติมด้วย หมาที่ถูกจับจากสถาบันชื่อดังของจังหวัด และถูกเพิ่มเข้าไปอีกจากหมาวัดเนินพิชัย บางกล่ำ ปนเปกันไปหมดแล้ว ไม่นับวันนี้ ที่จะมีการจับจากรัตภูมิอีกครั้ง ซึ่งไม่รู้ว่า จะมีใครอีกสักกี่คนที่จะผลักไสชีวิตเล็กๆให้พ้นภาระอีกมากแค่ไหน !

ขอบคุณปศุสัตว์จังหวัดสงขลา และปศุสัตว์อำเภอบางกล่ำ ที่อนุญาตให้อาสาประชาชน เข้าช่วยเหลือนำหมาแม่ลูกอ่อนพร้อมลูกน้อย หมาเด็ก และหมาป่วย นำส่งรักษาที่ รพส.สุรศักดิ์ และยินยอมให้อยู่ในการดูแลของอาสาบ้านหมายิ้มหาดใหญ่ สงขลา ตามสัญญาข้อตกลง ขอบคุณ นายสัตวแพทย์ อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายสัตวแพทย์ ดร.บุรินทร์ สรสิทธิสุขสกุล ผอ.กองสารวัตรกักกัน กรมปศุสัตว์ นายกิตติกร เจนไพบูลย์ ปศุสัตว์จังหวัดสงขลา อาสาบ้านหมายิ้มหาดใหญ่ อาสาประชาชนชาวสงขลา The Hope Thailand มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย”




















>>ชมคลิป<<

















