คุณลุงชาวจีนขับรถแท็กซี่(ผ่านแอพ) กว่า 3 ปี เพื่อหวังว่าสักวัน ผู้โดยสารจะเป็นลูกสาวที่หายตัวไปกว่า 24ปี และสุดท้ายความพยายามก็เป็นผล"

ทางตำรวจจีนแจ้งว่า หลังจากที่คุณลุงได้ตามหาลูกสาวผ่านการขับรถแท็กซี่ บอกกล่าวกับผู้โดยสารทุกคน จนเป็นข่าวดังในจีนเมื่อปีที่แล้ว ได้มีสาวชาวจีนได้ติดต่อมาทางตำรวจ โดยเห็นเรื่องราวผ่านทาง WeChat และผลพิสูจน์DNA ก็ออกมาแล้วในวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมาว่า เป็นลูกสาวที่หายไปจริงๆ โดยทั้งคู่จะได้พบหน้ากันในวันที่ 3 เมษายนนี้ ตามกำหนดการที่ลูกสาวจะบินไปยังเมืองเฉิงตู เพื่อหาคุณลุงและครอบครัว

"หวังหมิงชิง" ชายชาวจีน ชาวเมืองเฉิงตู อาชีพคนขับรถแท็กซี่ผ่านแอพตีตี Didi (คล้ายๆ Uber บ้านเรา) กลายมาเป็นคนดังในโซเชียลจีน เมื่อเรื่องราวของเขาถูกเปิดเผยว่า สาเหตุที่เขามาขับรถแท็กซี่ ตั้งแต่ปี 2015 เพราะต้องการตามหาลูกสาวที่ถูกลักพาตัวไปตั้งแต่ 24 ปีก่อน ขณะที่ลูกสาวอายุเพียง 3 ขวบ โดยตอนนั้นเขากับภรรยากำลังยุ่งกับการขายผลไม้ พอรู้ตัวอีกที ลูกสาวก็ถูกคนอุ้มหายไปแล้ว

หวังหมิงซิงเป็นข่าวดังเมื่อปีที่แล้ว โดยให้สัมภาษณ์ว่า

"ทุกครั้งที่มีผู้โดยสารขึ้นมาบนรถของเขา เขาจะยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งที่มีข้อมูลเกี่ยวกับลูกสาวของเขา พร้อมเล่าเรื่องราวให้ฟัง หวังว่าสักวันหนึ่งจะพบเบาะแสเกี่ยวกับลูกสาวของเขา โดยตั้งแต่วันแรกที่เขาเริ่มอาชีพขับรถแท็กซี่ จนถึง ณ ปัจจุบัน เขารับผู้โดยสารทั้งหมด 4,933 ครั้ง นั่นหมายความว่า เขาได้เล่าเรื่องราวลูกสาวต่อผู้โดยสารทั้งหมด 4,933 ครั้งเช่นกัน ซึ่งยังไม่มีวี่แววที่จะพบลูกสาวของเขา แต่เขาก็หวังว่าทุกคนจะช่วยส่งต่อเรื่องราวของลูกสาวเขา เพื่อจะได้มีเบาะแสและความหวังมากขึ้น

เรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตผม คงเป็นวันที่ลูกสาวผมขึ้นมานั่งบนรถผม และมีคำหนึ่งที่ผมรอคอยมานานกว่า 23 ปี นั่นคือคำว่า พ่อ ..ดังขึ้นมาในรถคันนี้"

โดยในการออกสื่อเมื่อครั้งนั้น เขายังกล่าวต่อว่า หากวันหนึ่งเขาได้เจอลูกสาว เขาจะบอกกับเธอว่า "พ่อขอโทษที่พ่อไมาได้ทำหน้าที่พ่ออย่างเต็มที่เหมือนคนอื่น"

ทั้งนี้ ทางสื่อออนไลน์จีน TheCover (http://www.thecover.cn/news/676587) ระบุว่า "ทางลูกสาวที่หายตัวไปกว่า 24ปี เผย ได้มีคนนำเธอไปเลี้ยงดู โดยเธอโตมากับครอบครัวนั้น ที่อยู่ห่างจากบ้านของพ่อแม่ที่แท้จริงของเธอเพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ไม่เคยได้เจอกัน แม้จะมีการตามหาเธอมาตลอดตั้งแต่หายตัวไป" (มีเพียงสื่อนี้ที่ระบุประเด็นที่ลูกสาวเผยข้อเท็จจริงว่าหายไปอยู่ไหนมา ดังนั้น ต้องรอติดตามข่าวเพ่ิมเติมที่น่าจะชัดเจนกว่านี้ในประเด็นนี้ครับ)

อ้ายจงต้องขอแสดงความดีใจกับคุณลุงท่านนี้และครอบครัว ที่ในที่สุดความหวังที่รอคอยมานานกว่า 24 ปี ก็เป็นจริงขึ้นมา

อ้ายจงเล่าเรื่องจาก People's Daily