ไม่อยากแก่เร็วอ่าน! ศาสตร์ความงาม 3,000 ปี ดูดีตลอดกาล
ไม่น่าเชื่อว่า การขูดลิ้น ทำความสะอาดจมูก ผ่อนคลายดวงตาด้วยฝ่ามือ จะเป็นทรีตเม้นต์ฮอตฮิตในปัจจุบัน (นี่เรื่องจริง ไม่ได้ล้อเล่น!) ตำรับที่เล่าขานสืบต่อกันมา ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งและรอยยิ้มสว่างสดใส อันที่จริงสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย อายรุเวทโบราณมีประวัติยาวนานกว่า 3 พันปีแล้ว แต่เพิ่งมาฮิตเอาตอนนี้ต่างหาก?
การดูแลสุขภาพและความงามแบบองค์รวม ตั้งแต่การทำความสะอาดด้วยน้ำผลไม้ไปจนถึงการนั่งสมาธิ ดูเหมือนจะล้ำหน้าคำว่าเทรนด์ไปแล้ว
และการที่เซเลบอย่างโอปราห์และกวินเนธออกมาสรรเสริญศาสตร์แขนงนี้อย่างเปิดเผยก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงแต่ประการใด
งานวิจัยหลายชิ้นเพิ่งมารองรับประสิทธิภาพของทรีตเม้นต์ดังกล่าวว่า ‘ของเขาดีจริง’แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรเวทและแพทย์แผนโบราณจำนวนไม่น้อยยืนยันเป็นเสียงเดียวกันถึงประโยชน์ด้านความงาม “แม้ไม่มีใครศึกษาว่ามนุษย์เริ่มรู้จักแปรงฟันกันตั้งแต่เมื่อไร แต่เราพิสูจน์แล้วว่ามันมีประโยชน์จริง” คุณหมอคูลรีต โชดฮารี (Kulreet Chaudhary) ผอ.ฝ่ายประสาทวิทยาศูนย์สุขภาพ Wellspring Health ของโรงพยาบาล Scripps Memorial ใน La Jolla แคลิฟอร์เนียกล่าว “คอมมอนเซนส์และประสบการณ์เรียนรู้ที่สืบทอดกันมานั้นอยู่เหนือกาลเวลา” ไม่เชื่อลองทำทรีตเม้นต์ดังต่อไปนี้เพื่อพิสูจน์ว่าช่วยให้ใบหน้าและร่างกายย้อนกลับไปอ่อนเยาว์ได้จริงหรือ?
ผ่อนคลายดวงตาด้วยฝ่ามือ (Eye Palming)
ยุคนี้มนุษย์เรามีทั้งแท็บเล็ต สมาร์ตโฟน ทีวี คอมพิวเตอร์ ไม่แปลกเลยที่ปัญหาดวงตาทั้งหลายแหล่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วิธีผ่อนคลายดวงตาด้วยฝ่ามือที่เก่าแก่หลายศตวรรษจึงเข้ากับยุคมิลเลนเนี่ยมเป็นที่สุด ความร้อนและแรงกดจากมือสามารถผ่อนคลายเส้นประสาทบริเวณดวงตา และบรรเทาความตึงเครียดของกล้ามเนื้อรอบกระดูกเบ้าตา ดังที่อมิตา บาเนอร์จี (Amita Banerjee) นักวิชาการด้านสุขภาพแบบองค์รวมที่ Atmananda Yoga ในนิวยอร์กกล่าวว่า “ถ้าโลกเรามีความดันโลหิต แล้วทำไมจะไม่มีความดันดวงตาล่ะ” และวิธีนี้เป็นการบำบัดที่ไม่มีพิษภัยต่ออาการปวดหัวด้วยน่ะสิ
>ประโยชน์อื่นๆ:
“นอกจากเยียวยาอาการสายตาล้า วิธีนียังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อรอบดวงตาที่อาจเป็นสาเหตุของริ้วรอยในคราวเดียวกัน” ผู้เชี่ยวชาญด้านการวัดสายตาและผอ.อาวุโสฝ่ายดูแลสุขภาพดวงตาในซินซินนาติ นามมาร์ค ฌาโคต์ (Mark Jacquot) ให้เหตุผล
>ลองทำดู: วอร์มมือด้วยการถูมือทั้ง 2 ข้างเข้าด้วยกัน หลับตาแล้ววางฐานมือลงบนโหนกแก้มแต่ละข้าง จากนั้น ทำนิ้วเป็นรูปถ้วยครอบเปลือกตา หายใจเข้า-ออกลึกๆ ช้าๆ แล้วค้างอยู่ในท่านี้ 5 นาที
เอาน้ำมันกลั้วปาก (Gandusha)
แต่ละวันปากต้องรองรับสิ่งสกปรกมากมาย ไม่ใช่แค่จังก์ฟู้ดเท่านั้น ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขากรรไกรใกล้ๆ หู และในลำคอต่างมีหน้าที่กรองแบคทีเรียและสารพิษจากใบหน้า โพรงจมูกและคอหอย การกลั้วน้ำมันในปากกำจัดสิ่งเจือปนออกได้อย่างน่าทึ่ง
“เชื่อกันว่าการกลั้วน้ำมันในปากลดแบคทีเรียได้ และน้ำมันจะดูดสารพิษออกจากต่อมน้ำลาย” ไบรอัน คันทอร์ (Brian Kantor) ทันตแพทย์ด้านความงาม และหุ้นส่วนของ Lowenberg, Lituchy and Kantor ในนิวยอร์กอธิบายให้ทราบ หากคุณใช้วิธีนี้ แบคทีเรียและเชื้อโรคต่างๆ จะก่อตัวยากขึ้น ผลก็คือรอยยิ้มขาวสะอาดและเปล่งประกายยิ่งกว่าเดิม
> ประโยชน์อื่นๆ: “โรคช่องปากอักเสบทั้งหลาย อย่างเช่นโรคเหงือกอาจนำไปสู่อาการอื่นๆ อย่างโรคหัวใจและเบาหวาน สุขภาพปากที่ดีเป็นหนทางสู่สุขภาพกายที่ดีครับ” คุณหมอไบรอันย้ำ
> ลองทำดู: ทุกคืนปากสะสมแบคทีเรียไว้สูงมาก (เยอะแค่ไหนพิสูจน์จากกลิ่นปากเอาเองแล้วกัน) ลองกลั้วปากด้วยน้ำมันออร์แกนิก 1 ช้อนโต๊ะเป็นเวลา 10 นาทีตอนตื่นนอนก่อนแปรงฟัน แล้วค่อยบ้วนออก น้ำมันมะพร้าวเป็นทางเลือกที่นิยมอยู่ในขณะนี้ เพราะมีรสหวาน แต่บรรดาสาวกอย่างไชลีน วู้ดลีย์ (Shailene Woodley) เลือกน้ำมันงาสกัดเย็นแทน
การขูดลิ้น (Jiva Sodhana)
ในระหว่างที่เราหลับ แบคทีเรียจะมาชุมนุมกันบนผิวลิ้น “การขูดลิ้นมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นลมหายใจสะอาดสดชื่น เชื้อโรคสะสมน้อยลง แถมเหงือกยังแข็งแรงขึ้นอีกต่างหาก” หมอไบรอันบอก
>ประโยชน์อื่นๆ: เซย์เลอร์ คราวช์ลีย์ (Sayler Crouchley) ผู้ก่อตั้ง Sayler Crouchley Wellness ในนิวยอร์กและคอนเน็คติกัดกล่าวว่า“หลังทำความสะอาดตุ่มรับรสบนลิ้น คุณจะรับรู้รสชาติอาหารได้ดีและแฮปปี้กว่า นั่นหมายถึงคุณจะเจริญอาหารกว่าเก่า”
>ลองทำดู: ใช้แผ่นขูดโลหะขนาดกว้างเท่าลิ้น หรือจะใช้แปรงสีฟันมีที่ขูดลิ้นก็ได้)ใช้ก่อนแปรงฟัน แต่หลังจากกลั้วปากด้วยน้ำมัน โดยค่อยๆ ลากที่ขูดจากโคนลิ้นออกมายังปลายลิ้น แล้วค่อยเปลี่ยนไปขูดด้านข้าง ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง สิ่งสำคัญคือ ควรเช็ดที่ขูดก่อนทำซ้ำ
การนวดเท้า (Padabhyanga)
อายุรเวทสอนระบุว่าเท้าก็ไม่ต่างอะไรจากลิ้น ที่เชื่อมโยงกับอวัยวะและฮอร์โมนทุกอย่างของร่างกายผ่านปลายประสาท จุดความดันและต่อมน้ำเหลือง ในอินเดียสาวกจำนวนมากนวดเท้าด้วยน้ำมันอุ่นก่อนเข้านอนทุกคืนเพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและพลังงาน “หากทำประจำ เราคิดว่าการนวดเท้าช่วยลดความเหนื่อยล้าได้ ทั้งยังนอนหลับสนิทด้วย” ดร.คูลรีตอธิบาย ซึ่งทั้ง 2 อย่างเป็นปัจจัยสำคัญต่อสุขภาพและสุขภาวะที่ดี
>ประโยชน์อื่นๆ: นักบำบัดอายุรเวทเชื่อว่าเส้นประสาท 4 เส้นในเท้าเชื่อมโยงโดยตรงกับดวงตา ดังนั้นการนวดเท้าจึงลดความเครียดจากการปวดหัวเรื้อรัง “มันได้ผลดีมากกับลูกค้าของฉันค่ะ” อมิตายืนยัน
>ลองทำดู: ก่อนนอน ใช้น้ำอุ่นล้างเท้าให้สะอาด แล้วนั่งลงโดยวางเท้าบนขาอ่อนอีกข้าง จากนั้นเริ่ม นวดจากบริเวณข้อเท้า ผ่านหลังเท้าไปจนถึงปลายเท้า แล้วใช้มืองอนิ้วเท้าขึ้นลง จากนั้นค่อยๆ ใช้นิ้วโป้งนวดฝ่าเท้าโดยวางส้นเท้าไว้ในฝ่ามือ เน้นนวดวนเป็นวงกลมและใช้แรงหนักๆ โดยค่อยๆ ไล่ขึ้นไปทางนิ้วเท้า
การทำความสะอาดจมูก (Neti Pot)
ฟังดูเหมือนนิทานปรัมปราไปหน่อย แต่การล้างจมูกคนเป็นไซนัส ภูมิแพ้หรือหายใจไม่สะดวกให้กลับมาหายใจคล่องอีกครั้ง ด้วยการเทน้ำเค็มเข้าไปในรูจมูกข้างหนึ่งแล้วปล่อยให้ไหลออกอีกข้าง ช่วยกำจัดแบคทีเรีย เชื้อโรค เกสร น้ำมูกและสิ่งแปลกปลอมในชีวิตประจำวันออกมา ดร.คูลรีตเพิ่มเติมว่าวิธีนี้ใช้เป็นทรีตเม้นต์สำหรับป้องกันได้ด้วย “การฉีดน้ำเข้าไปจนท่วมเยื่อเมือกนั้น สามารถกำจัดเชื้อโรคและสิ่งเจือปนในอากาศก่อนที่พวกมันจะสร้างปัญหา” เมลานี ซาชส์ (Melanie Sachs) ผู้เขียนหนังสือ Ayurvedic Beauty Care และหุ้นส่วนของ Diamond Way Ayurveda ในแคลิฟอร์เนียแถลงไข “ฉันมักทำหลังจากบินค่ะ ใครจะไปรู้ล่ะคะว่ามีอะไรค้างอยู่ในจมูกเราหลังจากหายใจเอาอากาศรีไซเคิลเข้าตัวเป็นเวลาหลายชั่วโมง”
>ประโยชน์อื่นๆ: ดร. ฟรานเชสก้า ฟัสโก้ (Francesca Fusco, M.D.) แพทย์ผิวหนังกล่าวว่าภูมิแพ้สามารถทำให้เส้นเลือดฝอยอักเสบจนเห็นได้ชัด การลดสารก่อภูมิแพ้อาจลดการเกิดรอยหมองคล้ำได้เช่นกัน นักบำบัดด้านอายุรเวทเน้นว่าการล้างจมูกลดอาการตาบวมเนื่องจากไล่ของเหลวที่มาคั่งอยู่ใต้ดวงตาเคลื่อนออกไป
>ลองทำดู: ผสมน้ำกลั่นหรือน้ำกรองอุ่น ¾ ถ้วยเข้ากับเกลือโคเชอร์ 1 ช้อนโต๊ะและเบกกิ้งโซดา 1/4 ช้อนโต๊ะลงในหม้อ จากนั้นโน้มตัวมาข้างหน้า เอียงศีรษะไปด้านซ้ายแล้วเทน้ำลงไปในรูจมูกด้านขวา แนะนำให้ทำเหนือซิงค์ น้ำจะได้ไม่หกเปื้อน จากนั้นค่อยสลับข้าง
เครดิต: womenshealththailand.com