Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageราคาทองคำ
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

Trepanation เจาะกะโหลกเพื่อเพิ่มความนึกคิด??

โพสท์โดย berybad

Trepanation เจาะเพื่อเพิ่มความนึกคิด??

การผ่าตัดเพื่อรักษาโรคนี้ เรียกว่า การรักษาทางศัลยกรรม ความรู้ทางศัลยกรรมเรียกว่า วิชาศัลยศาสตร์ วันนี้จะนำวิธีการศัลยศาสตร์ รักษาโรคชนิดหนึ่งมานำเสนอ ซึ่งวิธีนี้เป็นการรักษาเมื่อนานมาแล้ว ไม่ใช้นานธรรมดา แต่นานถึงหลายพันปี และวิธีการรักษาก็โหดด้วย แต่น่าเหลือเชื่อวิธีการนี้ปัจจุบันยังอุตส่าห์นำมาใช้กับแพทย์สมัยอีก

วิธีการนี้เรียกว่า เทรพเพนเนชั่น (Trepanation)

เทรพเพนเนชั่นเป็นวิธีการรักษาโดยการเจาะกะโหลกเป็นรูกลม โดยใช้เครื่องมือเจาะที่มีความแม่นยำสูงทึ่เรียกว่าค็อตแมน เครเนี่ยล เพอร์ฟอร์เรเตอร์(Codman Cranial Perfator) ซึ่งเครื่องมือไฮเทคนี้จะปิดรูกะโหลก โดยอัตโนมัติหลังจากที่ทำการเจาะเข้าไปเพื่อทำการรักษาแล้ว

ความจริงวิธีการเจาะกะโหลกแบบนี้ มีมาตั้งนานแล้ว ทั้งในยุโรปเอเชียและชาวอินเดียนแดง ในยุคหินใหม่ เมื่อ 7,000 ปีที่แล้วมีหลักฐานพบการใช้เครื่องมือโบราณเพื่อเจาะกะโหลกศรีษะทั้งสองข้างให้เป็นรูซึ่งเรียกกระบวนการนี้ว่า trepanation

หลักฐานยืนยันจากการขุดพบโครงกระดูกว่า มีการผ่าตัดกะโหลกศีรษะที่เรียกว่าการเจาะกะโหลก ซึ่งกระทำโดยการเจาะรูเข้าไปในกระดูกหุ้มสมอง การศึกษายังพบอีกว่าผู้ป่วยบางคนสามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายปีหลังจากการเจาะกะโหลก

สำหรับในประเทศไทยเท่าที่มีการศึกษาโครงกระดูกหลายแห่ง เช่น การศึกษาของศาสตราจารย์นายแพทย์สุด แสงวิเชียร
พบว่า ที่บ้านเก่า จังหวัดกาญจนบุรี พบร่องรอยของกระโหลกที่มีการถูกเจาะ (Trepanation) โรคกระโหลกหนาที่เกิด
จากคนเป็นโรคธาลาสเสเมีย (Thalassemia)

สำหรับการเจาะกะโหลกนั้นในสมัยก่อนมีวัตถุประสงค์แตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องถิ่น เช่น จุดประสงค์เพื่อการรักษาชีวิต ชาวอินเดียนแดงเมื่อกว่า 3000 ปี มาแล้ว มีร่องรอยของการเจาะกะโหลก สันนิษฐานว่าเพื่อรักษาโรคปวดหัว ลมชัก หรือเสียสติในสมัยนั้นมีความเชื่อว่าการทำเช่นนี้จะสามารถรักษาอาการปวดหัวและความผิดปกติประเภทต่างๆ นอกจากนั้น การเจาะกะโหลกบางครั้งอาจกระทำด้วยเหตุผลทางความเชื่อและศาสนา เนื่องจากเชื่อว่ารูที่กะโหลกนี้จะเป็นช่องทางปลดปล่อยวิญญาณร้ายออกจากร่างกายผู้ป่วยด้วย

ตัวอย่างการเจาะกะโหลกในสมัยปัจจุบันก็เช่น เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 52 นายแพทย์เดวิด ไทแนน และนายแพทย์ร็อบ คาร์สัน
แพทย์ประจำโรงพยาบาลในเมืองแมรีเบอโรห์ เมืองเล็กๆ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเมลเบิร์น เล็กๆ ได้ตัดสินใจ
ใช้สว่านบ้านเจาะกะโหลกศีรษะเด็กชายเด็กชายนิค วัย 13 ขวบ ที่ประสบอุบัติเหตุตกจักรยานเพื่อนำเลือดคั่งในสมอง
ออกจนสามารถช่วยชีวิตหนูน้อยเอาไว้ได้

ข่าวระบุว่า ก่อนหน้านั้น วันศุกร์ เด็กชายนิค ขี่จักรยานและเกิดอุบัติเหตุหัวกระแทกพื้นคอนกรีต แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือน
ไม่เป็นอะไรแต่กลับมีอาการเลือดออกในสมอง โดยนางคาเรน ภรรยาของเขา ตัดสินใจพาลูกไปโรงพยาบาลหลังจากพบ
ก้อนด้านหลังใบหูของลู

หลังจากนั้นอาการของเด็กชายก็แย่ลงเรื่อยๆ เริ่มหมดสติบ่อยครั้งจนถึงขั้นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทำให้แพทย์ 2 คน
ตัดสินใจเปลี่ยนห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเป็นห้องผ่าตัด โดยนายแพทย์ไทแนนกล่าวว่าหากไม่ทำอะไรเพื่อลดแรงดัน
ในสมองแล้วเด็กชายนิคจะต้องเสียชีวิตแน่ๆ แต่แผนกศัลยกรรมของโรงพยาบาลไม่มีสว่านที่มีกำลังพอที่จะเจาะกะโหลกเด็กชาย พวกเขาจึงไปเอาสว่านจากแผนกซ่อมบำรุงมาใช้แทน แล้วทำการผ่าตัดโดยรับฟังคำแนะนำจากศัลยแพทย์ด้านระบบประสาทในสมองที่เมลเบิร์นทางโทรศัพท์ไปด้วย

"มันน่ากลัวมาก เพราะคุณจะเอาแต่กังวลว่าตัวเองกดสว่านแรงไปหรือเปล่า แต่เมื่อเลือดทะลักออกมาหลังจากที่คุณ
เจาะกะโหลกเข้าไปได้แล้ว เราทั้งคู่ก็ตระหนักว่าเราตัดสินใจถูกแล้ว" นายแพทย์ไทแนนกล่าว

หลังจากที่ต่อท่อเพื่อนำเลือดออกมาจากสมองแล้ว เด็กชายนิคก็ถูกนำตัวขึ้นเครื่องไปรักษาต่อที่เมิลเบิร์นแล้วก็ฟื้นตัว
อย่างรวดเร็ว สามารถออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดครบ 13 ปีของหนูน้อยพอดี

แต่นั้นคือการรักษา แต่คุณเคยเห็นคนเจาะกะโหลกเล่นๆ ไหมล่ะ?

แต่มีคนกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าการเจาะกะโหลกจะเป็นการทำให้ปริมาณเลือดไหลเวียนเข้าสู่สมองเพิ่มมากขึ้นและทำให้มีสติและนึกคิดเพิ่มขึ้นหลายเปอร์เซ็นต์ พวกเขาอธิบายตามหลักการแพทย์ว่า การเจาะกะโหลกศีรษะนั้นมีส่วนทำให้สามารถลดความเครียด และทำให้เส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงสมองเดินสะดวกยิ่งขึ้น มีผลทำให้ปริมาณออกซิเจนและกลูโคสวิ่งเข้าไปพื้นที่สมองมากขึ้น ทำให้ผู้ที่ได้รับการเจาะสมองนั้นมีความสดชื่นและเป็นสุขตามไปด้วย โดยไม่มีอาการทางประสาทแต่อย่างใด

ชายคนหนึ่งชื่อเล่นว่า “โจ” อดีตนักเรียนอีตัน(โรงเรียนกินนอนชื่อดังของอังกฤษ) ไม่รู้อะไรที่นึกสนุกขึ้นมา เมื่อเขาเห็นอุปกรณ์เจาะกะโหลกชื่อ เทรเพน(Trepan) เป็นเครื่องเจาะกะโหลกที่รูปร่างเหมาะที่จุกขวดไวน์มีขายตามร้านขายอุปกรณ์การแพทย์

โดยชิ้นส่วนหลักของเครื่องเจาะนี้จะมีลักษณะเป็นเดือยโลหะแหลมคมโดยมีวงแหวนที่เป็นฟันเลื่อยล้อมรอบอยู่ เมื่อเวลาจะใช้งานก็แทงเจาะเดือยแหลม(ที่มีฟันเลื่อยวงแหวน)นี้เข้าไปที่กะโหลก พร้อมกันนั้นต้องจับให้มั่นด้วย

ขึ้นชื่อว่าหัวของมนุษย์แล้วถือได้ว่าเป็นอวัยวะที่บอบบางที่สุดและรับรู้ความรู้สุดได้ดีสุด การเจาะหรือขุดผ่านกระดูกกะโหลก
เข้าไปโดยไม่ทำให้เนื้อเยื่อสมองได้รับความกระทบสะเทือนนั้นหรือได้รับความอันตรายนั้นถือได้ว่าเป็นความระมัดระวังอย่างสูงยิ่งเมื่อดันเดือยแหลมลึกเข้าไปจนส่วนที่ฟันเลื่อยนั้นแตะที่กระดูกกะโหลก ส่วนที่เป็นวงเลื่อยจะเกาะติดเนื้อกะโหลกและทำให้สามารถดึงแผ่นวงกะโหลกศีรษะออกมาได้ ทำให้เห็นเนื้อสมองเต้นตุบๆ อยู่ภายในอย่างน่าสยอง

ในคราวที่โจทำการเจาะกะโหลกด้วยตนเองนั้น เขาถือเข็มฉีดยาและยาสลบอยู่ในมือด้วย แต่เขาไม่มีแรงพอในการกดเดือยแหลมเข้ากะโหลกตนเอง เขาเลยต้องมีผู้ช่วยและก็พบว่าการเจาะกะโหลกของโจนั้นประสบความล้มเหลว เลือดไหลจากรูกะโหลกมากมายพลุ่งพล่านไปทั่วบริเวณ โจสลบคาที่ต้องส่งเข้าโรงพยาบาลโดยด่วน

โจปลอดภัยในเวลาต่อมา แต่ดูเหมือนโจจะไม่สนการรอดตายนี้นัก ในเวลาต่อมาเขาก็เริ่มพยายามเจาะกะโหลกตัวเองอีกครั้ง

“มันเหมือนมีเสียงอะไรบางอย่างที่เร่งเร้าให้ผมเจาะกะโหลกตัวเอง ผมจึงดึงเครื่องมือเจาะออกมา และเริ่มต้นเล่นงานหัวกะโหลกของผมตามต้องการ คราวนี้ผมรู้สึกเหมือนมีฟองอากาศในสมองพากันเต้นอยู่ตุบตับในยามที่กะโหลกโดนกดดันเรื่อยๆ”

“แต่จะว่าไปแล้วการเจาะครั้งที่สองแม้จะไม่เป็นไปตามที่ต้องการ แต่ปลายเครื่องเจาะก็ทะลวงลึกจากปากรูกะโหลกเข้าไปตั้งหนึ่งนิ้ว และเท่านั้นก็มากพอที่จะทำให้ทะลวงลึกจากปากรูกะโหลกเข้าไปตั้งหนึ่งนิ้ว และเท่านั้นก็มากพอที่จะทำให้เลือดทะลักออกมา และกระเซ็นไปเปื้อนเปรอะกระจกเงาที่ผมเตรียมไว้ส่องการปฏิบัติการของตนเองจนทำให้ผมตะลึงไปเหมือนกัน ผมเห็นรูลึกที่มีเลือดพุ่งพล่านออกมาราวกับน้ำพุตลอดเวลา”

โจพูดถึงความจริงที่น่าทึ่งราวกับว่านี้เป็นเรื่องธรรมดาเรื่องหนึ่ง

แต่แล้วการเจาะกะโหลกครั้งที่สองของโจไม่ประสพความสำเร็จมากนัก เพราะเครื่องเจาะไม่ตรงตำแหน่งที่ต้องการ รูที่เจาะได้จึงเล็กเกินไป

“การเจาะที่ไม่เหมาะสมครั้งนั้นทำให้ผมลังเลใจที่จะดำเนินการเจาะครั้งต่อไป ผมกลัวว่ามันจะเป็นการทำลายเนื้อเยื่อสมอง บอกตามตรงถ้าตอนนี้ผมมีเครื่องเจาะกระโหลกไฟฟ้าละก็งานเจาะจะง่ายขึ้นเยอะเลย”

ในปี 2000 มีข่าวว่ามีชาวอเมริกันทำแบบเดียวกับโจ ราว 12 คน โดยการไปผ่าเจาะกะโหลกในเม็กซิโก พวกเขายินยอม
จ่ายการเจาะกะโหลกที่ว่านี้ถึง 2500 ดอลลาร์แบบไม่เสียดาย

ลิลลี่ บริดจ์ อายุ 28 ปี คือผู้หนึ่งที่เข้ารับการเจาะกะโหลกเพื่อเพิ่มพลังความคิด เธอไปเจาะกะโหลกที่เมื่อมอนเทอร์เรย์ เม็กซิโก เธอกล่าวว่าการเจาะกะโหลกนั้นทำสั้นๆ แค่ 15 นาทีเท่านั้น เธอบอกว่าทำเสร็จแล้วเหมือนมีเฮลิคอปเตอร์บินวนอยู่รอบหัว

“หนูพอใจกับการเจาะกะโหลกค่ะ หลังจากเจาะกะโหลกแล้วหนูรู้สึกมีพลังความคิดเพิ่มขึ้น” เธอกล่าวส่งท้าย

แต่กระนั้นแพทย์แผนปัจจุบันต่างออกมาปฏิเสธการรักษานี้ เพราะยังไม่มีการยืนยันว่าการเจาะกะโหลกสามารถทำให้เพิ่มความนึกคิดขึ้น แพทย์อังกฤษปฏิเสธที่จะเจาะกะโหลกให้คนไข้เพราะว่าการเจาะกะโหลกนั้นอาจส่งผลให้มีอาการเสี่ยงหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเส้นเลือดอุดตัน อาการบาดเจ็บทางสมอง รวมไปถึงอาการไขสมองอักเสบได้ด้วย

ท้ายสุดมันก็ขึ้นอยู่กับวิจารญาณของแต่ละคนว่าการเจาะกะโหลกนั้นทำให้เพิ่มความสดชื่น อารมณ์ดี และให้พลังแก่ผู้ถูกเจาะจริงหรือ?

ปล. ถ้าใครอยากทราบรายละเอียด อยากลองทำด้วยตนเอง สามารถไปหาข้อมูลเพิ่มได้ที่ www.trepan.com

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
berybad's profile


โพสท์โดย: berybad
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
36 VOTES (4/5 จาก 9 คน)
VOTED: โก๊ะทอง, zerotype, เอ๋ง ไม่ดัดจริต, ยิ้มทุกวัน, paktronghie, นางเบิร์ด, taotong, todaysayhi, ฮั่วชวี่ปิ้ง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เงินเดือน-ค่าเสี่ยงภัย “นักบินเครื่องบินรบ นักบินขับไล่” ไทย VS ต่างประเทศ ได้เท่าไหร่กันแน่มาดูกันชายยิ้มปริศนาแห่งราชวงศ์ชิง ภาพถ่าย 100 ปี กับเบื้องหลังที่ไม่ใช่แค่การข้ามเวลาแม้เวลาจะผ่านไปนาน แต่กาลเวลาก็ไม่สามารถทำลายความสวยของสาวสวยอย่าง “โฟกัส จีระกุล” ได้เลยค่ะความลับอาหารบนเครื่องบิน… หมอเผยเหตุผลที่ทำให้พนักงานเองยังไม่กล้ากิน!ให้ขนมชั้นทายนิสัย...กัดคำเดียว vs ลอกทีละแผ่น คุณเป็นคนแบบไหน?เทรนด์ใหม่ของวัยรุ่นจีน ในการต่อสู้กับความเครียดด้วยจุกหลอกสำหรับผู้ใหญ่ห้องน้ำกลางทะเล : เรื่องที่หลายคนไม่เคยรู้จากชีวิตคนงานแท่นขุดเจาะดาราดัง "ไมเคิล ดักลาส" เป็นมะเร็งโคนลิ้น เพราะ Oral $exฮุน เซน วอนไทยงดใช้ F-16 หากเกิดปะทะอีก แม่ทัพภาค 2 สวนทันควัน “อธิปไตยไทย เรื่องของไทย” ชัดเจนเพื่อสันติหรือเพื่อสวย? เดินขบวนพนมเปญชาวเน็ตโฟกัสผิดจุด"ผู้กองวิน ดา"เกมแตกเพราะป้าข้างบ้าน ที่แท้เป็นสายลับกัมพูชาที่แฝงตัวในไทยอ.ปวิน จวกแรง! ตั้งบุ๋ม ปนัดดา เป็นโฆษกกลาโหม เสี่ยงเสียมากกว่าได้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ 08/08/68 ทำงานวันนี้เสร็จ หลายคนได้หยุดยาวๆกันแล้วเด้อครับเด้อ"เมทัล" อวดหุ่นแซ่บ! lซ็กซี่เกินต้าน..เล่นเอา "โดม ปกรณ์ ลัม" ถึงกับรีบมาเบรคเปิดภาพบ้านหรู ใช่ของ “หมอบี” ไหม หลังโดนแฉปม เงินบริจาควัด 50 ล้านศึกเดือด! บุ๋ม ปนัดดา ท้าชน มาลี หลังนั่งเก้าอี้โฆษก ศบ.ทก.แม่มาแล้ว! “บุ๋ม ปนัดดา” ขึ้นแท่นโฆษกศบ.ทก. ชน “พล.ท.หญิง มาลี” แฟน ๆ แห่ปรบมือเชียร์เขมร อวดโฉมปั๊มน้ำมันใหม่ ที่จะมาแทน ปั๊มน้ำมัน ปตท.
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ฮุนเซน วอนไทย เลิกทำสงครามหนังสติ๊ก บอกกลัวบานปลาย ส่วนทหารเขมร ใครใช้อยู่ ขอให้รัฐบาลสั่งหยุดใช้ทันทีเขมรไม่จบง่าย! ศบ.ทก.แถลง พบทหารเขมรตรึงกำลังชายแดน เคลื่อนไหวยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ-โดรน บินใบางพื้นที่อ.ปวิน จวกแรง! ตั้งบุ๋ม ปนัดดา เป็นโฆษกกลาโหม เสี่ยงเสียมากกว่าได้"ผู้กองวิน ดา"เกมแตกเพราะป้าข้างบ้าน ที่แท้เป็นสายลับกัมพูชาที่แฝงตัวในไทย
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน LinePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageราคาทองคำ
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง