ยรรยงถามหมอวรงค์ราคาข้าวโง่จริงหรือแกล้งโง่-นพ.วรงค์โต้หากโง่จะเอาคนขึ้นศาลได้หรือ ชี้ยิ่งลักษณ์จ้างคอลัมนิสต์เขียนแก้ให้แต่ไม่มีเหตุผล
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 นายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็นอดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความแสดงความเห็นเรื่องข้าว ในบทความชื่อ “วรงค์” โง่จริงหรือแกล้งโง่ที่โจมตีกรณี “ยิ่งลักษณ์” ขายข้าวช่วยชาวนา ? ระบุว่า
ท่ามกลางวิกฤตการณ์ราคาข้าวที่พี่น้องชาวนากำลังได้รับความทุกข์เดือดร้อนแสนสาหัสอยู่ในขณะนี้ ปรากฏว่าชาวนาจำนวนมากได้พยายามดิ้นรนช่วยเหลือตนเองโดยการนำข้าวออกขายเองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งได้รับการตอบสนองอย่างดีจากหลายฝ่ายรวมทั้งท่านอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ด้วย
เหตุการณ์ที่ทำให้ผมประหลาดใจมากคือการที่นายวรงค์ เดชกิจวิกรม และอีก 2-3 คน ออกมาโจมตีท่านอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ว่าเป็นผู้ทุบราคาข้าวให้ตกต่ำ ซึ่งผมได้ชี้แจงให้ข้อมูลที่ถูกต้องไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็ปรากฏว่าถูกนายวรงค์ตอบโต้ซึ่งผมเห็นว่าเป็นตรรกะวิบัติทั้งสิ้น (ผมวิเคราะห์จากประสบการณ์แท้ๆ ของผมเองและเป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ) ผมไม่อยากจะฟันธงว่านายวรงค์ “โง่จริง” หรือ “แกล้งโง่” เพราะอาจจะไม่เป็นธรรมกับนายวรงค์ผมจึงขอเสนอคำถามข้างล่างนี้เพื่อให้นายวรงค์ตอบซึ่งจะทำให้เราวินิจฉัยได้ว่าเขาโง่จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่
- นายวรงค์รู้หรือไม่ว่าราคาข้าวตกตํ่าต่อเนื่องมาเกือบ 3 ปีแล้ว แต่ขณะนี้ถึงจุดวิกฤตเพราะราคาข้าวเปลือกหอมมะลิตกตํ่ากว่าตันละ 1 หมื่นบาทเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ส่วนข้าวเปลือกเจ้าราคาก็ตกต่ำเหลือตันละ 5-6 พันบาทเท่านั้น (ราคาข้าวได้ตกตํ่ามาก่อนที่ท่านอดีตนายกฯจะช่วยรับซื้อข้าวจากชาวนาไปช่วยขาย)
- นายวรงค์รู้หรือไม่ว่าผลผลิตข้าวนาปีฤดู 2559/60 นี้ จะออกมากกว่าปกติคือเกือบ 30 ล้านตัน โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิอาจจะถึง 9-10 ล้านตัน (ปกติผลผลิตปีละประมาณ 8 ล้านตัน) ข้าวเจ้าและข้าวอื่นๆ อีกเกือบ 20 ล้านตัน ทั้งนี้เพราะถูกอั้นมาจากปีก่อนๆ ที่ถูกสั่งให้ลดพื้นที่และชะลอการเพาะปลูกด้วยสาเหตุต่างๆ (ข้าวที่ท่านอดีตนายกฯรับซื้อไปขายช่วยชาวนามีปริมาณไม่มากถ้าเทียบกับผลผลิตข้าวทั้งหมดจึงไม่เป็นการทุบราคาหรือกดราคาข้าวให้ต่ำลง)
- นายวรงค์รู้หรือไม่ว่าราคาข้าวในประเทศขึ้นอยู่กับราคาข้าวในตลาดโลกซึ่งมีราคาส่งออกข้าวไทย (ราคา FOB) เป็นตัวชี้นำ เพราะไทยส่งออกข้าวเกือบ 1 ใน 3 ของตลาดโลก (ไทยส่งออกข้าวประมาณ 9-10 ล้านตันจากที่ค้าในตลาดโลกประมาณ 30 ล้านตัน) ราคาข้าวที่กำลังตกตํ่าอย่างรุนแรงขณะนี้มีต้นทางจากความผันผวนของตลาดโลกซึ่งกำลังรอดูผลผลิตฤดูใหม่ จีนยังไม่ได้กำหนดโควต้านำเข้า ผู้นำเข้าข้าวเช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ก็ยังรอดูสถานการณ์
เมื่อยังไม่มีออเดอร์ผู้ส่งออกก็ยังไม่รับซื้อข้าวจากโรงสีประกอบกับยังมีสต๊อกข้าวเก่าปี 2558/59 อยู่อีกถึง 2-3 ล้านตัน จึงมีผลต่อเนื่องทำให้โรงสีขาดกำลังซื้อไปด้วย กลไกตลาดทุกส่วนจึงขาดสภาพคล่อง (ราคาข้าวตกตํ่าไม่ได้เกิดจากการทุบราคาแต่เกิดจากภาวะตลาดที่ไม่ได้มีการบริหารจัดการที่ถูกต้อง ท่านอดีตนายกฯไม่ได้ทุบราคาแต่ทำตรงข้ามคือต้องการช่วยพยุงราคาข้าวไม่ให้ตกตํ่าลงอีก)
- นายวรงค์รู้หรือไม่ว่าการที่ชาวนาส่วนหนึ่งนำผลผลิตของตัวเองออกขายให้ผู้บริโภคโดยตรงโดยไม่ผ่านกลไกตลาดปกติ นับได้ว่าเป็นการสร้างทางเลือกใหม่และเพิ่มอำนาจต่อรองให้ตนเอง เพราะเท่ากับตัดกลไกตลาดที่เคยกินส่วนต่างถึงประมาณ 50% ออกได้ (ค่าปรับปรุงคุณภาพค่าบรรจุถุง ค่าขนส่ง ค่าวางขาย ค่าโฆษณา ค่าส่งเสริมการขาย) ปกติกลไกตลาดส่วนนี้จะผลักภาระให้ชาวนาโดยการหักจากราคารับซื้อข้าวเปลือก (แต่ท่านอดีตนายกฯรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนามาขายโดยรับภาระต้นทุนการผลิตและการตลาดไว้เอง)
5.นายวรงค์รู้หรือไม่ว่าท่านอดีตนายกฯได้รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาตัวจริงตันละ 12,000 บาท ในขณะที่ราคาที่ตลาดรับซื้อยังไม่ถึง 1 หมื่นบาท จึงทำให้ชาวนาพอใจและมีความสุขตั้งแต่เมื่อได้ขายข้าวราคาสูงกว่าตลาดและพบว่ามีทางเลือกเพิ่มขึ้นคือสามารถพึ่งตนเองได้โดยไม่ต้องผ่านกลไกตลาดปกติ สำหรับชาวนาที่ยังไม่ได้ขายข้าวก็มองเห็นแสงสว่างคือสามารถขายข้าวเองได้โดยไม่ต้องถูกผลักภาระหักราคาเป็นค่าใช้จ่ายด้านการตลาดอีกต่อไป และไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาทุบราคาข้าวให้ตํ่าลงได้อีก (การที่ท่านอดีตนายกฯขายข้าวสารในราคากิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งยังสูงกว่าราคาขายส่งข้าวสารหอมมะลิใหม่เล็กน้อย ก็ไม่มีผลเป็นการทุบราคาข้าวให้ต่ำลงแต่อย่างใดตามข้อเท็จจริงที่ระบุในคำถามข้อ 1-ข้อ 3)
“ผมขอให้ท่านผู้อ่านช่วยวิเคราะห์ว่านายวรงค์จะสามารถตอบได้ถูกต้องแค่ไหน ถ้าตอบได้ถึงร้อยละ 60 ถือว่ามีความรู้จริงแต่แกล้งโง่ แต่ถ้าตอบได้น้อยกว่าร้อยละ 60 ถือว่าโง่จริงๆ เพราะข้อมูลที่ตั้งคำถามเป็นข้อมูลสาธารณะที่เผยแพร่และรู้กันทั่วไปนะครับ”นายรรยงสรุป
นพ.วรงค์บอกเตรียมไปขึ้นศาลคดีมันสำปะหลัง-ส่งสารไปยังยิ่งลักษณ์จ้างคอลัมนิสต์เขียนโต้
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2559 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์เขียนตอบโต้นายยรรยง ในเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ไว้ว่า
วันนี้นายยรรยงมาแรงกว่าที่คิดครับ สงสัยคงจะเครียด ใช้คำพูดว่า นายวรงค์ “โง่จริง” หรือ “แกล้งโง่” แต่ผมบอกได้เลยว่า ถ้าผมโง่ ผมจะเอาพวกท่านขึ้นศาลได้เหรอ
ผมอ่านประเด็นที่นายยรรยงเขียน บอกตรงๆว่างง สงสัยตั้งใจให้ผมอ่านให้งง แต่ยิ่งอ่านยิ่งไม่ให้ราคา จะไปให้ราคาได้อย่างไรครับ ผมยกตัวอย่างข้อความนายยรรยงเขียนว่า
"การที่ท่านอดีตนายกฯขายข้าวสารในราคากิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งยังสูงกว่าราคาขายส่งข้าวสารหอมมะลิใหม่เล็กน้อย"
แค่ประโยคนี้นายยรรยงก็ไม่มีราคาแล้วครับ เพราะเขากำลังเทียบราคาที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ขายข้าวสารหอมมะลิกิโลละ 20 บาท เทียบกับที่ชาวนาเขาขายกัน กิโลละ 30-35 บาท เท่ากับตัดราคาชาวนา ไหนบอกจะช่วยชาวนา แต่นายยรรยงเอาราคาที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ขายไปเทียบกับราคาขายส่ง ก็ไม่รู้จะให้ว่าอย่างไร ไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่ไม่ควรเปรียบ ที่สำคัญใครเขาดู ไม่มีใครเชื่อหรอกว่า เป็นข้าวสารโรงสีชุมชนที่ชาวนาสี
ดูแล้วคิดเอาล่ะกันว่า นายยรรยงเป็นคนอย่างไร
ฝากบอกนายยรรยงไปถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วยว่า อย่าคิดว่ามีเงินจ้างคอลัมนิสต์บางคนช่วยเขียนแก้ให้ เพราะอ่านดูแล้วมันไม่มีเหตุผล ที่สำคัญคือต้องจริงใจ ถ้าไม่จริงใจต่อชาวนา อย่างไรก็ไปไม่รอด
ส่วนนายยรรยง เอาเวลาไปเตรียมชี้แจงคดี โกงมันสำปะหลังจีทูจีดีกว่าครับ เพราะตามข่าวที่ผ่านมา งานนี้นายยรรยงคงไม่รอดคดีมันสำปะหลังครับ