หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ศาลสั่งจำคุก 2 ชายชุดดำการ์ด นปช.คนละ 10 ปีใช้ปืนยิงระหว่างสลายชุมนุมเสื้อแดงสี่แยกคอกวัว 10 เมษายน 2553

โพสท์โดย dominiqa

จำเลยคดีชายชุดดำ การ์ดนปช.คดียิงใส่ผู้ชุมนุมระหว่างการขอคืนพื้นที่สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน วันที่ 10 เมษายน 2553

ศาลสั่งจำคุก10 ปี 2 ชายชุดดำการ์ด นปช.-ยกฟ้อง 3 รายเหตุหลักฐานไม่ถึงแต่ยังให้คุมขังไว้ก่อนช่วงอุทธรณ์ทนายขอวางหลักทรัพย์ให้ปล่อยตัว เผยเป็นคดีการชุมนุมสี่แยกคอกวัว 10 เมษายน 2553 ใช้ปืนยิงใส่ระหว่างสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2560 ที่ห้องพิจารณา 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีชายชุดดำ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช). หมายเลขดำ อ.4022/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายกิตติศักดิ์ หรือ อ้วน สุ่มศรี อายุ 49 ปี ชาวกรุงเทพฯนายปรีชา หรือไก่เตี้ย อยู่เย็น อายุ 28 ปี ชาวเชียงใหม่ ,นายรณฤทธิ์ หรือนะ สุริชา อายุ 37 ปี ชาวอุบลราชธานี,นายชำนาญ หรือเล็ก ภาคีฉาย อายุ 49 ปี ชาวกรุงเทพฯ และนางปุนิกา หรือ อร ชูศรี อายุ 43 ปี ชาวกรุงเทพฯเป็นจำเลยที่1- 5 ในความผิดฐานร่วมกันพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ หรือชุมชน และมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4,8ทวิ,55, 72ทวิ และ 78

อัยการยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2557 บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 53 จำเลยกับพวกที่ยังหลบหนี และพวกที่ถึงแก่ความตายไปแล้วร่วมกันพาอาวุธ เครื่องกระสุน และวัตถุระเบิด ที่สามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สินให้เกิดความเสียหายได้อาทิ เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม79 ,ปืนเอ็ม16,ปืนเอชเค (HK)33 หรือปืนอาก้า ซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ ไปตามแยกคอกวัว ,ถ.ตะนาว,ถ.ประชาธิปไตย แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กทม. ซึ่งเป็นเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์

ทั้งในเวลาเกิดเหตุมีการชุมนุมกันของประชาชนจำนวนมาก ซึ่งวัน เวลาเกิดเหตุเจ้าพนักงานยึดได้อาวุธสงครามของกลาง กระทั่งวันที่ 11ก.ย. 57 เจ้าพนักงานติดตามจับกุมพวกจำเลยทั้งห้า ส่งพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ)ดำเนินคดี

ทั้งนี้ระหว่างการพิจารณาคดี จำเลยทั้งห้า ไม่ได้รับประกันตัว ซึ่งวันนี้ศาลได้เบิกตัว จำเลยมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และฑัณสถานหญิงกลาง เพื่อฟังคำพิพากษา โดยมีครอบครัวและญาติของจำเลย มาคอยให้กำลังใจเต็มห้องพิจารณาคดี

ทหารขอคืนพื้นที่สี่แยกคอกวัว

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นที่ยุติว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 กลุ่ม นปช.ได้ชุมนุมกันตั้งแต่ช่วงสะพานปิ่นเกล้า แยกคอกวัวไปจนถึงสะพานผ่านฟ้า โดยเมื่อเวลา 14.00 น.วันดังกล่าวทางการได้สั่งให้กำลังทหารเข้าขอคืนพื้นที่ ซึ่งระหว่างนั้นมีกลุ่มชายชุดดำสวมหมวกไหมพรม ซึ่งมีอาวุธยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ กลุ่มผู้ชุมนุมและพลเรือน กระทั่งมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไปตรวจที่เกิดเหตุพบเศษปลอกกระสุนเอ็ม 79 ปลอกกระสุนปืนกลเล็กขนาด 5.56 มม. ต่อมามีผู้แจ้งว่าพบรถยนต์ฮอนด้าสีขาวจอดไว้อยู่ที่บ้านริมน้ำนานผิดสังเกต กระทั่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกระทั่งสืบทราบกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้ควบคุมตัวจำเลยทั้งห้าคนมาสอบถาม

พยานเบิกความจำเลยที่ 1

โดยส่วนของนายกิตติศักดิ์ จำเลยที่ 1 นั้น โจทก์มีทหารม้าเป็นพยาน เบิกความว่า วันเกิดเหตุขับรถฮัมวี่พวงมาลัยซ้าย เพื่อพากำลังทหารไปในพื้นที่ตามคำสั่งสลายการชุมนุมและรอรับกลับ ระหว่างจอดรถรออยู่หัวรถหันไปทางกองทัพบก ท้ายรถหันมาทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้เห็นรถตู้โตโยต้าสีขาวขับผ่านมา แล้วชะลอความเร็วโดยมีชายคนหนึ่งผลักประตูรถเลื่อนออกมาแล้วตะโกนด่าพยาน ภายหลังทราบว่าเป็นจำเลยที่ 1 โดยระหว่างนั้นก็เห็นอาวุธปืนอยู่ในรถคันดังกล่าวด้วย

แม้คำเบิกความของพยานดังกล่าวจะเป็นช่วงเวลารวดเร็วที่มองเห็นบุคคลซึ่งไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่ได้ความว่ารถตู้ได้ชะลอความเร็ว ประกอบกับพยานเป็นทหารน่าจะมีความสามารถพิเศษในการจดจำบุคคล ประกอบกับสอดคล้องกับคำเบิกความของพี่สาวของผู้ชุมนุมที่ใกล้ชิดจำเลยที่ 1 ระบุว่า นายกิตติศักดิ์จำเลยที่ 1 มีอาชีพขับรถตู้รับจ้างเช่นเดียวกับน้องชายซึ่งเคยพากันไปชุมนุมหลายครั้ง ก่อนเกิดเหตุเห็นช่วยกันขนกระเป๋าสีดำจากรถยนต์ฮอนด้าสีขาวที่จอดไว้บริเวณบ้านริมน้ำมายังที่ห้องพักโดยพยานเห็นปากกระบอกปืนโผล่ออกมาจากกระเป๋า จากนั้นก่อนไปชุมนุมได้ขนกระเป๋าและลังสีน้ำตาลใส่รถตู้สีขาวเพื่อจะพาไปยังที่ชุมนุม จึงเห็นว่าพยานปากนี้คุ้นเคยกับจำเลยที่ 1 จึงไม่มีเหตุจะปรักปรำให้ต้องรับโทษ

ส่วนที่อ้างว่าพยานถูกข่มขู่ ถ้าเป็นจริงพยานก็น่าจะเบิกความพาดพิงจำเลยคนอื่นๆด้วย นอกจากนี้ยังมีเจ้าของรถตู้ที่เบิกความว่าจำเลยที่ 1ได้เช่ารถไปใช้ต่อ

ดังนั้นจึงสอดรับกับพยานที่เป็นทหาร ซึ่งได้ควบคุมตัวและบันทึกการสอบถามจำเลยทั้งห้าไว้ซึ่งอ้างถึงคำรับสารภาพว่า มีการวางแผนจัดเตรียมอาวุธไปในที่ชุมนุมโดยจำเลยที่ 1 จะใช้อาวุธปืนเอ็ม 79 จำเลยที่ 2 จะใช้ปืนอาก้า จำเลยที่ 4 จะใช้ปืนเอ็ม 16 จำเลยที่ 5 ถือระเบิดเพลิง ส่วนจำเลยที่ 3 จะช่วยส่งอาวุธปืนให้

ส่วนที่นายกิตติศักดิ์ จำเลยที่ 1 อ้างว่ากล่องที่ขนไว้ในรถตู้เป็นอะไหล่ซ่อมรถนั้น เป็นเพียงการกล่าวอ้าง และที่ว่ารับสารภาพเพราะถูกข่มขู่นั้น ก็ไม่ปรากฏร่องรอยการถูกซ้อม ซึ่งพยานโจทก์ทุกปากให้การสอดคล้องกันกับภาพถ่าย,บันทึกการสอบถามผู้ต้องหาและบันทึกการนำชี้จุดที่เกิดเหตุ ข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น

ตำรวจถอดหมวกไหมพรมจำเลยที่ 2

สำหรับนายปรีชา จำเลยที่ 2 นั้น มีพยานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายที่แฝงตัวอยู่ในชุมนุม เบิกความว่าตามวันเวลาเกิดเหตุ มีกลุ่มชายชุดดำที่มีอาวุธปืนอาก้า เข้ามาในที่ชุมนุม ซึ่งการ์ดนปช.ได้ขอตรวจบัตร แต่กลุ่มชายชุดดำอ้างว่าไม่ได้นำมา จังหวะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่แฝงตัวอยู่ในที่ชุมนุมจึงได้ถอดหมวกไหมพรมของหนึ่งในชายชุดดำออกก่อนที่จะยึดอาวุธปืน ก็พบว่าเป็นใบหน้าจำเลยที่ 2

แต่ขณะที่กำลังจะถอดหมวกไหมพรมชายชุดดำคนที่ยืนถัดไปได้เพียงครึ่งหน้าก็ปรากฏว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณที่ชุมนุม ทำให้ชายชุดดำดังกล่าววิ่งออกไป

ส่วนที่จำเลยที่ 2 อ้างว่าไม่ได้ไปที่ชุมนุม แต่ไปรับจ้างเดินสายไฟที่อาคารศูนย์ราชการนั้น ก็ไม่ได้มีพยานบุคคลรวมทั้งสัญญาจ้างมากล่าวอ้าง ทั้งที่สามารถหาพยานบุคคลได้โดยง่าย และที่อ้างว่าภาพถ่ายจำเลยที่ 2 ขณะเปิดหมวกไหมพรมนั้นเป็นภาพตัดต่อ ก็ไม่ปรากฏข้อพิรุธในภาพถ่ายของโจทก์ ดังนั้นพยานโจทก์ที่นำสืบในส่วนของจำเลยที่ 1 - 2 จึงมีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่าร่วมกันกระทำผิด

ส่วนจำเลยที่ 3 - 5 แม้โจทก์จะมีบันทึกคำให้การของจำเลยทั้งห้าในช่วงที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวและสอบถาม ซึ่งเคยรับว่าอยู่ในที่ชุมนุม แต่โจทก์ก็ไม่มีประจักษ์พยานอื่นใด รวมทั้งพยานแวดล้อมมานำสืบประกอบขณะที่จำเลย 3 - 5 ให้การปฏิเสธในชั้นศาล โดยจำเลยบางปากอ้างว่าขายข้าวไข่เจียวอยู่ ไม่อาจรับฟังได้ว่าระหว่างนั้นได้ครอบครองและใช้อาวุธปืน พยานหลักฐานโจทก์ยังมีเหตุสงสัยตามสมควร จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยที่ 3 - 5 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง

จำคุกจำเลยที่ 1 และ 2 คนละ 10 ปี

จึงพิพากษาว่า นายกิตติศักดิ์ จำเลยที่ 1 และนายปรีชา จำเลยที่2 มีความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4,8ทวิ55,72,78 ให้จำคุกคนละ 8 ปีและฐานพาอาวุธปืนไปในเมืองที่ชุมชน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 2 ปี รวมจำคุกคนละ 10 ปี

ส่วนนายรณฤทธิ์,นายชำนาญ และนางปุนิกา จำเลยที่ 3 - 5 นั้น พิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์

ภายหลังศาลมีคำพิพากษา ครอบครัวและญาติของจำเลยที่ 3-5 ได้กอดกันทั้งน้ำตา ขณะที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ก็ต้องควบคุมตัวจำเลยทั้งห้าไปคุมขังตามคำสั่งศาล

ทนายเชื่ออัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ กล่าวว่า เรายังเห็นต่างในเรื่องการรับฟังพยานของศาล โดยเราจะใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ขอต่อสู้คดีต่อไป ส่วนจำเลยที่ 3-5 ที่ศาลยกฟ้องแต่ยังให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์นั้น ทีมทนายความจะใช้สิทธิยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเพื่อให้จำเลยทั้ง 3 คนที่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องได้ออกมาข้างนอกโดยไม่ต้องถูกขังรอระหว่างอุทธรณ์ ส่วนศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้นก็จะต้องลองยื่นคำร้องดูก่อน

เนื่องจากในคดีนี้ศาลชั้นต้นเองก็ได้มีคำสั่งให้ยกฟ้องไปแล้ว แต่ที่ยังให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์อาจเพราะยังเกรงว่าจำเลยจะหลบหนีระหว่างอุทธรณ์ อีกอย่างตนเชื่อว่าอัยการโจทก์จะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อไป

ที่ผ่านมาในชั้นพิจารณาเราเคยยื่นประกันจำเลยทั้งหมดไป 3 ครั้งแต่ไม่ได้รับการประกันตัว และในชั้นอุทธรณ์เราก็จะยังขอใช้สิทธิยื่นประกันตัวจำเลยทั้งหมดอีกนายวิญญัติกล่าว

ขณะที่นายธำรง หลักแดง ทนายความจำเลยที่ 3 และ 4 กล่าวว่า หลังจากนี้จะเตรียมหลักทรัพย์ยื่นขอปล่อยชั่วคราวจำเลย 3-5 ที่ศาลสั่งให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ โดยมูลค่าหลักทรัพย์จะเริ่มตั้งแต่ 6 แสนบาทที่เคยเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ซึ่งเคยยื่นตั้งแต่ชั้นพิจารณาคดี หรืออาจจะเพิ่มหลักทรัพย์สูงสุดอีกเท่าตัวเป็นหลักล้านบาท

ชายชุดดำที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำออกแถลงข่าว เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558

นางปุนิกา หรืออร ชูศรี

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
dominiqa's profile


โพสท์โดย: dominiqa
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
VOTED: ซาอิ, ทัมจัย, zerotype
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นี่คงเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำ "บอสพอล" สุดกลั้นน้ำตา ปล่อยโหกลางรายการลีน่าจังโวย!! ร้านก๋วยเตี๋ยวคิดค่าพริกเพิ่ม 20 บาท ลั่นจะฟ้องฐานเอาเปรียบผู้บริโภค ชาวเน็ตถามร้านนี้อยู่ตรงไหน? จะตามไปกินศาลออกหมายจับผัวแล้ว!เมียถูกยิงตายปริศนาคาขนำสวนยาง ก่อนวันเกิดส่องรายได้ 5 ธุรกิจขายตรง เบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย ใครคือเจ้าแห่งยอดขาย?ซื้อโทรศัพท์มือถือมาใหม่จำเป็นต้องชาร์จทิ้งไว้ 8 ชั่วโมงมั้ย?เผยความรู้สึก ฉันรู้สึกแย่ไปตั้ง 2-3 วัน หลังจากถ่ายฉากนั้น เมื่อ Imelda Staunton เล่าถึงตอนเล่นเป็นอัมบริดจ์
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เผยความรู้สึก ฉันรู้สึกแย่ไปตั้ง 2-3 วัน หลังจากถ่ายฉากนั้น เมื่อ Imelda Staunton เล่าถึงตอนเล่นเป็นอัมบริดจ์สวยสยองด้วย "ผีกะ"!นี่คงเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำ "บอสพอล" สุดกลั้นน้ำตา ปล่อยโหกลางรายการลีน่าจังโวย!! ร้านก๋วยเตี๋ยวคิดค่าพริกเพิ่ม 20 บาท ลั่นจะฟ้องฐานเอาเปรียบผู้บริโภค ชาวเน็ตถามร้านนี้อยู่ตรงไหน? จะตามไปกิน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ชาร์จมือถือไปด้วยเล่นไปด้วยทำให้แบตเตอรี่เสื่อมจริงไหม? แล้วเราควรป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วอย่างไร?หมูเด้ง ฟีเวอร์! นักท่องเที่ยวแห่ชม จนสวนสัตว์แทบแตก รถติดยาวเหยียด!บอย ปกรณ์ ฝากข้อความถึง บอสพอล หลังดูโหนกระแส ทุกคนน่าจะดูออกว่าอะไรเป็นอะไรปิดล้อมบ่อนพนันเมืองจันทบุรี จับนักพนันเกือบครึ่งร้อย พร้อมอุปกรณ์เล่นพนันฯ
ตั้งกระทู้ใหม่