อดีต 2 ส.ส.พิษณุโลก“นคร มาฉิม”กับ“นพ.วรงค์”โต้ราคาข้าวตกต่ำใครมีเหตุผลกว่า ตัดสินเอาเอง
นคร มาฉิม (ซ้่าย)และนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ทั้งคู่
อดีตส.ส.พิษณุโลก นคร มาฉิม จวกหมอวรงค์ชาวนาพิษณุโลกถามหา ต้นเหตุไร้เงินอุดหนุนซื้อข้าวเปลือก หมอวรงค์โต้นครเปลี่ยนไป เคยตำหนินโยบายรับจำนำข้าวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรว่ามีแต่การทุจริตแล้วเอาชาวนามาอ้าง ระวังคำถามนักการเมืองขายตัว
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2559 นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.จังหวัดพิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวนาที่พิษณุโลกต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ราคาข้าวเปลือกปีนี้ต่ำสุดในรอบ 10 ปี เดือดร้อนอย่างหนักเมื่อไม่มีโครงการรับจำนำข้าวช่วยชาวนาเป็นปีที่ 3 ติดกัน ทั้งนี้ ตนรู้สึกสมเพชแกมเศร้าใจที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้รัฐบาลนี้หางบประมาณอุดหนุนชาวนา ทั้งๆที่ นพ.วรงค์เป็นตัวการสำคัญคนหนึ่งที่ใช้ทุกวิธีการทำลายโครงการรับจำนำข้าว เพียงเพื่อประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้นแม้จะหมิ่นเหม่ต่อการถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกสมุนเผด็จการเพราะโต้แทนรัฐบาลทุกเม็ดก็ยอม พร้อมทั้งตนทำนายว่า สุดท้ายรัฐบาลก็จำเป็นจะต้องอุดหนุนชาวนา อาจจะเรียกชื่อโครงการแตกต่างกันไปบ้างก็ไม่ว่ากัน และสิ่งนี้จะได้เป็นข้อพิสูจน์ให้สาธารณชนและกระบวนการยุติธรรมเห็นว่า โครงการรับจำนำข้าว หรือโครงการอุดหนุนเกษตรกรรูปแบบต่างๆ จะคิดกำไร ขาดทุนไม่ได้
“ชาวนาพิษณุโลกถามหาหมอวรงค์กลับไปเยี่ยมชาวนาที่พิษณุโลกบ้าง อย่าทำตัวเป็นบุคคลสาบสูญจากพื้นที่ กิน อยู่สบายในเมือง แต่ชาวนาอดอยากปากแห้ง ผมทราบมาตั้งแต่ต้นและพยายามเตือนสติเพื่อน ส.ส.มาหลายครั้งว่า นโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรไม่ควรไปมีอคติและใช้เป็นเครื่องมือทำลายกันทางการเมืองเมื่อนำเอานโยบายที่ดีมาทำลายกันทางการเมือง สุดท้ายชาวนา ชาวไร่มันสำปะหลัง และไร่ข้าวโพดก็ตายทั้งเป็น”นายนครกล่าว
หมอวรงค์โต้กลับนครเปลี่ยนไป
ต่อมาวันที่ 30 ตุลาคม นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่คิดเลยว่านายนคร มาฉิม คนที่ตนเคยเชื่อถือนั้นเปลี่ยนไป จากที่ก่อนหน้านี้เคยตำหนินโยบายรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่ามีแต่การทุจริตแล้วเอาชาวนามาอ้าง
จำได้หรือไม่ว่าข้าวชาวนาถูกวัดความชื้น 38% มีประเทศเดียวในโลก มีการสวมสิทธิชาวนา เซอร์เวย์เรียกเก็บหัวคิว นั่งร้านซุกในกองข้าว มีข้าวเน่าข้าวเสื่อมและข้าวผิดประเภทยัดภายในกองข้าวดี อ้างทำข้าวถุงราคาถูกขายคนจน รวมทั้งอ้างขายข้าวจีทูจี โกงกันจนโครงการเสียหาย ไม่มีเงินจ่ายชาวนาจนชาวนาฆ่าตัวตาย ก็ไม่มีคนพรรคเพื่อไทย (พท.) สนใจสักราย
ดังนั้น นายนครน่าจะรู้ว่ารัฐบาลต้องจ่ายเงินค่าจำนำข้าวไปทั้งหมดประมาณ 9.4 แสนล้านบาท แต่ทำไมชาวนายังจนอยู่ เงินไปอยู่ที่ใครหมด มีแต่นายทุนโรงสี เจ้าของโกดัง เซอร์เวย์เยอร์ และนักการเมืองเท่านั้นที่ร่ำรวย
เซอร์เวย์เยอร์ทุน 15 ล้านทำความเสียหาย 42,000 ล้าน
นพ.วรงค์กล่าวต่อว่า นายนครรู้หรือไม่ว่า บริษัทเซอร์เวย์เยอร์เฉพาะในพื้นที่ของสำนักงาน ป.ป.ท.เขต 6 ที่ตั้งใน จ.พิษณุโลกบ้านเรานั้น มีเซอร์เวย์ประมาณ 5 บริษัท ทุนจดทะบียนรวมประมาณ 15 ล้านบาท ตรวจข้าว 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง แต่สร้างความเสียหายของข้าวสูงถึง 42,000 ล้านบาท เงินทุนรวมประมาณ 15 ล้านบาท สร้างความเสียหายสูงถึง 4.2 หมื่นล้านบาท มีแต่จำนำข้าวรัฐบาลยิ่งลักษณ์เท่านั้นที่ทำได้ ย้ำนะว่าทุกคนต้องการให้ช่วยชาวนา แต่ไม่ใช่ให้ทุจริตครั้งมโหฬารที่สุดของประเทศ
“ส่วนที่บอกว่า ให้ผมมาดูแลชาวนานั้น แสดงว่านายนครไม่รู้เลยว่าผมอยู่กับพี่น้องชาวนาตลอด ผมรู้แม้กระทั่งราคาข้าวเปลือกหอมมะลิราคาตกต่ำเท่ากับข้าวเปลือกเจ้า เพราะมีการรวมหัวกันทุบราคาเพื่อหวังดิสเครดิตรัฐบาล เพื่อช่วยพวกทุนสามานย์ ทำไมนายนครและพรรค พท.จึงไม่ตำหนิพวกเหล่านี้ นายนครรู้หรือไม่ว่า ผมยังช่วยรวมกลุ่มพี่น้องชาวนาให้ชาวนาทำนาปลูกข้าว สีข้าวเปลือก ขายข้าวสาร เพื่อปลดแอกตนเองจากนายทุนในนามข้าวบ้านเสาหิน พิษณุโลก เห็นว่าเป็นแนวทางที่ดีจึงเสนอให้รัฐบาลดำเนินการ หรือว่านายนครต้องการให้ชาวนาเป็นทาสนายทุน อยากฝากถึงนายนครว่า ยังไม่สายเกินไปที่จะเปลี่ยนใจ เมื่อรู้ว่าเขาเป็นโจรจะเดินตามโจรทำไม เพราะตอนนี้ประเทศของเราก็ยังอยู่ในภาวะเสี่ยง กลับมาช่วยกันกอบกู้ชาติบ้านเมืองดีกว่า ถ้ายังดื้อดึง ระวังเวลาที่ไปไหนชาวบ้านเขาจะถามว่า นักการเมืองเขาขายตัวกันอย่างไร” นพ.วรงค์กล่าว