แม่“ไผ่ ดาวดิน”ปล่อยโฮระหว่างแถลงขอความเป็นธรรมก่อนใช้ศรีษะโขกผนังห้อง-ศาลอนุมัติฝากขังเพิ่มอีก 10 วัน
ขอบคุณภาพจากคุณ prajak kong (twitter @bkksnow)
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 ศาลจังหวัดขอนแก่นได้เบิกตัวนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน”ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการแชร์ข่าวพระราชประวัติรัชกาลที่ 10 จากสำนักข่าวบีบีซีไทย ในเฟซบุ๊กของตน
เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายจตุภัทร์ จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นมาถึงศาลจังหวัดขอนแก่น โดยมีญาติๆและกลุ่มเพื่อนขบวนการประชาธิปไตยใหม่ กว่า 40 คน อาทิเช่น แมน ปกรณ์ ,รังสิมัน โรม และ จ่านิว มารอให้กำลังใจและเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายจตุภัทร์ในระหว่างการสอบสวน พร้อมกันนี้ทางกลุ่มได้นำข้าวหลามและภาพวาดรูปนายจตุภัทร์มาที่ศาลด้วย
การเบิกตัวนายจตุภัทร์มาที่ศาลในวันนี้ เพื่อดำเนินการไต่สวนคำร้องขอฝากขัง หลังจากเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2560 พ.ต.ท.จิรัฐเกียรติ สอนวิเศษ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เข้ายื่นคำร้องขอฝากขังนายจตุภัทร์ไว้ในระหว่างสอบสวนต่อไปอีก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 - 13 กุมภาพันธ์ 2560 นับเป็นการขอฝากขังครั้งที่ 6
สำหรับเหตุผลขอฝากขังต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นและอยู่ระหว่างการเสนอสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาและมีความเห็นทางคดี ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคดีหมิ่นฯ ของตำรวจภูธรภาค 4 เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2560 นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงและเกี่ยวกับความมั่นคง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ทนายความ พ่อและแม่ รวมทั้งกลุ่มเพื่อนที่มาให้กำลังใจนายจตุภัทร์ เข้ารับฟังการพิจารณาว่าการไต่สวนคำร้องขอฝากขังครั้งนี้จะเป็นการพิจารณาแบบเปิดเผยหรือเป็นการลับ กระทั่งศาลคำสั่งให้ไต่สวนคำร้องฝากขังเป็นการลับ
แม่ไผ่ขอความเป็นธรรมไต่สวนแบบเปิดเผย-ประท้วงด้วยใช้หัวโขกผนังห้อง
นางพริ้ม บุญภัทรรักษา แม่ของนายจตุภัทร์ ได้ยืนขึ้นแถลงขอความเป็นธรรมต่อศาล โดยเรียกร้องให้ศาลไต่สวนการฝากขังแบบเปิดเผย เพราะที่ผ่านมานายจตุภัทร์ต้องถูกคุมขังอยู่ภายในทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นในฐานะผู้ต้องหา ทั้ง ๆที่ยังไม่ใช่ผู้กระทำผิดมากว่า 40 วัน ถือว่าลูกชายไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมมาตั้งแต่ต้น
นางพริ้มได้ร้องไห้และตัดพ้อว่าความยุติธรรมอยู่ที่ไหน จากนั้นได้เดินไปที่ผนังห้องพิจารณาคดีและใช้ศรีษะโขกกับผนังห้อง จนผู้ที่เดินทางมาด้วยต้องช่วยกันพยุงตัวออกจากห้องไปปฐมพยาบาล
ทั้งนี้เฟซบุ๊ค Sarayut Tangprasert ได้โพสต์ภาพและข้อความถึงการพิจารณาคำร้องขอฝากขังนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน โดยระบุว่า "ในเมื่อปฎิญญาสากลว่าด้วยหลักสิทธิมนุษยชนไม่สามารถคุ้มครองสิทธิผู้ต้องขังได้ ดังนั้นในฐานะขอความเป็นแม่ ขอทำบางอย่างเพื่อลูก"
หลังกล่าวกับศาลจนจบคำ พริ้ม บุญภัทรรักษา แม่ของไผ่ ดาวดิน ได้เอาหัวโขกที่บริเวณผนังคอนกรีตในห้องพิจารณาคดีต่อหน้าองค์คณะผู้พิพากษา หลังศาลมีคำสั่งให้พิจารณาลับการไต่สวนคำร้องฝากขัง ในภาพระบุว่าเป็น ภาพหลังเกิดเหตุบริเวณหน้าห้องพิจารณาคดี 2 ชั้น 2 ศาลจังหวัดขอนแก่น
ถ่ายรูปชูภาพร่วมให้ปล่อยตัวไผ่ ดาวดิน
ส่วนนายจตุภัทร์ ได้ขอแถลงต่อศาลเพียงลำพัง โดยไม่ขอให้ทนายความเข้าไปในห้องพิจารณาคดี เพราะหากตนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม ก็ไม่ขอให้ทนายเข้าไปเป็นพยานจากกระบวนการเช่นนี้
หลังจากนั้นกลุ่มเพื่อนของนายจตุภัทร์ ได้ร่วมกันถือภาพถ่ายของนายจตุภัทร์ เดินลงมาจากห้องพิจารณาคดี และยืนชูภาพอยู่บริเวณลานหน้าศาล เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้ปล่อยตัวนายจตุภัทร์
นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา พ่อของนายจตุภัทร์ กล่าวว่า หากดูจากคำร้องในการขอฝากขังของพนักงานสอบสวนในการขอฝากขังไผ่ในผลัดที่ 6 จะเห็นว่าไม่มีเหตุที่จำเป็นใดๆเลยที่จะมาคุมขังไผ่ไว้ เพราะหากปล่อยตัวไผ่ออกมาเขาก็ไม่ได้ไปยุ่งกับพยานหลักฐานอยู่แล้ว แต่สุดท้ายศาลก็ยังให้ฝากขังต่อไปอีก 10 วัน โดยไม่ได้พิจารณาว่าไผ่ต้องมีอนาคต ก็ถือว่าเป็นดุลยพินิจของศาล แต่เราก็คิดว่าควรที่จะอยู่ในกรอบที่เหมาะสม เพราะสังคมก็จับตาว่ากระบวนการยุติธรรมที่ไผ่ได้รับเป็นอย่างไร ก็สังคมต้องพิจารณาดูว่าหากในอนาคตกระบวนการยุติธรรมแบบนี้กลายเป็นบรรทัดฐานของสังคมจะเป็นอย่างไร ซึ่งมันอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับไผ่ แต่เกิดขึ้นได้กับทุกคน มันไม่ใช่แค่ไผ่ต่อสู้เพื่อตนเอง พ่อแม่ต่อสู้เพื่อลูก แต่เราต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม
“วันนี้เราขอแค่ให้มีการพิจารณาแบบเปิดเผย แต่ก็ยังไม่ได้ แบบนี้ก็เป็นปัญหาเพราะเราก็ไม่รับรู้ว่าตำรวจจะให้เหตุผลกับศาลว่ายังไง เรามองว่าการพิจารณาแบบเปิดเผยจะทำให้แต่ละฝ่ายได้ใช้ความระมัดวังมากขึ้น รับฟังเหตุผลของกันและกัน สังคมจะได้รับรู้ว่าเรื่องราว เหตุผลของแต่ละฝ่ายเป็นอย่างไร มีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน”นายวิบูลย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ศาลมีคำสั่งให้ฝากขังนายจตุภัทร์ต่ออีก 10 วัน ในช่วงบ่าย ทนายความยื่นเรื่องขอประกันนายจตุภัทร์ ด้วยหลักทรัพย์เป็นเงินสด 400,000 บาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล