อาถรรพ์!! 8 นักประดิษฐ์ชื่อก้องโลก ผู้ถูกสาปให้ตายเพราะสิ่งที่ตนคิดค้นขึ้น!

โธมัส แอนดรูว์ส คือผู้ออกแบบเรือที่เสนอว่า ไททานิค (Titanic) ควรมีเรือชูชีพอย่างน้อย 46 ลำ แต่สุดท้ายผู้สร้างดันออกแบบให้รองรับได้แค่ 20 ลำเท่านั้น แล้วหลังจากไททานิคจม ผู้รอดชีวิตจากเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนั้นเล่าว่า โธมัสใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตในการช่วยเหลือผู้โดยสารด้วยการจัดหาเสื้อชูชีพและจัดให้ผู้โดยสารลงเรือเล็ก หลังจากที่ได้ช่วยทุกคนอย่างสุดความสามารถ เขาก็เดินเข้าไปในห้องสูบบุหรี่ชั้นเฟิร์สคลาส มองดูภาพวาด “Approach to the New World” หลังจากนั้นไม่มีใครพบเห็นเขาอีกเลย ซึ่งความกล้าหาญของเขาทำให้ผู้คนระลึกถึงเขาในฐานะ ฮีโร่แห่งไททานิค…

2.ชายผู้ค้นพบเคล็ดลับแห่งความเยาว์วัย แต่กลับตายด้วยน้ำมือของตัวเอง

ในทุกยุคสมัย สิ่งหนึ่งที่ผู้คนจำนวนมากปราถนาก็คือ “มนต์ขลังแห่งความเยาว์วัย” ซึ่ง Alexander Bogdanovก็คือหนึ่งในชายผู้ลุ่มหลงในค่านิยมนี้ ซึ่งเขาเชื่อว่าการถ่ายเลือดสามารถทำให้คนดูอ่อนเยาว์ได้ จากนั้นเขาก็รีบทดลองทฤษฏีดังกล่าวทันทีในปี 1920 และเขาดูจะคลั่งในสมมติฐานนี้มากถึงขั้นขอร้องให้สตาลินแห่งรัสเซีย ก่อตั้งสถาบันการถ่ายเลือดแห่งชาติขึ้น แล้ว Bogdanov ก็ดูจะตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อการถ่ายเลือดทั้ง 11 ครั้งช่วยทำให้สายตาของเขามีประสิทธิ ภาพเยี่ยมขึ้นและทำให้หัวไม่ล้าน แต่แล้วเขาก็จบชีวิตลงอย่างน่าเศร้าเมื่อเผลอถ่ายเลือดจากลูกศิษย์ ที่ติดเชื้อมาลาเรียและวัณโรคเข้าไปในร่างกาย

3.ขุนนางแห่งแคว้นฉินผู้คิดค้นวิธีประหารสุดโฉด ตายด้วยการประหารที่ตนริเริ่ม

นี่คือเรื่องราวของ Li Si ขุนนางคนสำคัญแห่งแคว้นฉินที่ยิ่งใหญ่ โดยเขาเป็นคนคิดวิธีประหาดที่เหี้ยมโหดที่สุดอันหนึ่งในประวัติศาสตร์ ภายใต้ชื่อ “การลงทัณฑ์ 5 ประการ (Five Pains)” ซึ่งวิธีนี้จะจับนักโทษมาทรมานเริ่มตั้งแต่ ประทับตราด้วยถ่านร้อนบนหน้าผาก,จากนั้นก็จะคว้านจมูกออก แล้วก็เริ่มตัดนิ้วเท้าทั้งหมด, จากนั้นก็จะตอนอวัยวะเพศ และประหารให้ตายคาที่ (โอย โหดบรรลัย) แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป ขันทีของแคว้นฉินอย่าง Zhao Gao ก็ได้ใส่ร้ายและลงทัณฑ์ Li Si ด้วยวิธีการที่สุดโฉดที่เขาคิดค้นขึ้น และนั่นก็ทำให้ขุนนางใหญ่ถูกประทับตราที่หน้าผาก,ตัดจมูก,เฉือนนิ้วเท้า,กกอวัยวะเพศ,และตัดคอทิ้งในที่สุด

4.นักวิทยาศาสตร์หญิงผู้คว้ารางวัลโนเบล ตายด้วยกัมมันตภาพรังสีที่เธอศึกษา

ขอบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่นักวิทยาศาสตร์หญิงคนหนึ่งจะโดดเด่นถึงขั้นคว้ารางวัลโนเบลได้ แต่ Marie Curie คือหนึ่งในน้อยคนนั้น อีกทั้งเธอยังเป็นหญิงเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่คว้าโนเบลพร้อมกันสองสาขา ทั้งในด้านฟิสิกส์และเคมี โดยงานวิจัยของเธอถูกนำมาสานต่อจนกลายเป็นเทคโนโลยี X-Ray ในปัจจุบัน แต่เพราะอยู่กับรังสีมากเกินขนาดทำให้ร่างของเธอดูดซึมมันมากเกินไป ก่อนจะสิ้นใจด้วยโรคลูคีเมียในปี 1934 (เสียดายยอดหญิงคนเก่งจัง)

5. นักประดิษฐ์บอลลูนยักษ์เสียชีวิตขณะโบยบินข้ามช่องแคบอังกฤษ

Pilâtre de Rozier คือชายผู้ประดิษฐ์บอลลูนยักษ์ที่ลุ่มหลงในชื่อเสียง และเมื่อเขาได้ยินว่ามีคนสร้างบอลลูนตัดหน้า เพื่อลอยข้ามช่องแคบอังกฤษเขาก็ริษยามาก จากนั้นเขาจึงสร้างบอลลูน Rozière ตามชื่อตนเองและได้ดัดแปลงให้มันดีกว่าบอลลูนของทุกคน ซึ่งสามารถจุเชื้อเพลิงด้วยระบบไฮโดรเจนและแก๊ส แต่ระหว่างทางขณะลอยขึ้นฟ้าในช่องแคบอังกฤษลมก็เกิดเปลี่ยนทิศทำให้บอลลูนเกิดยุบตัวและร่วงลงจากความสูง 1,500 ฟุต จนทำให้ทั้งสองเสียชีวิต เกร็ดความรู้เพิ่มเติม : นับตั้งแต่นั้นระบบเชื้อเพลิงบอลลูนแบบไฮบริดที่ใช้เชื้อเพลิงแก๊สและไฮโดรเจน จึงเรียกว่า Rozière balloon

6.นักประดิษฐ์เครื่องผลิตหนังสือพิมพ์ ที่ตายเพราะสิ่งที่เขาคิดค้น

กว่าที่หนังสือพิมพ์จะออกมาอย่างทุกวันนี้ แท้จริงแล้วมีต้นกำเนิดมาจากฝีมือของ William Bullock ในปี 1863ซึ่งสิ่งประดิษฐ์ของเขาเปรียบเหมือนต้นแบบแห่งเครื่องผลิตหนังสือพิมพ์ในยุคปัจจุบัน แต่แล้วในขณะที่ทดสอบ เขาก็พลาดเอาขาเข้าไปติดในเครื่องจักรและมันก็บดขาข้างนั้นของเขาซะยับ ซึ่งหลังจากที่ช่วยออกมา บาดแผลที่เกิดขึ้นก็ติดเชื้อลุกลาม จนทำให้เขาเสียชีวิตในการผ่าตัดรักษา

7. “ราชานักถลาลม” สูญเสียการควบคุมเครื่องร่อนจนทำให้กระดูกสันหลังหัก จากนั้นก็ตายในเวลาต่อมา

Otto Lilienthal คือชายผู้เป็นแรงบันดาลใจให้พี่น้องตระกูลไรท์ เขาได้ถลาลมด้วยเครื่องร่อนของเขาหลายครั้ง ก่อนที่เขาจะสร้างครื่องร่อนสำเร็จ การบินนั้นเป็นเรื่องที่ไปไม่ได้ และเป็นความฝันของคนโง่เท่านั้น ออตโต้ได้สร้างเครื่องร่อนโดยรวมแล้ว 18 แบบด้วยกัน เขาร่อนเครื่องร่อนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 ครั้ง แต่แล้วการเดินทางด้วยเครื่องร่อนของเขาก็มีอันต้องสิ้นสุดลง เมื่อเขาสูญเสียการควบคุมและทำให้เครืองร่อนไถลลงสู่พื้น ทำให้กระดูกสันหลังของเขาหัก ระหว่างที่นอนในโรงพยาบาลก่อนเขาจะเสียชีวิต เขาได้ทิ้งประโยคสุดท้ายว่า “Opfer müssen gebracht werden!” แปลว่า “ต้องมีการเสียสละเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น”

8.Wan Hu ขุนนางผู้ได้ชื่อว่าออกเดินทางสู่ดวงจันทร์ด้วยการผูกจรวด 47 แท่งเข้ากับเก้าอี้

(รูปหลุมบนดวงจันทร์ ที่ถูกเรียกว่า Wan-Hoo crater)

ตามตำนานของชาวจีน Wan Hu คือขุนนางในยุคราชวงค์หมิงผู้ใฝ่ฝันที่จะไปดวงจันทร์ จากนั้นเขาได้ผูกว่าว 2 ตัว คู่กับจรวดที่ทำจากดินปืน 47 แท่งเข้ากับเก้าอี้ และให้คนรับใช้ช่วยจุดชนวน แล้วมันก็บรึ้มมมม และหลังจากการระเบิดครั้งใหญ่นั้น…ทั้ง Wan Hu และเก้าอี้ของเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งแม้จะยังไม่มีหลักฐานเป็นที่แน่ชัดว่าตำนานของ Wan Hu เป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่มีหลุมบนดวงจันทร์แห่งหนึ่งตั้งชื่อตามเขาว่า Wan-Hoo crater เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ทั้งนี้หมีขาวขอเสริมข้อมูลเล็กน้อยว่า ในปีจรวดถูกพัฒนาขึ้นในจีนตั้งแต่ปี 1232  ฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าวีรกรรมบ้าๆของ Wan Hu อาจเคยเกิดขึ้นจริง (แต่ไม่รู้จะไปถึงดวงจันทร์ จริงรึไม่)

จขกท.กุไม่รุกุเมา