มาตรการคุมเข้มทูตรัสเซียทั่วโลกเร่งค้นหาผู้อยู่เบื้องหลัง

ศพเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกีถูกยิงเสียชีวิตล่าสุดมีการนำศพนายคาร์ลอฟเดินทางกลับรัสเซีย โดยนักการทูตระดับสูงของตุรกีร่วมไว้อาลัย ขณะที่ รัสเซียเพิ่มการเฝ้าระวังระดับสูงสถานทูตรัสเซียทั่วโลกและจะส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปที่ตุรกีเพื่อสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบรัสเซีย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน 18 คนของรัฐบาลรัสเซียเดินทางไปยังกรุงอังการาแล้ว เพื่อประสานงานกับฝ่ายตุรกี พร้อมทั้งอ้างคำกล่าวของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ว่า มาตรการตอบโต้ ของรัสเซียในตอนนี้ คือ การยกระดับปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย ในซีเรีย และ ฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะต้องรู้สึก

รัฐบาลรัสเซียได้ออกประกาศให้ประชาชนรอการประกาศจากรัฐบาลเครมลินเท่านั้น

ความคืบหน้าสถานการณ์ตึงเครียดหลังเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี ถูกยิงเสียชีวิตคาเทศกาลภาพถ่ายที่เมืองหลวงของตุรกี ล่าสุดโฆษกหญิงจากกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า ‘สมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงจะต้องประสบปัญหาอีกมากมายหลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ขึ้น’ ทั้งนี้รัสเซียประกาศกร้าวว่า ขอให้ประชาชนของตนเพิกเฉยต่อประกาศจากทางฝั่งตุรกี และให้รอประกาศจากรัฐบาลรัสเซียเท่านั้น

เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี ถูกยิงเสียชีวิตคาเทศกาลภาพถ่ายที่เมืองหลวงของตุรกี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่านายอันเดร คาร์ลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำตุรกี วัย 62 ปี ถูกนายเมฟลุต เมิร์ต อัลดินตัส อายุ 22 ปี มือปืน ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลของตุรกี ยิงปลิดชีวิต ระหว่างกล่าวเปิดงานแสดงศิลปะในกรุงอังการา ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา 

ข่าวแจ้งว่า ผู้ที่ก่อเหตุยิงนายคาร์ลอฟ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลชาวตุรกี ที่อยู่ในชุดสูทและยืนอยู่ข้างหลังนายคาร์ลอฟขณะกำลังกล่าวเปิดงาน อย่างไรก็ตาม ทางการตุรกีแจ้งว่า ขณะก่อเหตุ ตำรวจนายนี้ไม่ได้อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด โดยผู้ก่อเหตุได้ตะโกนร้องว่า อเลปโป และแก้แค้น ซึ่งขณะเกิดเหตุมีการถ่ายทอดสดอยู่ด้วย ทำให้ภาพที่นายคาร์ลอฟถูกยิงถูกเผยแพร่ออกไปทั่ว

รายงานข่าวระบุว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น 1 วันหลังมีการชุมนุมในตุรกีเพื่อประท้วงที่กองทัพรัสเซียเข้าไปแทรกแซงสงครามกลางเมืองในซีเรีย แม้ว่าตอนนี้รัสเซียและตุรกีจะร่วมมือกันเพื่อหาทางอพยพผู้คนออกจากเมืองอเลปโปของซีเรีย นอกจากนี้ เหตุยิงทูตรัสเซีย ยังเกิดขึ้นก่อนหน้าการหารือครั้งสำคัญระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ตุรกี และอิหร่าน เรื่องสงครามกลางเมืองในประเทศซีเรีย ซึ่งมีรายงานว่า การหารือดังกล่าวจะยังคงเดินหน้าต่อไป แม้จะเกิดเหตุยิงทูตรัสเซียขึ้น

ด้านนางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกญิงของกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย แถลงว่า การก่อเหตุโจมตีที่กรุงอังการา เป็นผลให้นายอังเดรย์ คาร์ลอฟ ทูตรัสเซียประจำกรุงอังการาได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา พร้อมระบุด้วยว่า เหตุดังกล่าวเป็นการก่อการร้าย

ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียแจ้งว่า นายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าวแล้ว

นายฮาชิม คีลิก ผู้สื่อข่าวของเฮอร์ริเยต ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า เหตุร้ายดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างพิธีเปิดงานแสดงศิลปะ ขณะที่ทูตกำลังกล่าวเปิดงาน มีชายตัวสูงขึ้นหนึ่งยิงปืนขึ้นบนฟ้า ก่อนที่จะเล็งปืนยิงไปที่ทูต ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับ อเลปโป และการแก้แค้น พร้อมกับตะโกนบอกให้ผู้คนออกจากห้องไป เมื่อผู้คนเริ่มวิ่งหนี คนร้ายก็เริ่มยิงขึ้นอีกครั้ง

ด้านตำรวจตุรกีเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า คนร้ายได้ตะโกนขึ้นว่า “อย่าลืมอเลปโป อย่าลืมซีเรีย” ก่อนจะตะโกนต่อว่า “อัลลาฮูร์ อักบา” หรืออัลเลาะห์ทรงยิ่งใหญ่

นายอันเดร คาร์ลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำตุรกี

นายเมฟลุต เมิร์ต อัลดินตัส อายุ 22 ปี มือปืน ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลของตุรกี