แผนชัยยะสยบไพรียึดทรัพย์กว่า 200 ล้านกลุ่มค้ายาเสพติด“ไซซะนะ”-เผยเบนซ์ เรซซิ่งสามีดาราอาจต้องข้อหาค้ายา-ฟอกเงินพบหลักฐานโยง ปส.ติดตามมา 5 ปี

ขอบคุณภาพจาก http://www.tnamcot.com

เจ้าหน้าที่แถลงแผนชัยยะสยบไพรี 60/2 ยึดทรัพย์ 200 ล้านบาทเครือข่ายไซซะนะ ตำรวจนำรถแลมโบกินี่เข้าตรวจสอบบุกบ้าน"เบนซ์ เรซซิ่ง"สามีดาราอายัดทรัพย์อาจถูกข้อหาสมคบค้ายาเสพติด-ฟอกเงินพบหลักฐานโยง เผยทางตำรวจติดตามขบวนการนี้มา 5 ปี

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการป.ป.ส. ร่วมกันแถลงผลระดมปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติด 39 เป้าหมาย ตามแผนปฏิบัติการ"ชัยยะ สยบไพรี 60/2" ภายใต้ชื่อเครือข่ายผ้าขาว 

ซึ่งเป็นการขยายผลจากการจับกุม นายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดชาวลาว โดยปฏิบัติการตั้งแต่เวลา 06.00 น. ได้ระดมปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 39 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 3 ราย คือ นายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย และ น.ส.อรันญา สิงห์ผงาดและขยายผลจับกุมนายชัยวัฒน์ หรือแป๊ะ ชูสาย พร้อมของกลาง ได้แก่ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 21.72 กก. ยาไอซ์ จำนวน 5.97 กรัม, ยาบ้า จำนวน 1 เม็ด และยาอี จำนวน 2 เม็ด เบื้องต้นยึดทรัพย์สินไว้ 14 รายการ ได้แก่ สร้อยคอทองคำ,สร้อยข้อมือ,แหวนทองคำ,รถยนต์BMW,รถยนต์ Fortune,รถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า,รถจักรยานยนต์ Big Bike,วัวพันธุ์ จำนวน 63 ตัว และเงินในบัญชี จำนวน 1 แสนบาท รวมมูลค่ายาเสพติดและทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ประมาณ 200 ล้านบาท 

ปส.บุกค้นบ้านเป้าหมายย่านบางกรวย ยึดเคตามีน20กก. มูลค่ากว่า 13 ล.

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด(ปส.)ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายค้ายาเสพติดตามแผนปฏิบัติ “ชัยยะสยบไพรี 60/2” ในพื้นที่ จ.นนทบุรี จำนวน 10 จุดด้วยกัน โดยเฉพาะบ้านเลขที่ 33/11 หมู่ 6 ต.บางขุนกอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ตำรวจสามารถจับกุม นายชัยวัฒน์ ชูสาย หรือ แป๊ะ พร้อมยึดเคตามีน จำนวน 20 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 13 ล้านบาท ซึ่งถูกนายชัยวัฒน์ นำยาดังกล่าวมาพักไว้ เพื่อเตรียมแบ่งขายตามที่ นายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย ผู้ต้องหาคนสำคัญเป็นผู้สั่งการ

นายชัยวัฒน์ ชูสาย หรือ แป๊ะ ระบุว่า ได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวได้ 2 สัปดาห์ ในราคาเดือนละ 14,000 บาท เพื่อนำยาเสพติดมาพักไว้ที่บ้านแห่งนี้ โดยทำมาแล้ว 5 ครั้ง และครั้งล่าสุดได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 8  แสนบาท ซึ่งในช่วงกลางวัน ตนมีอาชีพขับรถให้กับโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ส่วนในช่วงกลางคืนก็จะนำยาเสพติดที่พักไว้ ไปส่งตามสถานที่ต่างๆ ตามที่นายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย เป็นผู้สั่งการ

ตำรวจนำรถ "แลมโบกินี่" มูลค่า 20 ล้านบาท ของ "เบนซ์ เรซซิ่ง" เข้าตรวจสอบแล้ว ด้าน "พล.ต.ท. สมหมาย" เตรียมออกหมายเรียกหากไม่แสดงตัว

พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้เบนซ์ ยังไม่ได้ติดต่อขอเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากเจ้าตัวพร้อม สามารถเข้ามาพบตำรวจได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่หากไม่แสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 2-3 วันนี้ จะออกหมายเรียกต่อไป

โดยเวลาประมาณ 16.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถแลมโบกินี่ หมายเลขทะเบียน กจ. 51 กรุงเทพมหานคร ของเบนซ์ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท มาที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อตรวจสอบทะเบียนรถ ผู้ครอบครอง และการเสียภาษี รวมทั้งตรวจสอบด้วยว่า มีการนำเข้ามาภายในประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งตอนที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นที่พักของเบนซ์เมื่อช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ไม่พบรถคันดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดี ที่ไม่ประสงค์ออกนาม โดยตรวจยึดได้ในเขตกรุงเทพมหานคร แต่ยังไม่ขอระบุสถานที่ว่าเป็นจุดใด

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า แพท ณปภา จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่นั้น พล.ต.ท. สมหมาย ระบุว่า ขณะนี้การตรวจสอบยังไม่ถึงแพท แต่ถ้าหากแพทได้รับโอนทรัพย์สินจากเบนซ์ ก็ต้องนำตัวมาสอบปากคำ และยังคงยืนยันชัดเจนว่า เบนซ์ ไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหา แค่ถูกซัดทอดว่าเป็นคนนำเงินของนายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาแก๊งค้ายาเสพติดชาวลาว มาซื้อรถ หากพยานหลักฐานครบถ้วน จะถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันสมคบฟอกเงิน 

สำหรับการปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายไซซะนะ ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า ทางตำรวจวางแผนมาประมาณ 5 ปี เนื่องจากการปฏิบัติการแต่ละครั้ง เจ้าหน้าที่ต้องมีข้อมูลให้ครบถ้วน และต้องวางแผนเป็นอย่างดี เพราะการปฏิบัติการแต่ละครั้ง จะเสี่ยงต่อการสูญเสียกำลังเจ้าหน้าที่และในปัจจุบัน กระบวนการทำงานของเครือข่ายค้ายาเสพติดไม่เหมือนอดีต มีโซเชียลมีเดียเข้ามา ทำให้สามารถรวมกลุ่มกันง่ายขึ้น

บุกบ้าน "เบนซ์ เรซซิ่ง" อายัดทรัพย์ จ่อโดนข้อหาสมคบค้ายา-ฟอกเงินหลังหลักฐานโยง

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านเเอเรีย 51 (Area51) ใต้อาคารธนดลแมนชั่น ซอยอินทามาระ51 แขวงดินแดง เขตห้วยขวาง เป็นร้านของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง สามีของแพท ณปภา ตันตระกูล นางเอกสาวชื่อดัง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบปืน 2 กระบอก เป็นปืนเอชเค บรรจุกระสุน 8 นัด และปืนกล็อก 1 กระบอก โดยปืนทั้ง 2 กระบอกมีกระสุน 15 นัด ปลอกกระสุน 3 ปลอก ซึ่งผบช.ปส.กำชับให้ตรวจสอบรอยขูดลบหมายเลขทะเบียนปืน เบื้องต้นปืนทั้ง 2 กระบอก เป็นปืนมีทะเบียน โดยปืนเอชเคมีหลักฐานได้รับโอนมรดกจากแม่ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 56 แต่ก็มีข้อห่วงใย เพราะปืนเอชเคเป็นอาวุธที่ใช้ในภารกิจจู่โจม ซึ่งส่วนใหญ่มีไว้ใช้ในทางราชการ

ส่วนรถยนต์ลัมโบกินี่ หมายเลขทะเบียน กจ 51 กทม. เป็นการขยายผลมาจากการยึดทรัพย์เป็นรถยนต์หรูนับ 1,000 คัน ของนายไซซะนะใน สปป.ลาว ซึ่งมีรถลัมโบกินี 1 คัน หายไป การสืบสวนพบว่าถูกนำเข้ามาในไทย คาดว่ามีการสวมทะเบียนในจ.ลำพูน นอกจากนี้จากฐานข้อมูลเบื้องต้นพบว่าทะเบียนของรถลัมโบกินีซ้ำกับรถโฟลค์ ผบช.ปส.จึงย้ำให้ตรวจสอบว่าเป็นทะเบียนปลอมหรือเกี่ยวข้องกับการสวมทะเบียนรถหรูหรือไม่ 

ทางด้านพล.ต.ท.สมหมาย ผบช.ปส. กล่าวว่า นายอัครกิตต์ มีความเกี่ยวข้องกับนายณัฐพล หรือ บอย เนื่องจากนายณัฐพล ได้ฝากทรัพย์สินของนายไซซะนะ ไว้ที่นายอัครกิตต์ เมื่อนายไซซะนะมาเที่ยวเมืองไทย นายณัฐพล ก็จะนำรถที่ฝากไว้กับนายอัครกิตติ์ ไปรับนายไซซะนะ ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างนายณัฐพล กับนายไซซะนะ คือ เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดด้วยกัน และนายณัฐพล เคยถูกตำรวจยึดทรัพย์สินไปเมื่อปี 2553 และการจับกุมนายณัฐพลครั้งนี้ เป็นหมายจับตั้งแต่ปี 2555 ทั้งนี้ นายอัครกิตต์ มีความเกี่ยวข้องกับนายไซซะนะทางด้านทรัพย์สินเท่านั้น หากพบว่าเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดด้วย ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหากสอบแล้วร่วมค้า ก็จะโดนข้อหาค้ายาเสพติด แต่ถ้ารับดูแลทรัพย์สิน ก็จะโดนข้อหาสมคบ 

พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวอีกว่า กรณีนายไซซะนะให้ข้อมูลว่ามีไฮโซคนดังเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดว่า ขณะนี้มีคนได้รับทรัพย์สินที่อวตาร ทำให้รวยไม่มีที่มาที่ไป ตำรวจจะเร่งสอบสวนขยายผล ขอเวลาในการทำงาน เพราะตนมีเวลาว่างสำหรับคนพวกนี้ ส่วนนายอัครกิตติ์ถ้าไม่มาพบเจ้าหน้าที่ก็พร้อมติดตามตัวมาให้ได้และจัดเต็มให้ ระหว่างนี้ขอให้อดใจรอปฏิบัติการสยบไพรี 60/3 อาจสนุกกว่านี้เป็นร้อยเท่า สำหรับนายอัครกิตติ์อาจจะถูกตั้งข้อหาสมคบค้ายาเสพติดและร่วมกันฟอกเงิน ส่วนนายณัฐพลมีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นผู้ส่งยาเสพติดให้กับนายไซซะนะ