เปิดขึ้นเขาคิชฌกูฏวันแรกวุ่นนักแสวงบุญสับสนกฎใหม่-คณะสงฆ์เมืองจันท์ ร้องนายกฯสอบ ‘ผู้ว่าฯ-หน.อุทยานฯ’แทรกแซง-ผู้ว่าฯจันทบุรียันต้องจัดระเบียบ
งานนมัสการ“รอยพระพุทธบาทพลวง”เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี วันแรกวุ่น ผู้แสวงบุญ ประชาชน ติดค้างคิวรถนับพัน เหตุยังไม่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงกฎควบคุมความปลอดภัย บางส่วนไม่พอใจเกิดปัญหาการแย่งคิว-คณะสงฆ์เมืองจันท์โวยจัดระเบียบเขาคิชฌกูฏทำนักแสวงบุญสับสน-ลิดรอนประเพณี พาดพิงผู้ว่าฯ-หน.อุทยานฯ ด้านผู้ว่าฯจันทบุรีโต้ยืนยันการทำงานจัดระเบียบมีความชัดเจน ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม
เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2560 เวลา 10.30 น. บริเวณลานจอด คิวรถวัดพลวง ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้แสวงบุญ ที่ต้องการขึ้นไปนมัสการ สักการะรอยพระพุทธบาทพลวงบนยอดเขาคิชฌกูฎ ติดค้างอยู่บริเวณลานจอดรถวัดพลวงหลายพันราย เนื่องจากไม่ทราบกฎเกณฑ์ใหม่ เช่น การจัดระเบียบรายบุคคล และร้านค้าตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด จึงทำให้หลายครอบครัว ต้องเดินทางกลับ ขณะทีหลายคนยังคงรอต่อไป
เนื่องจากตามข้อตกลงใหม่ของคณะผู้ดูแลการจัดงานทั้ง 3 ฝ่าย กำหนดให้เริ่มการเดินรถตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันนี้เป็นวันแรก แต่มีผู้เดินทางมารอตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้าเนื่องจากเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และตรงกับเทศกาลตรุษจีน ตกค้างอยู่ลานจอดรถวัดพลวง จำนวนมาก นอกจากนี้ยังเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่องการจำหน่ายตั๋วบัตรคิวรถและตั๋วผ่านด่านอุทยานฯ ซึ่งตั้งแยกจุดจำหน่ายออกเป็น 2 ช่องทาง ทำให้หลายคนเกิดความเข้าใจผิดว่าสามารถซื้อตั๋วทั้งสองใบได้ในช่องทางเดียว
หลังจากเกิดความวุ่นวาย ตัวแทน 3 ฝ่าย ประกอบด้วยคณะสงฆ์ คณะกรรมการจัดงานและหน่วยงานภาครัฐ ได้หารือร่วมกันนานกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้นอนุโลมไม่ต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งมีผู้สักการะรอยพระพุทธบาทหลายหมื่นคน แต่ยังกำหนดให้รถโดยสารบรรทุกได้ไม่เกิน 10 คน
ทั้งนี้ ยังเกิดปัญหาผู้ที่จะเดินทางขึ้นไปนมัสการไม่ได้จัดเตรียมเอกสารที่สามารถแสดงตัวตนมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ที่จุดจำหน่ายตั๋วและที่บริเวณด่านตรวจ ทำให้เกิดความล่าช้าและยังพบปัญหาประชาชนไม่ทราบจุดคิวรถรับ-ส่ง ที่ ผู้จัดงานกำหนดไว้ 3 จุดหลักที่ คิวรถวัดกระทิง คิวรถที่ว่าการอำเภอเขาคิชฌกูฏ คิวรถวัดพลวง
พระเมืองจันท์ร้องบิ๊กตู่ ใช้ ม.44 เร่งแก้ปัญหาเขาคิชฌกูฏ
เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2560 ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคณะสงฆ์จังหวัดจันทบุรีในนามกองทุนนิธิพระพุทธบาทพลวงเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม กรณีการอ้างมาตรา 44 และผู้ว่าราชการ จ.จันทบุรี มีคำสั่งแทรกแซง ลิดรอนการจัดงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง (เขาคิชฌกูฏ)
โดยทาง ผจว.ร่วมกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏได้ขัดขวางการทำงานของคณะสงฆ์ฝ่ายจัดงานจนทำให้การทำงานล่าช้า และไม่สามารถเปิดงานประเพณีได้ตามกำหนดการเดิม 28 มกราคม ถึง 28 มีนาคม 2560 ซึ่งทางผู้จัดงานจำเป็นต้องเลื่อนงานออกไป และนอกจากนี้ยังอ้างมาตรา 44 เรียกรับผลประโยชน์จากคณะสงฆ์ฯ ซึ่งในขณะนี้เป็นการสร้างความสับสนให้แก่ผู้แสวงบุญและการสร้างความขัดแย้งให้แก่คณะสงฆ์ผู้จัดงาน และยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อประเพณีที่เป็นการจรรโลงศาสนาและต่อเศรษฐกิจของ จ.จันทบุรี
ดังนั้นทางคณะสงฆ์ฯจึงร้องขอความเป็นธรรมมายังนายกรัฐมนตรีเป็นการเร่งด่วนพิเศษ เพื่อให้ผู้มาแสวงบุญได้มาแสวงบุญตามปกติอย่างสงบสุข
ผู้ว่าฯจันทบุรีโต้ถูกร้องเรียน แทรกแซงงานเขาคิชฌกูฎ
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2560 ที่ห้องรับรองผู้ว่าราชการ ชั้น 4 ศาลากลาง จ.จันทบุรี นายวิทูรัช ศรีนาม ผวจ.จันทบุรี ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องที่ถูกร้องเรียนแล้ว พร้อมยืนยันต้องจัดระเบียบการจัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฎ ประจำปี 2560 ขึ้นใหม่ ชนิดล้างบางระบบเดิมเกือบทั้งหมด
สำหรับการกล่าวหาว่า ตนมีพฤติกรรมขัดขวางการทำงานคณะสงฆ์หรือไม่นั้น ให้ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ หน่วยงานที่ทาง นายกฯรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. แต่งตั้งให้มาตรวจสอบ แต่ตนขอยืนยันหนักแน่นว่า แนวทางการดำเนินงานเป็นการบริหารจัดการระหว่างการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายไม่ได้เป็นอำนาจเบ็จเสร็จของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง โดยการจัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงเขาคิชฌกูฎ ประจำปี 2560 จะจัดต่อไป จนครบตามกำหนดการเดิมตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. 2560 จนถึงวันที่ 28 มี.ค. 2560 รวม 60 วัน
5 คำสั่งผูู้ว่าฯ จันทบุรี ต้นเหตุไม่พอใจจัดระเบียบเทศกาล
สำหรับคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีดังกล่าว ได้มีข้อกำหนดการขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ประจำปี 2560 แจ้งให้ผู้แสวงบุญและประชาชนทั่วไปได้รับทราบ โดยการเตรียมตัว
1. ให้นำหลักฐานหรือเอกสาร ที่สามารถระบุตัวตนนำติดตัวมาด้วย เพื่อนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่บริเวณจุดจำหน่ายตั๋วและที่บริเวณด่านตรวจอุทยาน
2. จุดคิวรถรับ-ส่งผู้แสวงบุญกำหนดไว้ 3 จุด ที่บริเวณวัดกระทิง, ที่ว่าการอำเภอเขาคิชฌกูฏ และลานจอดรถวัดพลวง การเดินรถแต่ละเที่ยวจะรับผู้โดยสารคันละไม่เกิน10 คน
3. การจำหน่ายตั๋วสำหรับค่าโดยสารประชาชนทั่วไปราคาขาขึ้นคนละ100 บาท ขาลง 100 บาท ส่วนราคาบัตรบริเวณด่านตรวจอุทยาน ประชาชนทั่วไป ราคา 10 บาท เด็ก 5 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท เด็ก 50 บาท แนะนำให้ซื้อตั๋วยังจุดจำหน่ายพร้อมกันทั้ง 2 จุด เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า
4. ตั้งแต่จุดสิ้นสุดการเดินรถบริเวณลานพระศวลี ขึ้นไปจนถึงรอยพระพุทธบาท จะไม่มีการเปิดจำหน่ายน้ำดื่มอาหาร สินค้าที่ระลึก แนะนำให้ผู้ที่ขึ้นไปนำอาหารและเครื่องดื่มติดตัวไปด้วย
5. การนำเครื่องสักการะทั้งดอกไม้ดอกดาวเรือง ธูปเทียน จะกำหนดให้ผู้แสวงบุญวางสักการะได้บริเวณลานพระศิวลี ไม่อนุญาตให้นำขึ้นไปบนลานพระบาท หรือวางบนรอยพระพุทธบาท
มีรายงานว่า สำหรับคำสั่งดังกล่าวออกมาเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2560 ลงนามโดย นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี หลังจากมีการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง มณฑลทหารบกที่ 19 และฝ่ายปกครองร่วมกับคณะสงฆ์ 9 วัด ในพื้นที่ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เช่น ห้ามจำหน่ายสินค้าตลอดเส้นทางบริเวณวัดพลวงกับวัดกระทิง ห้ามค้างแรมตามระเบียบของกรมอุทยานแห่งชาติ ที่ห้ามมิให้มีการพักแรมและจำหน่ายสิ่งของในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ รวมถึงมีการจัดระเบียบที่เน้นความปลอดภัย และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ที่ขึ้นไปนมัสการได้มีโอกาสได้เห็นและสัมผัสรอยพระพุทธบาทพลวงได้อย่างชัดเจน ต่างจากทุกปีที่จะเห็นเพียงกองดอกไม้และพวงมาลัย
สำหรับเทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ ระหว่าง 28 มกราคม ถึง 28 มีนาคม 2560 เป็นงานประเพณีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ถึง ขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 รวม ระยะเวลา 60 วัน เพื่อให้ประชาชน พุทธศาสนิกชน นักแสวงบุญ และนักท่องเที่ยวขึ้นไปกราบไหว้ขอพรนมัสการรอยพระพุทธบาท ที่ตั้งประดิษฐานบนยอดเขาคิชฌกูฏ ชื่นชมธรรมชาติที่สวยงาม *กำหนดการอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบก่อนเดินทาง*
เขาคิชฌกูฏ มหาศรัทธา กับพุทธพาณิชย์ปีละ 300 ล้านบาท
ความเชื่อ-ตำนาน เขาคิชฌกูฏ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏเป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทที่อยู่สูงที่สุดในประเทศไทย สูงกว่า 1,050 เมตร จากระดับน้ำทะเล ถือว่าสูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ “รอยพระพุทธบาท” มีลักษณะเป็นรอยบนหินแผ่นใหญ่ มีรอยลึกประมาณ 2 เมตรเศษ กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร ค้นพบที่ยอดเขาพระบาทห่างจากที่ทำการอุทยานเขาคิชฌกูฏราว 4 กม. “รอยพระพุทธบาท” นี้ถูกค้นพบโดยนายพรานหาของป่าที่เดินขึ้นไปบนเขาคิชฌกูฏเมื่อปี พ.ศ.2397 เดิมทีนั้นเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “พระบาทพลวง” ตามตำนานเล่าว่าพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประทับที่นี่และฝากรอยพระบาทไว้
รายได้บนเขาคิชฌกูฏ
สาเหตุที่ใครต่างก็อยากจะเป็นจัดงานบนเขาคิชฌกูฏเพราะมีรายงานตัวเลขว่า มีเม็ดเงินสะพัดกว่า200-300 ล้านบาท ทั้งจากเงินทำบุญ ค่าดอกไม้ธูปเทียน และค่าจ้างรถโฟร์วีลขึ้นเขาโดยเจ้าของรถโฟร์วีล มีรายได้ตกรายละ 3-4 แสนบาท หลังจากปิดเทศกาลขึ้นเขา โดยผลประโยชน์เงินบริจาคบนเขาจะแบ่งเป็น3ส่วน ให้อำเภอคิชฌกูช 30% วัดกะทิง 30 % และ คณะสงฆ์จังหวัดจันทบุรี 40% เพื่อไม่ให้เกิดข้อขัดแย้งกัน จะเห็นได้ว่าจากงานบุญแค่2เดือนกลายเป็นธุรกิจพุทธพาณิชย์ที่ใครๆต่างหมายปอง จนกระทั่งบางคนถึงกับเอือมและไม่อยากเข้าไปนมัสการรอยพระพุทธบาท
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ให้ตรงไปใน ถนนสุขุมวิทจนถึงจังหวัดจันทบุรี จากนั้นจากตัวอำเภอเมืองจันทบุรีให้ขับผ่านแยกเขาไร่ยา ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3249 ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร โดยใช้ทางขึ้นเขาพระบาทพลวง (ทางขึ้นคนละจุดกับอุทยานฯ) เมื่อถึงวัดพระบาทพลวงต้องจอดรถส่วนตัวทิ้งไว้ (มีลานจอดรถไว้บริการ) จากนั้นมีรถสองแถวบริการขึ้นเขาพระบาทพลวง ออกจากวัดพลวงไปสิ้นสุดที่บริเวณทางขึ้นยอดเขาพระบาทฯ โดยรถที่ขึ้นยอดเขาแบ่งเป็น 2 ช่วง ค่าโดยสารช่วงละ 50 บาท/คน (รวมไป-กลับ 200 บาท) มีรถบริการตลอดเวลา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จะถึงจุดเริ่มต้นการเดินเท้าขึ้นไปรอยพระบาท
ส่วนการเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ให้ใช้ถนนสุขุมวิทเช่นกัน แต่เมื่อถึงสี่แยกเขาไร่ยา ให้แยกซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3249 ระยะทาง 24 กิโลเมตร จะถึงอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือสามารถนั่งรถสองแถวสีฟ้าสาย จันทบุรี-จันทเขลม ขึ้นรถได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ท่าแฉลบ หรือสอบถามการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ โทร. 039-452-074