นี่คือ สัญญาณเตือนจากร่างกาย ว่าคุณกำลังบริโภคน้ำตาลเยอะเกินไปหรือเปล่า?
น้ำตาล ถือได้ว่าเป็นสิ่งเสพติดอย่างหนึ่งและเป็นศัตรูเบอร์หนึ่งของร่างกายเรา ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กเล็กพ่อแม่มักจะให้ของรางวัลเป็นขนมหวานจนกลายเป็นเมื่อเราโตมาก็ให้รางวัลตัวเองด้วยของหวานเช่นกัน บ่อยครั้งที่เราทานอาหารแล้วไม่เคยรู้เลยว่ามีปริมาณน้ำตาลเยอะขนาดไหน อาหารที่เราคิดว่าดีต่อสุขภาพอย่างขนมที่ทำจากผลไม้ จริงๆแล้วมันเป็นความหวานจากเคมีต่างหาก
เราต้องคอยสังเกตว่าสิ่งไหนทำมาจากน้ำตาลและรู้สิ่งที่เราทานหรือดื่ม ให้พยายามละสารพิษชนิดนี้ซึ่งมันทำได้ไม่ยากนักหรอก
ปวดหัว
ปวดเมื่อย
ระดับน้ำตาลในเลือดผันผวน
ท้องผูก
เมื่อยล้า
โรคร้ายแรง
มะเร็ง
ถ้าอยากเลิกต้องทำอย่างไร?
ถึงแม้คุณจะเลิกเสพติดน้ำตาลได้ ร่างกายนั้นก็ยังต้องการน้ำตาลปริมาณเฉพาะไม่มากไม่น้อยเกินไปเช่นกัน ดังนั้นคุณก็จะสามารถสัมผัสได้ถึงสุขภาพที่ดี มีเรี่ยวแรงและสบายใจ ซึ่งกว่าจะสามารถทำได้ในระดับนั้นคุณต้องฝึกร่างกายให้เผาผลาญไขมันในรูปแบบเป็นเชื้อเพลิงไม่ใช่น้ำตาล
เริ่มแรกคุณต้องอ่านฉลากของอาหารทุกประเภทว่ามันจะมีอะไรเข้าร่างกายคุณบ้าง
ห้ามทานอาหารแปรรูปเพราะมันเต็มไปด้วยน้ำตาล
ถ้าเป็นไปได้ทานแบบสดจะดีที่สุด
ทานผักเยอะๆ
เนื้อไม่ติดมัน
ปลา
ตัดคาร์โบไฮเดรททุกประเภท
ตัดน้ำตาลทุกชนิด
ทานไขมันอิ่มตัว
คุณจะได้รับน้ำตาลจากผลไม้อยู่แล้วซึ่งเป็นน้ำตาลธรรมชาติ ถึงอย่างนั้นก็ทานเยอะมากไม่ได้อยู่ดี แต่คุณยังสามารถหาได้จากการทานไขมันและโปรตีนเยอะๆเพื่อนำมาสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย
สังเกตน้ำหนักของคุณ
อย่ากลัวการขึ้นชั่งน้ำหนักเพราะทุกคนต้องเริ่มจากจุดใดจุดหนึ่ง ให้วัดรอบเอวและสะโพกถ้าคุณทำได้ จากนั้นค่อยๆตัดการทานน้ำตาลเริ่มดูการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย อารมณ์และผิวที่เริ่มเปร่งปรั่ง
ควรทำไปอย่างช้าๆไหม?
ถ้าคุณยังไม่สามารถที่จะตัดการทานน้ำตาลออกไปได้ให้ลองทำตาม 3 วงจรปรับอาหารที่มีน้ำตาล
คุณต้องทำตามแผนตารางอาหารที่ดีต่อสุขภาพคุณ สัปดาห์แรกเริ่มจากทานน้ำตาลระดับปกติอาจจะสูงก็ลดให้เหลือน้อยลงมาปานกลาง เช่น จากเส้นพาสต้าเป็นควินัว
สัปดาห์ที่สองก็เริ่มลดน้ำตาลจากระดับปานกลางเป็นอาหารที่มีน้ำตาลต่ำ จะเหมือนเป็นการให้คุณได้ปรับปุ่มรับรสใหม่และทำให้คุณรู้ว่าจริงๆอาหารนั้นหวานขนาดไหน พอถึงตอนนี้คุณก็จะสามารถตัดทุกอย่างที่เป็นฟรักโทสออกไปได้แล้ว แต่คุณก็ยังต้องบริโภคฟรักโทส 5 กรัมหรือน้อยกว่าต่อวัน
สัปดาห์ที่สามคุณต้องตัดการทานผลไม้ออกไปด้วย แต่คุณก็ยังสามารถทานอโวคาโด มะเขือเทศ มะกอก เลม่อนและมะนาวซึ่งเป็นอาหารประเภทน้ำตาลต่ำทั้งหมด เนื้อสัตว์คุณทานได้เช่นกันแบบไม่ติดมัน แซลม่อนป่า ผักใบเขียว ควินัว และพืชตระกูลถั่ว
จำไว้ว่าแผนการลดอาการนั้นจะบอกว่าอาหารประเภทใดดีต่อสุขภาพและประเภทใดส่งผลเสียต่อสุขภาพ ให้ทำตารางอาหารเช้า กลางวัน และเย็น นี่เรียกว่าการอดอาหารแบบต่อเนื่องเรียนรู้ที่จะหยุดทานขนม
ผักดอง
ผักดองนั้นดีต่อสุขภาพมากช่วยเรื่องลำไส้ มีคำพูดที่ว่า ลำไส้แข็งแรงสุขภาพดีคือจิตใจที่แข็งแกร่ง
ถั่ว
ถั่วเต็มไปด้วยไขมันดีสูง โปรตีนต่ำและไม่มีน้ำตาล จำเป็นอย่างมากควรทานหนึ่งกำมือต่อวัน มันประกอบไปด้วยไขมันดีแต่มีแคลลอรี่สูงจึงไม่ควรทานเยอะ
ผักเคว (Kale)
ถ้าคุณสามารถปลูกเควได้ด้วยตัวเองหรือซื้อมาแล้วก็ปล่อยทิ้งให้มันแห้งเอง อย่าทานเยอะมากเกินไปเพราะมันมีสารต้านอนุมูลอิสระ
ผักต่างๆ
ผักหลายชนิดที่มีรสชาติอร่อย ทำเป็นอาหารทานเล่นอย่างถั่วกับครีมแบบฮัมมัสหรือทานถั่วลันเตาเปล่าๆจากฝัก แครอทด้วยก็ดีนะ
รักษาน้ำหนักของคุณ
คุณก็ทราบว่าไขมันนั้นจะเผาผลาญเป็นพลังงานไม่ใช่น้ำตาลที่แปลงเป็นพลังงาน เมื่อไรที่คุณไม่ได้รู้สึกหิวตลอดเวลาหรือเมื่อไรที่คุณไม่ค่อยเกิดอารมณ์แปรปรวนลถ้ารเมื่อไรก็ตามที่คุณมีแรงเป็นปกติแล้ว คุณควรหยุดการกินไปอีก 5-6 ชั่วโมง เมื่อนั้นคุณก็จะหมดความอยากได้เอง
ควรทานอาหารสุขภาพดีเป็นวิถีประจำวัน ถ้าคุณทำได้อย่างถูกต้องก็จะไม่ต้องการน้ำตาลอีกต่อไป ทำเป็นนิสัยโดยการกินของสด ใหม่ มีสีสัน ออแกนนิคและไม่ติดมันจะทำให้คุณรู้สึกดีขนาดไหน มันจะกลายเป็นชีวิตประจำวันได้เร็ววันและไม่อยากน้ำตาลอีกเลย
โปรดจำไว้ว่าน้ำตาลเป็นพิษ
อาหารที่ดี ออกกำลังกายเป็นประจำและทำสมาธิจะเป็นหนทางที่ทำให้คุณมีชีวิตพร้อมสุขภาพที่ดี ขอให้โชคดี
ที่มา...news.thaiza.com