ซีอีโอ Starbucks สวนประธานาธิบดีทรัมพ์-ประกาศจ้างผู้ลี้ภัย 10,000 คนเริ่มในสหรัฐและขยายไปทั่วโลก 75 ประเทศ
กาแฟชื่อดังก้องโลก“สตาร์บั๊ค”ประกาศจ้างผู้ลี้ภัยอพยพ 10,000 คนในระยะเวลา 5 ปีหลังทรัมพ์ห้ามมุสลิม 7 ประเทศเข้าสหรัฐ เริ่มในสหรัฐจะจ้างผู้อพยพที่ให้ความช่วยเหลือกองทัพอเมริกัน ส่วนเม็กซิโกก็จะช่วยเหลือเกษตรกรเต็มที่ทุกด้าน สหประชาชาติระบุมีผู้ลี้ภัยทั่วโลก 65 ล้านคน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2017 ว่านายฮาวเวิร์ด ชูลทซ์ (Howard Schultz) ซีอีโอบริษัทกาแฟสตาร์บุ๊คได้ทำจดหมายหมุนเวียนไปยังพนักงานของบริษัทว่าสตาร์บั๊คจะจ้างผู้ลี้ภัยอพยพเข้าทำงานในบริษัทรวม 10,000 คน
ทั้งนี้เป็นจดหมายที่ส่งออกภายหลังจากนายดอนัลด์ ทรัมพ์ ประธานาธิบดีสหรัฐลงนามใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร (an executive order) ห้ามคนมุสลิมจาก 7 ประเทศเข้าสหรัฐ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2017 และมีผลทันทีเมื่อเริ่มวันที่ 28 มกราคม
พลเมืองที่เดินทางมาจากอิหร่าน,อิรัก,ลิเบีย,โซมาเลีย,ซูดาน,ซีเรียและเยเมนไม่อาจเข้าสหรัฐได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือวีซ่าที่ถูกต้องหรือเป็นคนที่ถือใบเขียวคืออยู่อย่างถูกกฎหมายก็ตาม จนกลายเป็นเรื่องโกลาหลทำให้องค์กรสิทธิเสรีภาพของพลเมืองอเมริกา (ACLU) ต้องยื่นฟ้องศาลและศาลสั่งระงับคำสั่งประธานาธิบดีด้วยการให้ปล่อยตัวบุคคลที่เดินทางมาถึงสนามบินหลายแห่งในสหรัฐแล้วถูกเจ้าหน้าที่คุมขังอีกทั้งบางส่วนถูกส่งกลับประเทศเดิม ต่อไปไม่อาจส่งกลับได้
นายชูลทซ์เขียนไว้ว่า “เรากำลังมีชีวิตอยู่ในห้วงเวลาที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน สิ่งหนึ่งที่เป็นประจักษ์พยานเราได้ในประเทศนี้ก็คือมโนธรรมของประเทศและสัญญาเกี่ยวกับความฝันของอเมริกัน (American Dream) ตอนนี้กำลังกลายเป็นคำถาม (ว่ามันจริงหรือไม่)”
ช่วงนี้เป็นเวลาที่ไม่แน่นอน มีมาตรการที่แตกต่างออกไปและมีเครื่องมือการสื่อสารที่แตกต่างไปจากในอดีตที่เราทำกันมา เควินและผมสัญญาว่าจะติดต่อสื่อสารกับพวกคุณถี่ขึ้น รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อก้าวไปข้างหน้า ผมกำลังได้ยินสัญญาณจากพวกคุณว่า ขณะนี้สิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนที่เราได้รับมาอย่างยาวนานกำลังถูกโจมตีและกำลังเร่งดำเนินการกัน
นายชูลทซ์กล่าวว่าด้วยเหตุผลดังกล่าวบริษัทมีประวัติศาสตร์ว่าจ้างคนหนุ่มสาวที่คิดจะสร้างโอกาสให้เกิดตนรวมทั้งกับชีวิตอื่นทั่วโลก ดังนั้นสตาร์บั๊คจึงจะทำงานร่วมกันต่อไปไม่ว่าการจ้างงาน,การร่วมลงทุน,การร่วมหุ้นจดทะเบียนในตลาด โดยเฉพาะโอกาสที่จะมอบให้กับคนที่หนีสงคราม,หนีความรุนแรง,หนีการถูกลงโทษและพวกที่ได้รับการเลือกปฏิบัติ
ทั้งนี้สหประชาชาติระบุว่าปัจจุบันมีประชาชนกว่า 65 ล้านคนที่ถูกเรียกว่าผู้ลี้ภัยอพยพ ดังนั้นสตาร์บั๊คจะจ้างคนเพิ่ม 10,000 รายในรอบ 5 ปีข้างหน้าใน 75 ประเทศทั่วโลกที่สตาร์บั๊คไปดำเนินธุรกิจ การเริ่มจะทำในสหรัฐก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะจ้างบุคคลที่ช่วยเหลือกองทัพสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นล่ามหรือให้การสนับสนุนอื่นๆแก่กองทัพสหรัฐ
ช่วยเหลือเม็กซิโก
นายชูลทซ์ยังกล่าวถึงสตาร์บั๊คที่ดำเนินธุรกิจในเม็กซิโก หลังจากมีโซเชียล มีเดียออกมาเพื่อบอยคอยบริษัทอเมริกันที่ทำธุรกิจในเม็กซิโกรวมทั้งบริษัทสตาร์บั๊คด้วย
“เราทำธุรกิจในเม็กซิโกมาตั้งแต่ปี 2002 ปัจจุบันเปิด 600 ร้านใน 60 เมืองทั่วประเทศ และจ้างงานคนเม็กซิกันกว่า 7,000 คน ทุกคนมีความภูมิใจที่สวมผ้ากันเปื้อนสีเขียว เราเองก็มีผู้ปลูกกาแฟในเม็กซิโกรวมทั้งครอบครัวมาไม่น้อยกว่า 30 ปี มีการจัดตั้งศูนย์เกษตรที่เมืองเชียปาสเพื่อช่วยให้เกษตรกรปลูกกาแฟรวมทั้งช่วยด้านการส่งออกด้วย เพราะเม็กซิโกเป็นพื้นที่หนึ่งที่ปลูกกาแฟได้ดีติดอันดับโลก อีกทั้งที่เมืองโออาซาก้า เรามอบเงินให้ 2 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนความเป็นอยู่,ความมั่นคงทางอาหารและคุณภาพของน้ำดื่มน้ำใช้แก่เกษตกรผู้ปลูกกาแฟ
ด้วยการสนับสนุนจากหุ้นส่วนของเราหลายพันรายและลูกค้าอีกหลายล้านคน เราได้มอบต้นกาแฟ 5 แสนต้นเพื่อให้ 70,000 ครอบครัวได้ปลูกและในปีนี้เราตั้งเป้าไว้ว่าจะบริจาคต้นกาแฟให้ได้ถึง 4 ล้านต้น
“กาแฟถือเป็นมรดกธรรมดาอย่างหนึ่ง ผมได้แจ้งให้กับ อัลแบร์โต้ ตอร์ราโด้ ผู้นำที่เป็นหุ้นส่วนของเราในเมืองอัลซีอา เม็กซิโกว่าเราพร้อมที่จะให้การสนับสนุนลูกค้าชาวเม็กซิกัน,หุ้นส่วนและครอบครัวของพวกเขา กรณีที่จะได้รับผลกระทบจากการแซงชั่นทางการค้า,การเข้มงวดกับผู้อพยพและการขึ้นภาษีที่อาจกระทบต่อความไว้วางใจในคนอเมริกัน แต่เราก็จะลงทุนในตลาดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนายดอนัลด์ ทรัมพ์ ประกาศทลายผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายในสหรัฐ,การเพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจับกุมผู้อยู่อย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งยังประกาศจะสร้างกำแพงกั้นระหว่างชายแดนภาคใต้ของสหรัฐกับเม็กซิโก อีกด้วย
เกี่ยวกับ Starbucks Corporation
เป็นบริษัทกาแฟอเมริกันรวมทั้งร้านแบบลูกโซ่ ตั้งขึ้นที่เมืองซีแอตเติ้ล รัฐวอชิงตันในปี 1971 ณ เดือนพฤศจิกายน 2016 ดำเนินการ 23,768 ร้านทั่วโลก โดยแยกดังนี้ 13,107 (+170), จีน 2,204 (+86),แคนาดา 1,418 (-12) ,ญี่ปุ่น 1,160 (+2) เกาหลีใต้ 872 แห่งและประเทศอื่นๆอีกในทุกทวีป
เมื่อปี 2015 ยอดขาย 19.16 พันล้านดอลลาร์
รายได้จากการดำเนิน 3.6 พันล้านดอลลาร์
รายได้สุทธิ 2.76 พันล้านดอลลาร์
ยอดทรัพย์สิน 12.45 พันล้านดอลลาร์
พนักงาน 238,000 คนทั่วโลก
ในประเทศไทย สตาร์บั๊คดำเนินการในปี 2560 นี้เป็นปีที่ 19 และในปี 2562 บริษัทตั้งเป้าจะขยายให้ถึง 400 ร้านทั่วประเทศ