อ่านแล้วชอบมากๆ…คนที่โชคดีที่สุดในยุคนี้ คุณคือหนึ่งในนั้นหรือเปล่า?
จากเพจไปให้ถึง 100 ล้าน
– ยุคนี้ “คนบูชาวัตถุ” มีคนกลุ้มใจกับการหาเงินเพื่อใช้หนี้ก้อนโตให้เร็วที่สุด คนที่โชคดีกว่าใคร ๆ คือรู้จักพอประมาณตนและไม่ก่อหนี้
– ยุคนี้ “ทุกอย่างเร็วไปหมดสมองเรารับข่าวสารนับไม่ถ้วน” คนที่โชคดีที่สุดคือคนที่รู้ว่าข่าวไหนควรรับและข่าวไหนควรทิ้งปิดกั้นความคิดไม่รับพวกข่าวพวกขยะ
– ยุคนี้ “คำคมมันเยอะของดีมีจนเอียน” คนที่โชคดีที่สุดคือพวกที่อ่านแล้วเลือกเก็บไม่เชื่ออะไรง่ายๆกล้าที่จะลงมือทำก่อนใคร
– ยุคนี้ “คนบูชาคนเก่งจากใบกระดาษ” คนที่โชคดีที่สุดคือคนที่แยกออกว่าคนเก่งจริงนอกจากเรียนเก่งยังไม่พอ ต้องนำความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ และทำงานร่วมกับคนอื่นได้ด้วย
– ยุคนี้ “สร้างภาพง่ายสุด ๆ ” มีเครื่องมือพร้อมให้อวดได้ทุกเวลาฉันไปกินโน่นมาฉันซื้อนี้มาใหม่ฉันไปเที่ยวที่นี้มาต่างคนต่างอวดคนที่โชคดีสุด ๆ คือ คนที่ยิ้มกว้างอย่างมีความสุขในทุกเวลา ปราศจากตำแหน่งหรือหัวโขนถึงมีก็ไม่อยากอวดไม่มีก็ไม่เป็นไรแค่ปัจจัย 4 ก็เพียงพอ ไม่ต้องแบกภาระสร้างภาพอะไรทั้งนั้น
– ยุคนี้ “คนรวยก็รวยเอาคนจนก็จนเอา” คนที่โชคดีที่สุดคือ คนที่รู้ตัวว่าตัวเองจนและพัฒนาตัวเองให้ฐานะดีขึ้น คนที่รู้ว่าตัวเองรวยและยินดีช่วยเหลือแบ่งปัน ส่วนคนที่แย่ที่สุดคือพวกที่จนแล้วทำเหมือนรวย ประมาณตนยังไงก็เจริญ
– ยุคนี้ “มีมุมมองหลากหลายของผิดก็กลายเป็นถูก” มองได้หลายมุมสิ่งนี้ถูก แต่พอมองอีกมุมก็กลายเป็นผิดไปสิ่งนี้ผิดมองอีกมุมมันก็ถูกต้องดี ก็เถียงกันให้สะใจเต็มโซเชียลเน็ตเวิค คนที่โชคดีที่สุดคือพวกที่รู้ว่าโลกนี้มี 2 ด้านมันผสมกันอยู่อยู่ที่เราจะเลือกว่าจะมองมุมไหน มองให้เป็นประโยชน์และนำมาใช้พัฒนาตัวเอง เรียกง่ายๆว่า “คนคิดเป็น”
-สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะยุคนี้หรือยุคไหนๆ อะไรเปลี่ยนไปอะไรเพิ่มมาพวกถ่านวัน ๆ จะบ่นโน่นนี้นั้นคิด แต่เรื่องตำหนิผู้อื่นจะเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นส่วนพวกเพชรจะคิดอย่างหนักสน แต่เรื่องตัวเองเริ่มเปลี่ยนเรื่องของตัวเองก่อน เมื่อเก่งจริงถึงจะเริ่มไปเปลี่ยนคนอื่น เพราะเค้ารู้กฎธรรมชาติดี
“กว่าจะเปลี่ยนตัวเองได้มันเป็นเรื่องที่ยากที่สุดถ้าทำได้ โลกนี้ก็ไม่มีอะไรยากเกินกำลังอีกแล้ว”
ที่มา...http://www.naarn.com/10791/