กองทัพภาคที่ 2 แจงข่าวพลทหารสะโพกหัก เพราะกระดูกไม่แข็งแรง ปัดถูกทำร้าย

โคราช-พันเอกณัฐ ศรีอินทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี พลทหารสรรเพชร คงโนนกอก อายุ 23 ปี ที่เข้ารักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ด้วยอาการบาดเจ็บกระดูกสะโพกหัก ระหว่างเข้ารับการฝึกเป็นพลทหารสังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 3 ค่ายสุรนารีว่า เรื่องที่เกิดขึ้นหน่วยทหารต้นสังกัดของพลทหารสรรเพชร และแพทย์โรงพยาบาลค่ายสุรนารี ได้ร่วมประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับคุณพ่อ คุณแม่ และญาติของพลทหารสรรเพชรแล้ว โดยผลการหักของกระดูก ไม่ได้เกิดจากการถูกทำร้ายร่างกาย

แต่เป็นผลจากการฝึกทำให้กระดูกหักจากภายในจนกระดูกร้าว และนำไปสู่การแตกหักของกระดูกในที่สุด ทั้งนี้พลทหารสรรเพชรมีประวัติการเจ็บป่วย และพบค่าระดับโปรแตสเซียม และโซเดียมร่างกายต่ำกว่าเกณฑ์ หรือมีลักษณะกระดูกที่ไม่แข็งแรง ซึ่งอาการบาดเจ็บจะหายเป็นปกติภายใน 3-6 เดือน พลทหารสรรเพชรสามารถใช้สิทธิ์การรักษาของโรงพยาบาลค่ายสุรนารีได้ เบื้องต้นทางหน่วยทหารต้นสังกัดได้สั่งดำเนินการลงโทษครูนายสิบที่ควบคุมการฝึก ด้วยการพ้นจากหน้าที่ครูนายสิบ พร้อมกับสั่งขัง และงดบำเหน็จ

ขณะที่ทางญาติของครอบครัวพลทหารสรรเพชรเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยอมรับในสิ่งที่ทางต้นสังกัดดำเนินการ สำหรับเหตุการณ์บาดเจ็บของพลทหารสรรเพชรดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่พลทหารสรรเพชรไปร่วมกิจกรรมทำความสะอาดกับเพื่อนๆ พลทหาร แล้วเกิดมีอาการบาดเจ็บฉับพลันที่บริเวณสะโพก ทางหน่วยทหารต้นสังกัดจึงรีบพาพลทหารสรรเพชรไปพบแพทย์ ซึ่งทางแพทย์ตรวจอาการพบว่ามีกระดูกสะโพกหัก แพทย์ได้สอบถามอาการเบื้องต้น ซึ่งพลทหารสรรเพชรบอกกับแพทย์ว่า เคยวิ่งสะดุดหกล้มมาเมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ผลการตรวจพบมีอาการบวมที่สะโพก เมื่อขยับแล้วรู้สึกปวด แต่ไม่มีร่องรอยฟกช้ำ และบาดแผลใดๆ ที่มีลักษณะถูกกระทบจากภายนอก ซึ่งทางแพทย์โรงพยาบาลค่ายสุรนารีมีความเห็นรักษาด้วยการผ่าตัดใส่เหล็ก ส่วนเรื่องครูฝึกมีถูกเนื้อต้องตัวพลทหารสรรเสริญ ในช่วงระหว่างการฝึกด้วยหรือไม่นั้น เบื้องต้นรทราบว่าครูฝึกได้สัมผัสร่างกายด้วยการใช้ลำตัว และขา เบียดดัน เพื่อให้การจัดท่าในการยืนด้วยท่าตรงเป็นไปตามแบบระเบียบการฝึก แต่ไม่ใช่การสัมผัสในลักษณะของการทำร้ายร่างกายเพื่อให้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้เพื่อความชัดเจน ทางหน่วยทหารต้นสังกัดได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว