นักศึกษายูซีเบิร์คลี่ย์นับพันประท้วง-จุดไฟเผาจนมหาวิทยาลัยสั่งยุติการปาฐกถาของ“บก.ข่าวขวาจัด”กลุ่ม Breitbart
กลุ่มนักศึกษายูซีเบิร์คลีย์ประท้วงบก.ข่าวขวาจัดที่จะไปพูดในมหาวิทยาลัยเมื่อคืนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2017 (Photo: Scott Strazzante, San Francisco Chronicle)
นักศึกษายูซีเบิร์คลี่ย์กว่าพันคนประท้วงการปาฐกถาของบก.ข่าวขวาจัดกลุ่มเบรทบาร์ทที่สนับสนุนดอนัลด์ ทรัมพ์ ระดมข้างปาทุบกระจก จุดไฟเผาด้านหน้าตึก ปะทะกับตำรวจ ประกาศจะไม่มีที่ปลอดภัยของกลุ่มรังเกียจผิว หลังจากดอนัลด์ ทรัมพ์ ออกคำสั่งฝ่ายบริหาร คนอเมริกันหลายเมืองรวมตัวกันประท้วงนับแสนคน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเบิร์กลี่ย์ รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อคืนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2017 ( ตรงกับเวลาเช้าวันที่ 2 กุมภาพันธ์ของเมืองไทย) ระบุว่านักศึกษามหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย, เบิร์คลี่ย์ (UC Berkeley) จัดชุมนุมประท้วงพร้อมกับทุบกระจกตึก,จุดไฟเผาและยังปะทะกับตำรวจมหาวิทยาลัยอีกด้วย เป็นเหตุให้บรรณาธิการที่มีแนวคิดขวาจัดที่ได้รับเชิญมาปาฐกถาจากนักศึกษาผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันต้องยกเลิกการปาฐกถาในมหาวิทยาลัยที่สร้างประวัติศาสตร์ทางการเมืองในสหรัฐตลอดมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามกำหนดแล้วนายไมโล เยียนโนปูลอส(Milo Yiannopoulos) บรรณาธิการข่าวของกลุ่มเบรทบาร์ท(Breitbart News editor)ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มขวาจัด (far-right)ได้รับการเชิญมาปาฐกถาแก่องค์กรนักศึกษาในเย็นวันที่ 1 มกราคม แต่ทว่าก่อน 2 ชั่วโมงรายการจะเริ่มหรือประมาณ 18.00 น.(เวลาท้องถิ่น) บรรดานักศึกษาที่ไม่พอใจก็รวมตัวกันประท้วงขว้างปาก้อนหินใส่หน้าต่างของตัวตึกที่จะพูดรวมทั้งจุดไฟเผาบริเวณทางเข้าตึก โดยวิดีโอได้ถ่ายให้เห็นชัดเจน
เจ้าหน้าที่ตำรวจมหาวิทยาลัยได้สั่งการให้นักศึกษาสลายตัวและสั่งปิดทางเข้า-ออกมหาวิทยาลัย กระนั้นก็ตามกลุ่มประท้วงใช้ก้อนหินขว้างปาเข้าใส่ตำรวจพร้อมจุดประทัดไฟขว้างใส่ตำรวจที่เตรียมพร้อมชุดปราบจลาจลไว้ ตำรวจยิงกระสุนยางเข้าใส่นักศึกษาเพื่อให้สลายการชุมนุมและยับยั้งไม่ให้ขว้างปาทำลายสิ่งของ
“เราปิดตายรายการนี้ เป็นเรื่องที่ดีมาก ปฏิบัติการของเราลุล่วง” กลุ่มประท้วงกล่าวกับผู้สื่อข่าว CNN
คำแถลงอย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัย ระบุว่านักศึกษาที่รวมตัวกันประท้วงอย่างสงบมีประมาณ 1,500 คน แต่กลุ่มที่ “ใช้ผ้าเป็นหน้ากากปิดหน้า”ประมาณ 150 คนเป็นผู้ลงมือประท้วงด้วยความรุนแรง “มหาวิทยาลัยไม่ได้ภาคภูมิใจกับประวัติศาสตร์และตำนานที่เป็นมหาวิทยาลัยแสดงออกถึงเสรีภาพของการแสดงความคิดเห็น (Free Speech Movement)”ในช่วงทศวรรษ 1960
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสตี๊ฟ แบนนอน ที่ปรึกษาฝ่ายยุทธศาสตร์ของนายดอนัลด์ ทรัมพ์ เคยเป็นบก.ของเบรทบาร์ทมาก่อน โดยนักศึกษากลุ่มประท้วงเป็นกลุ่มต่อต้านประธานาธิบดีที่มาจากพรรครีพับลิกันอยู่แล้ว
การออกคำสั่งของฝ่ายบริหาร (executive orders) โดยประธานาธิบดีทรัมพ์ตามนโยบายที่เขาหาเสียงไว้เช่นการห้ามคนมุสลิม 7 ประเทศเข้าสหรัฐ 90 วัน,การห้ามผู้ลี้ภัยอพยพเข้าประเทศ 120 วันและผู้อพยพจากซีเรียห้ามเข้าเด็ดขาดนั้นทำให้เกิดการประท้วงลุกลามไปตามเมืองต่างๆในสหรัฐรวมกันแล้วหลายแสนคน
ผู้ประท้วงคนหนึ่งชูป้ายขึ้นเขียนไว้ว่า “ไม่มีที่ปลอดภัยสำหรับกลุ่มรังเกียจผิว” ขณะที่กลุ่มประท้วงบางรายเปิดเพลงฮิปฮ้อปแล้วเต้นไปด้วยโดยมีการนำเสนออกทาง Facebook Live
จากนั้นกลุ่มประท้วงก็เดินไปตามถนนใกล้กับแคมปัส บางคนเข้าไปทุบกระจกด้านหน้า บางรายก็ทุกกระจกหน้ารถยนต์ที่จอดอยู่ ริมถนนข้างมหาวิทยาลัยและยังปทะกับตำรวจเป็นระลอก
Milo Yiannopoulos, technology editor at breitbart.com, spoke about free speech in Scott Hall on the College Avenue campus, Rutgers University, on Feb. 9. 2016(Photo by Edwin Gano,Dailytargum.com)
นายเยียนโนปูลอส ที่บัญชีทวิตเตอร์เขาถูกสั่งยกเลิกเมื่อปี 2016 เหตุผลเพราะเขาทวิตออกมาในลักษณะของการคุกคามนักแสดงสตรีผิวดำ (African-American actress) พร้อมกับกำกับไว้ว่าเป็นพวก “ฝ่ายซ้าย” ได้ทำคำแถลงว่า “เรื่องเสรีภาพในการแสดงออกเป็นเรื่องน่ากลัวแน่นอน ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการยุติ”
นายเยียนโนปูลอสซึ่งเป็นเกย์อย่างเปิดเผยด้วยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าในระหว่างที่นักศึกษาเริ่มขว้างก้อนหินเข้าไปในตัวตึกนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวเขาออกจากตึก
“เห็นได้ชัดว่า แม้จะเป็นมหาวิทยาลัยเสรีนิยม การแสดงออกเช่นนี้ทำให้เห็นว่าพวกเขาเกลียดเสรีนิยมหรือพวกอนุรักษ์นิยมที่ต้องการแสดงความเห็นในแคมปัสของพวกเขา”นายเยียนโนปูลอสกล่าวและว่า “โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาไม่ชอบผม
UC Berkeley ในช่วงทศวรรษ 1960 ถือได้ว่านักศึกษาเป็นกลุ่มนำในการต่อสู้ทางการเมืองทั้งการเคลื่อนไหวเรื่องเสรีภาพในการแสดงออก (the Free Speech Movement)และเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวต่อรต้านสงครามเวียดนาม
(the Anti-Vietnam War Movement) ขยายไปถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุปผาชน (ฮิปปี้)ที่
ประสานกันในเขตซาน ฟรานซิสโก เบย์ แอเรีย
แถลงการณ์มหาวิทยาลัยระบุว่านักศึกษากลุ่มที่ใช้ผ้าคลุมหน้าเป็นกลุ่มจุดชนวนความรุนแรงในมหาวิทยาลัย